กรุงศรีประกาศกลยุทธ์ธุรกิจปี 2557 จะให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจลูกค้าขนาดใหญ่ และธุรกิจลูกค้า SMEs โดยการสนับสนุนของผู้ถือหุ้นใหญ่เชิงกลยุทธ์รายใหม่ ธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ (BTMU) ที่ถือหุ้น 100% โดย มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) พร้อมเดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจสินเชื่อรายย่อย
นายโนริอากิ (โนริ) โกโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า “สำหรับปี 2557 นี้ กรุงศรี ได้ตั้งเป้าเติบโตของสินเชื่อไว้ที่ 9% ผ่าน 5 กลยุทธ์หลัก ซึ่งประกอบด้วย การขยายฐานธุรกิจลูกค้าขนาดใหญ่และกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี การคงความเป็นผู้นำในธุรกิจสินเชื่อรายย่อย การสร้างฐานเงินฝากให้แข็งแกร่งด้วยต้นทุนที่ต่ำลง การสร้างความแข็งแกร่งในกลุ่มลูกค้าที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงิน และขยายโอกาสในการทำธุรกิจในกลุ่มประเทศ CLM ซึ่งประกอบด้วยประเทศกัมพูชา ลาว และพม่า ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว”
กรุงศรีมีแผนที่จะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของสินเชื่อในกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ทั้งของไทย ญี่ปุ่น และบริษัทข้ามชาติอื่นๆ ด้วยการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายระดับโลกของ MUFG และ ความเชี่ยวชาญระดับสากลในการทำธุรกิจธนาคาร โดยกรุงศรีจะมุ่งให้การสนับสนุนลูกค้าขนาดใหญ่ในการขยายธุรกิจไปต่างประเทศโดยเฉพาะในเขตลุ่มแม่น้ำโขง การขยายผลิตภัณฑ์และบริการไปสู่กลุ่มธุรกิจที่มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องต่อเนื่องกันเป็นห่วงโซ่ หรือ supply chain รวมถึง cross sell บริการทางการเงินที่หลากหลายแก่พนักงานของบริษัทลูกค้าขนาดใหญ่เหล่านี้
สำหรับกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี กรุงศรีมุ่งสร้างความแข็งแกร่งและการรับรู้แก่แบรนด์กรุงศรี SME กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ขณะเดียวกัน จะใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของธุรกิจในเครือด้านสินเชื่อรายย่อย เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในวงกว้าง เพื่อเป็นทางเลือกทางการเงินให้กับลูกค้า เช่นเดียวกับการเพิ่มประสิทธิภาพในขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้สะดวกรวดเร็วขึ้น
“สำหรับตลาดเงินฝากที่มีการแข่งขันสูง เราจะมุ่งไปที่การสร้างฐานเงินฝากที่แข็งแกร่ง ด้วยการนำเสนอบริการทางการเงินที่ครบวงจร ครอบคลุมทั้งลูกค้าบุคคล และลูกค้าองค์กร” นายโนริ กล่าว
ในปีที่ผ่านมา กรุงศรีโดย บริษัท ซีเอฟจี เซอร์วิส จำกัด หรือ ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ ได้ขยายการให้บริการด้านผลิตภัณฑ์ต่างๆสู่เจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก หรือกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้น้อยที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการของธนาคารได้ และในปี 2557 “ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ” ยังคงมีแผนที่จะสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจนี้ต่อไป ด้วยการขยายเครือข่ายด้านการบริการ และนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของการขยายธุรกิจสู่ระดับภูมิภาค กรุงศรีกำลังเตรียมความพร้อมในการเติบโตไปพร้อมกับกลุ่มประเทศ CLM ผ่านการสนับสนุนของ BTMU ซึ่งปัจจุบัน BTMU มีสาขาอยู่ใน 13 ประเทศหลักของภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย รวมถึงประเทศกัมพูชา พม่า เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และ ฟิลิปปินส์
"ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทายในปีนี้ กลยุทธ์ต่างๆ ที่เรากำลังดำเนินอยู่ จะอยู่บนพื้นฐานของการพิจารณาให้สินเชื่ออย่างระมัดระวัง และการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้แน่ใจว่าเราจะเติบโตอย่างมีคุณภาพ
และพร้อมๆ ไปกับการดำเนินกลยุทธ์ทั้ง 5 ประการ เราจะรวมธนาคาร BTMU สาขากรุงเทพฯ เข้ากับธนาคารกรุงศรีอยุธยา ตามกฎระเบียบของธนาคารแห่งประเทศไทยที่กำหนดให้สถาบันการเงินดำเนินการตามนโยบายสถาบันการเงิน 1 รูปแบบ การรวมกิจการนี้คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี” นายโนริ กล่าว
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2556 กรุงศรีได้เข้าเป็นบริษัทในเครือของ MUFG กลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก ภายหลังจากที่ BTMU ได้ถือครองหุ้นมากกว่า 72% จากจำนวนหุ้นทั้งหมดของธนาคาร ขณะที่กลุ่มรัตนรักษ์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เดิมยังคงถือหุ้นอยู่ 25%
ข่าวเด่น