ทิศทางเศรษฐกิจปี 2557 หรือปีม้าไม้ มีแนวโน้มไม่สดใสเท่าที่ควร TMB Analytics คาดโตเพียง 2-3% จากเดิมคาดว่าจะโต 4.2%
ทิศทางเศรษฐกิจในปี 2557 หรือปีม้าไม้ มีแนวโน้มว่าจะไม่สดใสเท่าที่ควร โดยเฉพาะเมื่อสถานการณ์การเมืองยังไม่มีทีท่าว่าจะหาข้อยุติจากกลุ่มผู้ชุมนุมและรัฐบาลได้ง่ายๆ ซึ่งศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics คาดเศรษฐกิจปี 57มีแนวโน้มขยายตัวเพียงร้อยละ 3.3 จากร้อยละ 4.2 ตามประมาณการเดิม เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจากอัตราขยายตัวของปี 56 ที่น่าจะอยู่ราวร้อยละ 2.9 เนื่องจากการลงทุนที่คาดหวังเป็นตัวชี้นำเศรษฐกิจสะดุดลง ขณะที่การบริโภคขยายตัวได้ในวงจำกัด และการส่งออกที่เป็นความหวังเดียวว่าจะผลักดันการเติบโตยังคงขยายตัวไม่เป็นไปในอัตราเร่ง
ส่วนการลงทุนแม้จะไม่ถึงขั้นเกียร์ว่าง แต่ก็มีแนวโน้มลดลงอย่างชัดเจน สืบเนื่องจากโครงการลงทุนตามกฎหมายพิเศษของรัฐบาลชุดก่อน ทั้งเมกะโปรเจกต์คมนาคมขนส่ง 2 ล้านล้านบาทและแผนลงทุนบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ที่มีอันต้องล่าช้าออกไปในช่วงสุญญากาศทางการเมือง และมีแนวโน้มที่ต้องถูกหยิบยกมาทบทวนพิจารณากันใหม่ หากรัฐบาลใหม่ยังคงเดินหน้าโครงการต่อ
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าอาจมีบางโครงการที่เตรียมความพร้อมไว้แล้วและจะได้รับการผลักดันให้ดำเนินการต่อ โดยโยกไปขอใช้งบลงทุนประจำปี 2557 บางส่วนจากงบลงทุนทั้งก้อนที่มีอยู่ 4.4 แสนล้านบาทแทนการใช้เงินกู้ตามพ.ร.ก. เพื่อทำให้โครงการที่มีความพร้อมลงทุนเดินหน้าต่อไป
ทั้งนี้แรงขับเคลื่อนที่มีบทบาทมากขึ้นและเป็นความหวังช่วยประคองเศรษฐกิจ ได้แก่ การฟื้นตัวของภาคส่งออกของไทยตามสัญญาณบวกเศรษฐกิจโลกที่ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะสหรัฐฯ สะท้อนจากข้อมูลล่าสุดที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ได้ประกาศลดขนาดวงเงินที่อัดฉีดเข้าระบบโดยเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม 2557 เหลือเดือนละ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
และแนวโน้มการขยายตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญทั้งญี่ปุ่น จีนและอาเซียน ซึ่ง TMB Analytics คาดว่าจะเห็นตัวเลขส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐในปีหน้าเติบโตที่ร้อยละ 4.4 เทียบกับฐานในปี 2556 ที่แทบจะไม่ขยายตัว อีกทั้งเชื่อว่าภาคท่องเที่ยวยังคงเติบโตต่อไปแม้แป็นไปในอัตราชะลอลง ตามบรรยากาศการท่องเที่ยวที่ถูกลดทอนจากความไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง
สอดคล้องกับมุมมองของผู้บริหารจากธปท.นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ที่เชื่อว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2557 อาจขยายตัวต่ำกว่าร้อยละ 4 ตามที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากสถานการณ์การเมืองได้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคให้ชะลอตัวลงต่อเนื่อง รวมทั้งการเบิกจ่ายภาครัฐตามโครงการต่างๆ ต้องล่าช้าออกไป เพราะปัญหาการเมืองยืดเยื้อกว่าที่คาด
ส่วนภาคเอกชน นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจในปี2557 จะทรงตัว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศที่เกิดขึ้นในปี 2556 อีกทั้งภาคการส่งออก ไม่มีสัญญาณบวกโดยเฉพาะอุตสาหกรรมรถยนต์ และหากเศรษฐกิจอเมริกาและยุโรปยังไม่ฟื้นตัว ยอดการสั่งซื้อสินค้าส่งออกย่อมน้อยลง ซึ่งอาจส่งผลให้ยอดส่งออกของไทยติดลบได้
ขณะที่ผู้บริหารจากไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรามาม่ากล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจของไทยปี 2557 จะเติบโตแค่ 2-3% เท่านั้น โดยการเมืองเป็นปัจจัยชี้ชะตาเศรษฐกิจและกำลังการซื้อของผู้บริโภค
ด้านนายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท.ประเมินเศรษฐกิจของไทยปี 2557 ว่า ยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกและภายใน ทั้งปัญหาเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัวและการเมืองในประเทศที่มีแนวโน้มยืดเยื้อ แม้หลายฝ่ายพยายามหาทางออกเพื่อแก้ปัญหาการเมือง โดยเสนอให้จัดตั้งสภาปฏิรูป แต่จากการติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ยังไม่เห็นสัญญาณที่มีแนวโน้มคลี่คลาย เพราะทั้งข้อเสนอของรัฐบาลและกลุ่ม กปปส.ยังมีความเห็นที่แตกต่างกัน
ทั้งนี้ แม้การเลือกตั้งอาจเกิดขึ้นในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ แต่การจัดตั้งรัฐบาลและการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ จะเริ่มเดินหน้าได้ ต้องใช้เวลา และคาดว่าจะสามารถเริ่มได้ในเดือนมีนาคมไปแล้ว ส่งผลให้ไตรมาสแรกของปีนี้ เศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะสุญญากาศ การดำเนินการใดๆ ต้องรอรัฐบาลใหม่ขับเคลื่อนเท่านั้น
ข่าวเด่น