CPF ออกหุ้นกู้อนุพันธ์ ระดมทุน 9.6 พันล้านบาท นักวิเคราะห์ประเมินเพื่อรีไฟแนนซ์เงินกู้เดิม ผลดีช่วยลดภาระดอกเบี้ยจ่ายลง 160-200 ล้านบาท
นางสาวพัชรา ชาติบัญชาชัย เลขานุการบริษัท บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา C.P. Foods Holding Limited หรือ CPFH ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ CPF ถือหุ้นทั้งหมด และจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายของ British Virgin Islandได้กำหนดราคาและเสนอขายหุ้นกู้อนุพันธ์ (Exchangeable Bonds) มูลค่า 290.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2562 อัตราดอกเบี้ย 0.5 % ต่อปี โดยเสนอขายแก่ผู้ลงทุนต่างประเทศ และจะนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (Singapore Exchange Securities Trading Limited)
พร้อมเปิด 3 ทางเลือกให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้อนุพันธ์ได้แก่ 1) แปลงสภาพหุ้นกู้อนุพันธ์เป็นหุ้น CPALL (ซึ่ง CPF/CPFH ณ ปัจจุบันถือหุ้นใน CPALL คิดเป็นสัดส่วน 32%) 2) ไถ่ถอนหุ้นกู้อนุพันธื์คืนจาก CPFH ในปีที่สองนับตั้งแต่วันที่ออกหุ้นกู้ดังกล่าว หรือ 3) ถือหุ้นกู้อนุพันธ์จนหมดอายุ ภายใต้ทางเลือกที่ 2 หรือ 3 CPFH จะทําการจ่ายคืนเป็นเงินสด
ส่วนทางเลือกที่ 1 ซึ่งผู้ถือหุ้นกู้ใช้สิทธิแปลงสภาพหุ้นกู้เป็นหุ้น CPALL ซึ่ง CPFH อาจจะทําการจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้เป็นเงินสด (ซึ่งเทียบเท่ากับมูลค่าของหุ?น CPALL) หรือจ่าย เป็นหุ้น CPALL ก็ได้ หุ้นกู้อนุพันธ์มีราคาแปลงสภาพที่ 53.30 บาทต่อ 1 หุ้นของ CPALL ซึ่งคิดเป็นเท่ากับ 130% ของราคาปิดของหุ้น CPALL ณ วันที่ 9 มกราคม 2557
ด้านบทวิจัยของบล.บัวหลวงประเมินหุ้น CPF ต่อกรณีที่ บริษัท ซีพี ฟู้ดส์โฮลดิ้งส์ จํากัด (CPFH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ CPF ถือหุ้นทั้งหมด จะทําการออกหุ้นกู้อนุพันธ์จํานวน 290.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่อัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋วที่ 0.5% โดยจะทําการขายให้กับนักลงทุนต่างประเทศ แต่นักลงทุนที่ถือหุ้นกู้อนุพันธ์จนถึงวันหมดอายุหุ้นกู้จะได้รับอัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋วที่ 2.75% และจะทําการซื้อขายในตลาดพันธบัตรสิงคโปร์เริ่มวันที่ 17 มกราคม2557 และหมดอายุในปี 2562 นั้น ถ้าใช้ราคาแปลงสภาพที่ 53.3 บาท CPF จะต้องทําการจัดสรรหุ้น CPALL จํานวน 180 ล้านหุ้น (หรือคิดเป็น 6.3% ของจํานวนหุ้นทั้งหมดของ CPALL) จากสัดส่วนทั้งหมด 32% ที่ถือใน CPALL ณ ปัจจุบัน เราประเมินว่า อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งบริษัทยืนยันว่าราคาของหุ้นกู้อนุพันธ์ที่ทําการเสนอขายจะอยู่ที่มูลค่าหน้าตั๋วของหุ้นกู้และถือเป็นการรีไฟแนนซ์เงินกู้เดิมที่มีอยู่ ซึ่งจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทและหนุนกําไรให้เพิ่มขึ้น ต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยงวด 9 เดือนแรกของปี 2556 อยู่ที่ 4.48% และภายใต้สมมติฐานที่แย่ที่สุดหากผู้ถือหุ้นกู้อนุพันธ์ไถ่ถอนหุ้นกู้ทั้งหมดจาก CPFH ในวันที่ครบกําหนดอายุ เราประเมินว่าอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยต่อปีสําหรับหุ้นกู้อนุพันธ์จะอยู่ที่ 2.75%
ซึ่งในกรณีดังกล่าว CPF จะลดต้นทุนดอกเบี้ยไปได้ประมาณ 175 basis points หรือคิดเป็นดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงไปจํานวน 160 ล้านบาทต่อปี(ไม่รวมความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน) ถ้าไม่รวมความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน การออกหุ้นกู้อนุพันธ์ส่งผลให้ประมาณการกําไรสุทธิของเราเพิ่มขึ้น 1.6% สําหรับปี 2557 และ 1.3% สําหรับปี 2558 และราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2557 เพิ่มขึ้นอีก 2% เป็น 32.70 บาท
ขณะที่บล.ฟินันเซีย ไซรัสประเมินว่า หลังจากการออกหุ้นกู้อนุพันธ์ดังกล่าว CPF จะมีต้นทุนทางการเงินลดลงมาอยู่ที่ราว 4.38 % และทำให้ภาระดอกเบี้ยจ่ายในปีนี้ลดลงจากประมาณการเดิมราว 200 ล้านบาทจากสิ้นไตรมาส3/2556 ที่ก่อให้เกิดดอกเบี้ยทั้งหมดเท่ากับ 1.73 แสนล้านบาท โดยมีต้นทุนทางการเงินเฉลี่ย 4.48%
ข่าวเด่น