การมีประวัติที่ยาวนานได้สร้างชื่อเสียงที่มั่นคงและทำให้บริษัทสามารถขยายสู่ธุรกิจการให้บริการบริหารโรงแรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่ ประเทศฟิลิปปินส์ มัลดีฟส์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอียิปต์ ณ เดือนกันยายน 2556 บริษัทมีโรงแรมภายใต้การบริหารงานจำนวน 4,848 ห้อง โดยในจำนวนนี้เป็นโรงแรมที่บริษัทให้บริการบริหารจัดการ 41% แม้บริษัทจะขยายการดำเนินธุรกิจไปยังต่างประเทศ แต่รายได้มากกว่า 70% ยังคงมาจากการดำเนินธุรกิจภายในประเทศเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม คาดว่าโรงแรมแห่งใหม่คือ ดุสิตธานีมัลดีฟส์ ซึ่งเปิดให้บริการเต็มรูปแบบเมื่อเดือนกันยายน 2555 จะช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศของบริษัทให้มีมากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบที่เกิดจากความเสี่ยงจากเหตุการณ์ไม่ปรกติภายในประเทศได้บางส่วน นอกจากนี้ บริษัทยังดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการศึกษาและการฝึกอบรมด้วย อย่างไรก็ตาม รายได้จากธุรกิจดังกล่าวยังอยู่ในสัดส่วนที่ต่ำ
ผลการดำเนินงานของบริษัทค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่บริษัทได้รับผลกระทบจากสภาพตลาดที่ไม่เอื้ออำนวยและการแข่งขันที่รุนแรงของธุรกิจโรงแรมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในปี 2555 บริษัทบันทึกรายได้ 4,318 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับปี 2554 ส่วนในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 นั้น รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 3,417 ล้านบาท การเพิ่มขึ้นของรายได้ดังกล่าวมีปัจจัยหลักมาจากการเปิดให้บริการเต็มรูปแบบของโรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟส์ เมื่อเดือนกันยายน 2555
สำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2556 อัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 70% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 65% ในขณะที่อัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืนเพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอยู่ที่ 3,503 บาท อัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืนที่เพิ่มขึ้นมีสาเหตุหลักมาจากอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืนที่สูงของโรงแรมดุสิตธานีมัลดีฟส์ ซึ่งยังส่งผลให้อัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืนของกลุ่มดุสิตธานีปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย
ข่าวเด่น