ธนาคารกรุงไทยเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ชุดใหม่ช.การช่าง มูลค่าไม่เกิน 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็นชุดอายุ 4 ปี ผลตอบแทนเฉลี่ย 4.8% ต่อปี และชุดอายุ 5 ปี 9 เดือน ผลตอบแทนเฉลี่ย  4.89 % ต่อปี  โดยจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน จองซื้อขั้นต่ำ 1 แสนบาทและทวีคูณของ 1 แสนบาท ผ่านทุกสาขาทั่วประเทศ

นายกิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ชุดใหม่ของบมจ.ช.การช่าง มูลค่ารวมไม่เกิน 3 พันล้านบาท  ซึ่งเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันและมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้แบ่งเป็น 2 ชุด ชุดที่ 1 อายุ  4  ปี โดยปีที่ 1-2 อัตราดอกเบี้ย 4.70% ต่อปี  ปีที่ 3-4 อัตราดอกเบี้ย 4.90% ต่อปี อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 4.80% ต่อปีมูลค่าเสนอขายไม่เกิน 2 พันล้านบาท  และ ชุดที่ 2 อายุ 5 ปี 9 เดือน  ปีที่ 1-3  อัตราดอกเบี้ย 4.80% ต่อปี   ปีที่ 4 จนครบกำหนดไถ่ถอน อัตราดอกเบี้ย  5% ต่อปี อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 4.89% ต่อปี  มูลค่าเสนอขายไม่เกิน 1 พันล้านบาท  จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน  

“หุ้นกู้ทั้งสองชุดเสนอขายผ่านธนาคารทุกสาขาทั่วประเทศ จองซื้อขั้นต่ำ 1 แสนบาท และทวีคูณของ 1 แสนบาท การเสนอขายแบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงที่ 1 สำหรับผู้ถือหุ้นกู้เดิม (CK142A)  ระยะเวลาจองซื้อวันที่ 10 – 12 กุมภาพันธ์ 2557 และช่วงที่ 2 สำหรับ ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน  ระยะเวลาจองซื้อวันที่ 17 – 20 กุมภาพันธ์ 2557”

ทางด้าน นายประเสริฐ มริตตนะพร กรรมการบริหาร และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส กลุ่มงานบริหาร  บมจ. ช.การช่าง เปิดเผยว่า บริษัททริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและจัดอันดับหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดใหม่ของบริษัทที่ระดับ “BBB+” และปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทเป็น “Positive” จากเดิมที่ “Stable” ซึ่งสะท้อนถึงสัดส่วนภาระหนี้ และความยืดหยุ่นทางการเงินของบริษัทที่ปรับตัวดีขึ้น หลังการปรับโครงสร้างทางธุรกิจ

“บมจ.ช.การช่างเป็นผู้นำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในประเทศ โดยมีประสบการณ์ยาวนานกว่า 40 ปี  มีผลงานเป็นที่ยอมรับในโครงการก่อสร้างพื้นฐานและโครงการที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง มีการบริหารงานที่ให้ความสำคัญกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี ณ สิ้นเดือนกันยายน 2556 บริษัทมีงานรับเหมาก่อสร้างที่ยังไม่ส่งมอบมูลค่า 1.19 แสนล้านบาท ซึ่งมีโครงการหลักได้แก่ โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรีมูลค่า 5.3 หมื่นล้านบาท โครงการทางด่วนพิเศษศรีรัชวงแหวนรอบนอก มูลค่า 2.1 หมื่นล้านบาท โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงสัญญาที่ 4  มูลค่า  2 หมื่นล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวสัญญาที่ 1 มูลค่า 9 พันล้านบาท”