กรุงศรี เปิดตัวอีกกลยุทธ์มัดใจลูกค้าเอสเอ็มอี ด้วย Loyalty Program กับโครงการ “ยิ่งใช้ ยิ่งได้คืน” โดยทุกๆ การใช้จ่ายวงเงินเบิกเกินบัญชี หรือโอดี ลูกค้าเอสเอ็มอีจะได้รับแต้มสะสมกรุงศรี Yellow Points ซึ่งสามารถนำมาแลกรับของรางวัลต่างๆ ได้ อาทิเช่น ทองคำ iPad mini บัตรเติมน้ำมัน หรือแลกกลับเป็นเงินสด โดยช่วงเปิดตัว 3 เดือน ยอดสินเชื่อเอสเอ็มอีเพิ่มขึ้น 3,300 ล้านบาท
นายแดน ฮาร์โซโน่ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านการตลาดและพัฒนาธุรกิจต่างประเทศ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “โครงการดังกล่าวจัดทำขึ้นเพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ในระยะยาวกับกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเป็นอย่างดี ส่งผลให้ยอดการใช้วงเงินโอดีของลูกค้าเอสเอ็มอีเพิ่มขึ้นมากกว่า 3,300 ล้านบาทนับแต่เปิดตัวโครงการในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และในปี 2557 กรุงศรีจะเปิดตัว กรุงศรี SME Loyalty Program อย่างเต็มรูปแบบเพื่อแทนคำขอบคุณให้กับลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคาร”
คะแนนกรุงศรี Yellow Points เกิดจากการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านตู้ ATM หรือ กรุงศรีออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น การชำระค่าสินค้าหรือบริการ การเติมเงินมือถือ หรือการถอนเงินข้ามเขตผ่านตู้เอทีเอ็ม การสมัครบัตรเดบิต รวมถึงการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต เป็นต้น พร้อมล่าสุดที่ให้คะแนนสะสมแก่ลูกค้าที่ใช้บริการวงเงินเบิกเกินบัญชี (O/D) และในอนาคตจะขยายการสะสมคะแนนกรุงศรี Yellow Points ออกไปสู่ธุรกิจในเครือ ทั้งกรุงศรีออโต้ กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ และศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าของธนาคารสามารถสะสมคะแนน กรุงศรี Yellow Points รวมถึงนำมาแลกของได้ง่ายขึ้นด้วย
อนึ่งปัจจุบันธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของไทย และดำเนินธุรกิจมานานกว่า 68 ปี ธนาคารเป็นบริษัทในเครือของธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ (BTMU) ซึ่งถือหุ้น 100% โดยกลุ่มมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) กลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก ธนาคารกรุงศรีอยุธยาให้บริการทางการเงินการธนาคารอย่างครบวงจร ทั้งในด้านสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค การลงทุน การบริหารจัดการกองทุน รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอันหลากหลายแก่กลุ่มลูกค้าบุคคล ลูกค้า SME และลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ผ่านสาขาของธนาคารรวม 604 สาขา และช่องทางการขายกว่า 19,900 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ ธนาคารยังเป็นผู้ออกบัตรเครดิตรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีจำนวนบัญชี (ธุรกิจบัตรเครดิตและธุรกิจสินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระ/สินเชื่อส่วนบุคคล) มากกว่า 6.3 ล้านบัญชี และเป็นผู้ให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์ชั้นนำ (กรุงศรี ออโต้) พร้อมทั้งมีบริษัทบริหารจัดการกองทุนที่มีอัตราเติบโตสูงที่สุดแห่งหนึ่ง (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด) ทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้มีรายได้น้อยผ่านบริษัท ซีเอฟจี เซอร์วิส จำกัด หรือ ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้ออีกด้วย
กรุงศรี มีพันธะสัญญาในการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างสูงสุด และธนาคารได้ผ่านการรับรองการเป็นสมาชิกอย่างสมบูรณ์ของ “แนวร่วมปฎิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต” โดยมุ่งร่วมมือกับองค์กร ชั้นนำในไทย และผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียของธนาคาร เพื่อให้การดำเนินธุรกิจปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่น
ด้านมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) เป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก โดยมีมูลค่าสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 234 ล้านล้านเยน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2556) หลักทรัพย์ของกลุ่ม MUFG จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ตลาดหลักทรัพย์นาโกยา และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก โดยธุรกิจของกลุ่ม MUFG ประกอบด้วย 5 บริษัทหลัก ได้แก่ ธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ, มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ทรัสท์ แอนด์ แบงก์กิ้ง คอร์เปอเรชั่น, บริษัท มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ซิเคียวริตี้ โฮลดิ้ง, บริษัท มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ NICOS จำกัด และบริษัท มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ลิส แอนด์ ไฟแนนซ์ จำกัด โดยกลุ่ม MUFG ให้บริการทางการเงินที่หลากหลาย ซึ่งครอบคลุมทั้ง ธนาคารพาณิชย์ ทรัสต์ แบงก์กิ้ง ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อย ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธุรกิจเช่าซื้อ และอีกหลากหลาย โดยกลุ่ม MUFG มีเครือข่ายธุรกิจข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มสถาบันการเงินในญี่ปุ่น ซึ่งประกอบด้วยสำนักงานและบริษัทในเครือมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมทั้ง ธนาคารยูเนียน แบงก์ด้วย
ข่าวเด่น