สภาธุรกิจตลาดทุนค้าน พ.ร.ก.ฉุกเฉินซ้ำเติมความไม่มั่นใจนักลงทุน ให้พิจารณาใช้ด้วยความระมัดระวัง เศรษฐกิจไทยปัจจุบันเปราะบาง ชี้กระทบท่องเที่ยว ภาคการเงินและการลงทุนในระยะสั้น
สภาธุรกิจตลาดทุนไทยแถลงการณ์ระบุว่า สถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นนี้เป็นวิวัฒนาการของระบบการปกครองที่เคยเกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศ แม้จะก่อให้เกิดความตึงเครียดในสังคมไทย แต่ส่วนดีที่สุดที่มองเห็นคือ ความตื่นตัวอยากมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน กับความเห็นพ้องต้องกันของทุกภาคส่วนในเรื่องจะต้องป้องกัน ต่อต้าน และเอาผิดเกี่ยวกับการคอร์รัปชั่น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี
สำหรับการที่รัฐบาลรักษาการออกพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน(พ.ร.ก.)นั้น สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เห็นว่าจะซ้ำเติมความไม่มั่นใจของนักลงทุนและการทำมาค้าขาย การใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนได้ จึงขอให้พิจารณาใช้ด้วยความระมัดระวัง
นอกจากนี้ สภาธุรกิจตลาดทุนไทยยังมีความเห็นว่า ที่ผ่านมาเกิดวิกฤตมาแล้วหลายครั้ง ทั้งด้านการเมือง ด้านเศรษฐกิจ รวมไปถึงภัยธรรมชาติต่างๆ แต่ในที่สุด เราก็ผ่านมันไปได้เพราะความเข้มแข็งของภาคธุรกิจกับความแข็งขันในการฟื้นฟูประเทศร่วมกันของภาคประชาชน ดังนั้นหากภาคธุรกิจกับภาคประชาชนจะช่วยกันดำเนินธุรกิจและใช้ชีวิตประจำวันกับใช้โอกาสปรับปรุงกิจการภายใน ก็จะมีส่วนช่วยประคองสถานการณ์ในขณะที่ภาคส่วนอื่นยังอ่อนแออยู่
ส่วนมุมมองต่อเศรษฐกิจและการลงทุนในระยะสั้น สภาธุรกิจตลาดทุนไทยเห็นว่า จะมีผลกระทบต่อภาคธุรกิจจริง อาทิ การท่องเที่ยวซึ่งมีธุรกิจบริการและอุตสาหกรรมต่อเนื่องอีกหลายกลุ่ม รวมถึงกระทบต่อภาคการเงินและการลงทุน ในระยะสั้น เนื่องจากเมื่อเทียบภาวะเศรษฐกิจของไทยในปัจจุบันกับในอดีตซึ่งเคยเกิดวิกฤตใหญ่มา 3 ครั้งก่อนหน้า ได้แก่ วิกฤตในปี 2535 2551 และปี 2553 พบว่า ในปัจจุบันเศรษฐกิจไทยมีความเปราะบางมากกว่าวิกฤตในครั้งก่อนๆ แต่ถ้าสถานการณ์จบลงได้โดยสันติอย่างรวดเร็ว จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไม่มาก
อย่างไรก็ดีนักลงทุนที่มีความเข้าใจเรื่องการลงทุนอย่างแท้จริงมักเป็นผู้มองเห็นโอกาสในวิกฤตทุกครั้ง จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่นักลงทุนระยะยาวสามารถสรรหากิจการที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีโอกาสในการเติบโต ในราคาซื้อขายที่เหมาะสมต่อการลงทุน
สภาธุรกิจตลาดทุนไทย อันประกอบไปด้วย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน สมาคมบริษัทจัดการลงทุน สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย และสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสถานการณ์ความขัดแย้งจะยุติลงโดยเร็วด้วยความสันติ และมีเป้าหมายไปที่ผลประโยชน์ของประเทศชาติ แต่จะด้วยวิธีการใดนั้นทุกฝ่ายควรจะเข้าใจว่าไม่มีใครได้ทั้งหมด และไม่มีใครทนเสียอะไรได้ทุกอย่าง
ดังนั้น การทำความเข้าใจในความคิด ความรู้สึกของประชาชนที่คิดต่างกัน จึงเป็นสิ่งดีที่สุดที่จะทำให้สันติเกิดขึ้น
ข่าวเด่น