บีโอไอส่งเสริมการลงทุนแก่กิจการเอสเอ็มอีไทย โดยจะจัดสัมมนาเชิงรุก ชี้แจงนโยบายบีโอไอและการส่งเสริมเอสเอ็มอี เน้นจูงใจให้รายย่อยขอรับส่งเสริม เพื่อได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นอากรนำเข้าเครื่องจักร วัตถุดิบ และยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี
นายเจษฎา ศรศึก ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาปัจจัยสนับสนุนการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า หลังจากมาตรการเพิ่มขีดความสามารถของเอสเอ็มอี(SME)ไทยที่ได้สิ้นสุดไปเมื่อปี 2554 และได้ออกมาตรการส่งเสริมการลงทุนเอสเอ็มอีใหม่เมื่อเดือนตุลาคม 2556 นั้น เพื่อประชาสัมพันธ์และเผยแพร่วิธีปฏิบัติในการใช้สิทธิประโยชน์ด้านต่างๆ ให้เอสเอ็มอีรับทราบบีโอไอจะจัดสัมมนาเรื่อง “ นโยบายบีโอไอและการส่งเสริมเอสเอ็มอี ” ในวันที่ 20 มีนาคม 2557 ณ ห้องเมจิก 2 โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ
ภายในงานจะมีการอธิบายถึงการใช้สิทธิประโยชน์ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน อาทิ สิทธิประโยชน์ด้านเครื่องจักร สิทธิประโยชน์ด้านวัตถุดิบ และสิทธิประโยชน์ด้านภาษีเงินได้นิติบุคคล
“การให้ส่งเสริมการลงทุนแก่กิจการเอสเอ็มอี เป็นนโยบายสำคัญของบีโอไอ เพื่อช่วยสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการรายย่อยให้ได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด ซึ่งจะช่วยเรื่องสภาพคล่องทางการเงินท่ามกลางสภาพธุรกิจที่ได้รับผลกระทบด้านต้นทุน ดังนั้น เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าใจเรื่องสิทธิประโยชน์การลงทุนมากขึ้นโดยเฉพาะประเภทของกิจการที่จะให้การส่งเสริมฯ จึงต้องอธิบายรายละเอียดเพื่อให้ความรู้และสร้างแรงจูงใจในการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ” นายเจษฎากล่าว
ทั้งนี้มาตรการเพิ่มขีดความสามารถของเอสเอ็มอีครอบคลุมกิจการ 39 ประเภท กระจายอยู่ใน 4 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มกิจการที่เพิ่มมูลค่าแก่สินค้า ภาคเกษตรกรรม 2. กลุ่มกิจการที่ใช้ทักษะการผลิตและเป็นอุตสาหกรรมสนับสนุนที่สำคัญ 3.กลุ่มกิจการเชิงสร้างสรรค์ 4. กลุ่มกิจการบริการและสนับสนุนการท่องเที่ยว
กิจการเอสเอ็มอีไทยที่ได้รับการส่งเสริมจะได้รับสิทธิและประโยชน์ ดังนี้คือ ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรไม่ว่าตั้งอยู่ในเขตใด และยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี ไม่ว่าตั้งอยู่ในเขตใด เป็นสัดส่วนร้อยละ 100 ของเงินลงทุน (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน)
สำหรับนโยบายการส่งเสริมการลงทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของเอสเอ็มอี หลังจากที่เพิ่มประเภทกิจการจาก 10 ประเภทเป็น 57 ประเภท ส่งผลให้ทั้งจำนวนโครงการและมูลค่าเงินลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยจำนวนโครงการจาก 252 โครงการ ในปี 2553 มาเป็น 432 โครงการในปี 2554 ขณะที่มูลค่าเงินลงทุนเพิ่มขึ้นจาก 7,140 ล้านบาท มาเป็น 19,447 ล้านบาท
ผู้สนใจเข้าร่วมงานสัมมนา “นโยบายบีโอไอและการส่งเสริมเอสเอ็มอี” ติดต่อสำรองที่นั่งได้ที่ สำนักพัฒนาปัจจัยสนับสนุนการลงทุน โทร.02-553-8221 โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น หรือสมัครผ่านระบบอินเทอร์เน็ท ทาง www.boi.go.th ในหัวข้อ ปฏิทินกิจกรรม ภายในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2557
ข่าวเด่น