บลจ.ไทยพาณิชย์ซิวแชมป์อันดับ 1 กองทุนอสังหาฯ - โครงสร้างพื้นฐาน ปี 56 เม็ดเงินใหม่รวมกว่า 7 หมื่นล้านบาท
นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมาสถานการณ์การออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์มีการแข่งขันค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นปีสุดท้ายของการขออนุญาตจัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ (กอง 1) อีกทั้งยังมีความไม่ชัดเจนของการจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITS) จึงทำให้มีผู้ยื่นขออนุญาตจัดตั้งกอง 1 ถึง 11 ราย และผ่านการพิจารณาอนุมัติจากกลต. ไปแล้ว 6 ราย เหลืออีก 5 รายที่อยู่ระหว่างการพิจารณา
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา บลจ.ไทยพาณิชย์ ประสบผลสำเร็จจากการจัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ (กอง1) และ กองทุนโครงสร้างพื้นฐานรวมจำนวน 5 กองทุน จนสามารถครองอันดับ 1 ในอุตสาหกรรม โดยมีเม็ดเงินใหม่ เข้ามากว่า 71,600 ล้านบาท ประกอบด้วย กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอราวัณ โฮเทล โกรท (ERWPF) กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์คริสตัล รีเทล โกรท (CRYSTAL) กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์โรงแรม ศรีพันวา (SPWPF) กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน อินดัสเทรียล โกรท (TGROWTH) และล่าสุด กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ทรูโกรท (TRUEIF) ส่งผลให้บริษัทฯมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารงานรวมทั้งสิ้น 97,586 ล้านบาท และมีขนาดมูลค่าตามราคาตลาด (Market Capitalization) รวมสูงถึง 115,421 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 27 ธันวาคม 2556)
นางโชติกา กล่าวว่า ในปี 2557 ยังจะได้เห็นการแข่งขันที่สูง โดย บริษัทฯ ยังมีแผนออกกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นกองอสังหาฯ ใหม่ที่ยื่นขออนุมัติกลต.ในปีที่ผ่านมา จำนวน 3 กอง เป็นสินทรัพย์ประเภทคลังสินค้าและโรงงาน ศูนย์การค้า และอาคารสำนักงาน นอกจากนี้ ยังมีแผนการเพิ่มทุนกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNRF) และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไพร์มออฟฟิศ (POPF) ที่ผ่านมติผู้ถือหน่วยแล้ว ส่วนกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานอยู่ระหว่างการศึกษา รวมทั้งกองรีทส์ที่มีแผนจะเสนอขายด้วยเช่นกัน โดยคาดว่าในปีนี้จะมีเม็ดเงินเข้ามาจากกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท
“เชื่อว่าในปีนี้เรายังได้เห็นการแข่งขันทั้งกองทุนรวมอสังหาฯ กองทุนรีทส์ และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งถือว่าเหมาะกับสถานการณ์การลงทุนในประเทศขณะนี้ที่มีความผันผวนสูง เนื่องจากกองทุน มีนโยบายในการจ่ายปันผลที่ชัดเจนและต่อเนื่องจาก 90% ของผลกำไร ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเมื่อเทียบกับการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ” นางโชติกา กล่าว
ข่าวเด่น