"โค้ก"ปรับโฉมโค้กกระป๋องขนาด 325 มล.เป็น “โค้ก สลีค แคน” ราคา 14 บาทและโค้กกระป๋องขนาด 240 มล. เป็น “โค้ก สลิม แคน” ราคา 10 บาท มีวางจำหน่ายแล้วตามร้านค้าทั่วประเทศ 

หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูง พร้อมทั้งสร้างความฮือ ฮาในวงการตลาด-เครื่องดื่มน้ำอัดลม กับแคมเปญ “ต้องซ่า ต้องกล้า ส่งโค้กให้” ล่าสุด "โค้ก" เครื่องดื่มยอดนิยมของไทยและทั่วโลก โดยกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทย เพิ่มความเท่ เก๋ ซ่าของการดื่มโค้ก ด้วยกระป๋องรูปโฉมใหม่ “โค้กกระป๋อง ‘สลีค’ และ โค้กกระป๋อง ‘สลิม’ สู่ตลาดเมืองไทย 

พร้อมสานต่อนวัตกรรม ด้านการตลาด เอาใจผู้บริโภคที่ชื่นชอบนวัตกรรมใหม่ๆ ด้วยกิจกรรมพิเศษ “Coke Happiness Vending Machine” เชิญชวนให้ผู้บริโภคส่งต่อความสุขสดชื่นของโค้ก ด้วยการกอด ยิ้ม หัวเราะ พร้อมรับโค้กกระป๋องรูปแบบใหม่ สลีค แคน ฟรี พิเศษสุด ในช่วงเทศกาลวันแห่งความรักถึงวันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์นี้ ณ ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ 

 มร. คอนสแตนตินอส เดลิอาลิส ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศ ไทย) จำกัด กล่าวว่า “การสร้างนวัตกรรมการตลาดใหม่ให้กับผู้บริโภค ถือเป็นหัวใจสำคัญแผนการตลาดของโคคา-โคลา และจากกระแสการตอบรับอย่างสูงจากผู้บริโภคในแคมเปญ “ต้องซ่า ต้องกล้า ส่งโค้กให้” ที่ผ่านมา ทำให้ กลุ่มธุรกิจโคคา-โคลาในประเทศไทย เดินหน้าสร้างกระแสในตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมของไทย ด้วยการปรับโฉมโค้กกระป๋องขนาด 325 มล. เป็น โค้กกระปองสลีค และ โค้กกระป๋องขนาด 240 มล. เป็นโค้กกระป๋องสลิม ทั้งนี้จากผลการสำรวจพบว่า ผู้บริโภคชอบรูปแบบกระป๋องสลีค/สลิมใหม่ ที่เท่ ล้ำเทรนด์ และสร้างความตื่นเต้นอย่างมีสไตล์ นอกจากนี้ ได้เตรียมสื่อและกิจกรรมทางการตลาด เพื่อสนับสนุนการเปิดตัวโค้กกระป๋องสลีค/สลิมใหม่ กว่า 70 ล้านบาท” 

นอกจากโค้กแล้ว เครื่องดื่มอัดลมตราอื่นๆ ของกลุ่มธุรกิจ โคคา-โคลา ในประเทศไทย อาทิ แฟนต้า, สไปร์ท, ชเวปปส์ และรูทเบียร์ เอแอนด์ดับบลิว ก็จะมีการวางจำหน่ายในรูปแบบกระป๋องสลีคและกระป๋องสลิมด้วยเช่นเดียวกัน โดยจะเริ่มทยอยออกสู่ตลาดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป 

ทั้งนี้ปัจจุบัน ตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมของไทยมีมูลค่ากว่า 45,000 ล้านบาท โดยมีกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทย เป็นผู้นำตลาด