ทีเอสแอล เผยผลการดำเนินงานประจำปี 2556 โดยมียอดการจำหน่ายรถยนต์จำนวนทั้งสิ้น 452 คัน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่อยู่ในเกณฑ์รับได้ เชื่อเป็นเพราะปัจจัยภายนอกไม่นิ่งส่งผลให้ลูกค้าส่วนใหญ่ชะลอการตัดสินใจ ย้ำชัดพร้อมเดินหน้ารุกตลาดในปี 2557 นี้ ตั้งเป้ายอดขาย 560 คัน เน้นกลยุทธ์การตลาดเชิงรุก ตอบสนองไลฟ์สไตล์ลูกค้าด้วยสิทธิประโยชน์แบบครบวงจร
นางสาวสุรีย์ภรณ์ อุดมผลวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายยนตรกรรมชั้นนำจากต่างประเทศแบบครบวงจร เผยว่า "ด้วยสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศที่ร้อนระอุตั้งแต่ช่วงปลายปี 2556 มาจนถึงในขณะนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเกิดการถดถอยมากกว่าปีที่ผ่านมา โดยในส่วนของยอดจำหน่ายรถยนต์ของบริษัทฯ นั้นยอมรับว่าค่อนข้างทรงตัว จากปัญหาการเมืองภายในประเทศที่ยังไม่มีความแน่นอน มีผลกระทบกับยอดจำหน่ายโดยตรง และเชื่อว่าคงไม่ได้มีเพียงธุรกิจนำเข้ารถยนต์เท่านั้นที่ได้รับผลกระทบในเรื่องนี้"
ทั้งนี้ มองว่าปัจจัยหลักที่มีผลกับยอดจำหน่ายรถยนต์ของปี 2556 นั้น นอกจากจะเป็นผลมาจากเศรษฐกิจภาพรวมของโลกที่ซบเซาและปัญหาการเมืองในบ้านเราที่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปที่ชัดเจนได้ นอกจากนี้ธุรกิจที่ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องของการนำเข้านั้นต้องบอกว่า อัตราการแลกเปลี่ยนเงินตรา คือ ตัวแปรสำคัญ ตอนนี้ค่าเงินบาทของไทยอ่อนตัวลงมาก ลูกค้าส่วนใหญ่จึงตัดสินใจที่จะชะลอการซื้อออกไปอย่างไม่มีกำหนดแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ทีเอสแอลยังโชคดีที่มีฐานลูกค้าเก่าที่ยังเหนียวแน่น ซึ่งกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ยังเชื่อมั่นในคุณภาพของแบรนด์ทีเอสแอล แม้ว่าตัวเลขยอดจำหน่ายอาจไม่มากเท่าปีที่ผ่านมา แต่หากมองที่ตัวเลขรายได้ถือว่า บริษัทฯ ยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากกลุ่มลูกค้าของทีเอสแอลเป็นลูกค้าระดับไฮเอนด์ที่มีกำลังซื้ออยู่ในระดับสูง
สำหรับปี 2557 นี้ถือเป็นปีที่ดีของทีเอสแอลเพราะเป็นการก้าวเข้าสู่ปีที่ 9 ของการดำเนินธุรกิจผู้นำเข้าอิสระในนามทีเอสแอล ซึ่งทีเอสแอลมีแผนที่จะปรับปรุงพื้นที่ภายในโชว์รูมทุกสาขาให้ใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวของศูนย์บริการ SMRT ศูนย์ซ่อมบำรุงที่ทันสมัยและครบวงจรที่สุด ซึ่งทีเอสแอลยังคงเน้นเรื่องการให้บริการด้านการซ่อมบำรุง โดยยึดหลักการให้บริการซ่อมบำรุงแบบ Excellent Service หรือการบริการที่ดีที่สุดเช่นเดิม ซึ่งเป็นความพยายามของทีเอสแอลในการตอบสนองความต้องการลูกค้าให้ได้มากที่สุด
ทั้งนี้ เพราะกลุ่มลูกค้าของทีเอสแอลมีความชอบในเรื่องรถยนต์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งทีเอสแอลเองก็สามารถตอบโจทย์ความต้องการและตอบสนองลูกค้าได้ในทุกไลฟ์สไตล์ด้วยสิทธิประโยชน์จาก "บัตร มิราเคิล การ์ด" ทั้งประเภทแพลทตินั่มและประเภทโกลด์ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิประโยชน์ด้านส่วนลดในการซื้อสินค้า ส่วนลดสำหรับร้านอาหารและบริการต่างๆ รวมถึงการบริการสำรองพื้นที่จอดรถตามศูนย์การค้าชั้นนำทั่วไป อาทิ เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลพลาซา พระราม 2, เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว, เซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ, เซ็นทรัลพลาซา บางนา และเซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 ซึ่งสิทธิประโยชน์ดังกล่าว จะช่วยอำนวยความสะดวก รวมถึงช่วยประหยัดเวลาให้แก่ลูกค้าได้เป็นอย่างดี เพราะทีเอสแอลให้ความสำคัญกับเรื่องของการบริการหลังการขาย ซึ่งถ้าหากเราบริการลูกค้าได้ดีมีประสิทธิภาพ ลูกค้าก็จะไม่หนีไปไหน และอาจจะไปชักชวนคนรู้จักให้เข้ามาใช้บริการกับทีเอสแอลเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
และจุดแข็งอีกอย่างหนึ่งของทีเอสแอลในปีนี้คือ การบริการด้านลูกค้าสัมพันธ์ ซึ่งทีเอสแอลจะยังคงเน้นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างบริษัทกับลูกค้า โดยเน้นการจัดกิจกรรมที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เช่น การจัดกิจกรรมพบปะสังสรรค์ที่มากขึ้น การจัดกิจกรรมบันเทิงและสันทนาการ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้เป็นส่วนหนึ่งของทีเอสแอล หรือเป็นครอบครัวเดียวกันนั่นเอง
"สำหรับกระแสความนิยมของรถยนต์นำเข้าในปีนี้ต้องบอกว่า รถยนต์ทุกคันที่ทีเอสแอลจะนำเข้ามาจำหน่ายทั้งจากฝั่งยุโรปหรือญี่ปุ่นก็ตาม รถยนต์ทุกคันจะเป็นยนตรกรรมที่เพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยและสามารถรองรับรูปแบบการใช้งานในชีวิตประจำวันทุกรูปแบบได้เป็นอย่างดี และสำหรับลูกค้าที่กำลังมองหารถยนต์ประเภทพลังงานทางเลือกอย่างตระกูล Hybrid เอง ซึ่งในปีนี้อาจเรียกได้ว่า เป็นปีของรถยนต์ประเภทนี้ก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะประหยัดพลังงานและพลังเงินแล้ว ในเรื่องคุณสมบัติของรถยนต์ประเภทนี้ก็เป็นที่น่าจับตามองไม่แพ้รถยนต์ประเภทอื่นๆเช่นกัน" นางสาวสุรีย์ภรณ์ กล่าวทิ้งท้าย
ข่าวเด่น