กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯโดยอพวช.แถลงผนึกกำลัง 3 กระทรวงพันธมิตรด้านวิทยาศาสตร์บนถนนโยธีและถนนพระรามที่ 6 ได้แก่ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงศึกษาธิการเตรียมจัดงาน “ถนนสายวิทยาศาสตร์” รับวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2557ขึ้นระหว่างวันที่ 9-11 มกราคม 2557 นี้ ณ กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ถนนพระรามที่ 6 เพิ่มทางเลือกผู้ปกครองนำสมาชิกตัวน้อยเข้าร่วมกิจกรรมเปิดโลกทัศน์นอกห้องเรียน ได้ทั้งความสนุกสนานและความรู้เพิ่มพูนปัญญา เป็นรากฐานสู่การเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคต
ดร.พีรพันธุ์ พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(วท.)เปิดเผยว่า วันเด็กในปีนี้อยากให้เป็นวันที่ดีตามคำขวัญของนายกรัฐมนตรีที่มอบให้ในปีนี้ว่า “กตัญญู รู้หน้าที่ เป็นเด็กดี มีวินัย สร้างไทยให้มั่นคง” ซึ่งการจะสร้างไทยให้มั่นคงจำเป็นต้องมีรากฐานความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ดังที่ปรากฎในหลายประเทศ จึงอยากให้เด็กไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์ ซึ่งกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯมีโครงการถนนสายวิทยาศาสตร์ที่จัดขึ้นโดยถือเอาวันเด็กแห่งชาติของทุกปีเป็นวาระสำคัญในการจัดงานและได้จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 8 แล้ว
ในปีนี้กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯได้ร่วมกับพันธมิตรด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่งประกอบด้วย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม,กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กระทรวงศึกษาธิการมาสร้างความสนุกสนานให้แก่เด็ก ๆ และเยาวชน รวม 4 กระทรวง 18 หน่วยงาน ระหว่างวันที่ 9-11 มกราคม 2557 โดยในวันที่ 11 มกราคม มีการเปิดบ้านให้น้อง ๆ ได้ไปเรียนรู้วิทยาศาสตร์นอกห้องเรียนอย่างเต็มที่ด้วยการข้ามฝั่งถนนพระรามที่ 6 ไปยังคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ขณะเดียวกันงานถนนสายวิทยาศาสตร์ปีนี้ยังมีขึ้นเพื่อฉลองวันสำคัญ 2 วัน โดยปีนี้ องค์การสหประชาชาติ ร่วมกับ UNESCO และ Union of Crystallography ประกาศให้เป็น “ปีแห่งผลึกศาสตร์สากล” (International Year of Crystallography 2014) เพื่อเฉลิมฉลองปีครบรอบ 400 ปีแห่งการค้นพบผลึกหรือรูปแบบสมมาตรของผลึกน้ำแข็งของ Kepler ที่นำไปสู่การศึกษาเกี่ยวกับคุณสมบัติที่เกิดจากการมีสมมาตรในสสารต่าง ๆ และ “ปีสากลแห่งเกษตรกรรมแบบครอบครัว” (2014 : International Year of Family Farming) เนื่องจากโลกปัจจุบันประสบภาวะขาดแคลนอาหารและหิวโหยเพิ่มขึ้น จึงมีแนวคิดส่งเสริมสนับสนุนให้ครอบครัวทั่วโลกปลูกผักสวนครัวไว้บริโภคภายในครอบครัว การผลิตอาหารที่ปลอดภัยและช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิต ซึ่งสอดพ้องกับหลักเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนั้นเพื่อเป็นการร่วมฉลองปีสากลทั้งสองนี้ จึงมีการจัดสถานีทดลองและกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับผลึกและเกษตรกรรม พร้อมจัดทำเสื้อสีเขียวเป็นที่ระลึกสำหรับเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่าง ๆ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของปีครอบครัวเกษตร
ด้านนายสาคร ชนะไพฑูรย์ รองผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ(อพวช.)รักษาการผู้อำนวยการอพวช. กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานถนนสายวิทยาศาสตร์เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติมาเป็นปีที่ 8 มีความเข้มข้นทั้งความสนุกสนานและวิชาการ ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับให้ผู้ปกครองพาน้อง ๆ เยาวชนมาเที่ยวชม ระหว่างวันที่ 9-11 มกราคมที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ถนนพระรามที่ 6 ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ปกครองและเด็ก ๆ เยาวชนเข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 30,000 คนต่อวัน สำหรับปีนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่าปีที่แล้ว
นอกจากนี้ในวันที่ 11 มกราคม กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯยังจัดกิจกรรมเรียนรู้ฉลองในวันเด็กแห่งชาติแยกอีก 2 ที่ ได้แก่ ที่องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ คลองห้า ปทุมธานีที่พร้อมนำเสนอนิทรรศการหุ่นยนต์และอื่น ๆ อีกมากมายและที่จัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช.จามจุรีสแควร์
สำหรับกิจกรรมที่น้อง ๆเยาวชนจะได้เปิดโลกการเรียนรู้ภายในงาน ณ กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯมีอยู่ทั้งสิ้น 51 สถานี รวมกว่า 100 กิจกรรม โดยน้อง ๆ จะได้รับพาสปอร์ตเพื่อบันทึกการเข้าร่วมกิจกรรม ท้าทายความสามารถต่าง ๆ ให้ครบทุกสถานี ซึ่งจะได้รับรางวัลต่าง ๆมากมายที่เตรียมไว้ให้ ณ ซุ้มรับรางวัล
ตัวอย่างกิจกรรมที่เป็นไฮไลท์ของงาน อาทิ สถานีโลกสวยด้วยผลึก ซึ่งจะมีการทดลองทำกิจกรรมสร้างผลึกด้วยตนเองและนำกลับไปเลี้ยงต่อที่บ้าน รวมถึงการทดลองสกัดผลึกจากสิ่งมีชีวิต หรือ “ปลิงทะเล” เพื่อให้เด็ก ๆ ได้ทราบว่า ผลึกมีอยู่ในสิ่งมีชีวิตเช่นกัน โดยทีมงานวิจัยของอพวช.ได้ศึกษาโครงสร้างผลึกในปลิงทะเลที่มีอยู่นับร้อยชนิดในทะเลของไทย ซึ่งหลังการศึกษามีการจัดทำเป็นฐานข้อมูลเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา ณ อพวช. คลองห้า ปทุมธานี โดยข้อมูลนี้เป็นประโยชน์สำหรับนักอนุกรมวิธานสามารถนำไปใช้ในการจำแนกชนิดของปลิงทะเลและนำไปสู่การค้นพบชนิดพันธุ์ใหม่ ๆ ของปลิงทะเล ขณะเดียวกันยังสามารถนำไปใช้ในการศึกษาต่อยอดเพื่อค้นหาสารเคมีของปลิงทะเลเพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์ได้ในอนาคต เนื่องจากปลิงทะเลบางชนิดมีเคมีที่มีฤทธิ์ทางยาหลายอย่าง
นอกจากนี้น้อง ๆ เยาวชนยังจะได้สัมผัสประสบการณ์จริงกับสถานีเกษตรอินทรีย์และ Family Farming ซึ่งมีนิทรรศการเกษตรอินทรีย์ กิจกรรมปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้และกิจกรรมมาเพาะถั่วงอกกันเถอะ สถานีเกษตรกรน้อยนักประดิษฐ์ที่ให้เกษตรกรน้อยคิดสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านการเกษตร ได้ส่องกล้องดูดวงอาทิตย์ กล้องพิเศษที่ช่วยให้มองเห็นดวงอาทิตย์ได้อย่างปลอดภัย สอดคล้องกับการจัดกิจกรรมในเวลากลางวัน และสถานีครอบครัวปลอดภัยเข้าใจสารเคมี & คลังสมองของนักวิทยาศาสตร์น้อย ที่จะให้ความรู้ความเข้าใจด้านสารเคมีภายในบ้าน อาทิ สารเคมีในห้องครัว ห้องน้ำและห้องนอน เป็นต้น
น้อง ๆ เยาวชนและโรงเรียนที่สนใจสามารถมาเที่ยวเปิดโลกทัศน์ในงานถนนสายวิทยาศาสตร์ได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยโรงเรียนหรือการมาเป็นหมู่คณะสามารถติดต่อเพื่อความสะดวกในการเข้าชมงานได้ที่ 02-5779999 โดยสามารถมาได้โดยรถประจำทางสาย 8,44,67,97,ปอ.44,ปอ.157,ปอ.171,ปอ.509,ปอ.538 หรือรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งในวันที่ 11 มกราคม กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯได้เตรียมรถ Shuttle Bus ไว้บริการรับ-ส่ง ณ สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้มาเที่ยวชมงาน
"ถ้าพูดถึงจำนวนทุกปีที่ผ่านมามีเด็ก ๆและเยาวชนเข้าชมไม่ต่ำกว่า 30,000 คนต่อวัน ปีนี้คาดหวังว่าจะไม่ต่ำกว่าเดิม การคาดหวังที่สอง อยากให้เป็นทางเลือกสำหรับเยาวชนไทยที่จะเที่ยววันเด็กในกรุงเทพมหานคร และที่นี่สิ่งที่เราทำให้คือ ไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายสักบาท แต่ของรางวัลเราให้เต็มที่
นอกจากนี้ยังคาดหวังว่า เยาวชนไทยจะได้มีทางเลือกในการละเล่น อย่างมีเหตุมีผล กระบวนการคิดทางวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องที่สำคัญ เราต้องการให้เด็กคิดเป็น ทำเป็นและนำเสนอเป็น กล้านำเสนอ นั่นคือสิ่งที่เราคาดหวังว่า กิจกรรมที่เรามีทั้งหมดจะสามารถทำให้เด็กได้คิดเป็น ได้มีกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ
สุดท้ายอยากให้ประเทศไทย เยาวชนไทยและสังคมรับรู้ว่า บทบาทของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯเป็นอย่างไร หน่วยงานต่าง ๆ มีหน้าที่ทำอะไร เพราะหน่วยงานต่าง ๆ จะนำศักยภาพของตัวเองมาลดอายุลงเพื่อให้เด็ก ๆรับรู้กิจกรรมของตัวเอง วันนั้นจะได้ความสนุกสนานกลับไป และสาระเกินร้อย" นายสาครกล่าว
ข่าวเด่น