ไทยประกันชีวิตเปิดศูนย์ Data Center แห่งใหม่ มุ่งรวมศูนย์ข้อมูลในจุดเดียว สนับสนุนระบบการทำงาน เอื้อประโยชน์ต่อการบริการลูกค้าและฝ่ายขายได้รับความสะดวกรวดเร็วขึ้น ในลักษณะ Customer Single View
นายเชวง จิตรสมบูรณ์ กรรมการและ Group Chief IT Officer บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และไม่เกิดการหยุดชะงัก บริษัทฯ จึงได้จัดตั้งศูนย์ข้อมูลสารสนเทศ หรือ Data Center ขึ้นใหม่ เพื่อให้เป็นศูนย์กลางในการเก็บข้อมูลและให้บริการด้าน IT ที่สมบูรณ์
ศูนย์ Data Center จะเป็นศูนย์กลางข้อมูลที่มาช่วยสนับสนุนระบบการทำงานของบริษัทฯ ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานใหญ่ สาขา และศูนย์บริการลูกค้า (CSC) โดยเฉพาะสนับสนุนการทำงานของส่วนงานหลัก เช่น การรับประกัน การจ่ายสินไหม การบริการผู้เอาประกัน และการตลาด รวมถึงเป็นศูนย์กลางเครือข่าย ในการให้บริการผู้เอาประกันและฝ่ายขาย ซึ่งฝ่ายขายที่ใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต มักต้องการความรวดเร็วด้านข้อมูลเป็นหลัก เพื่อให้สามารถบริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
“ศูนย์ Data Center ใหม่ มีระบบรักษาความปลอดภัยสูง รวมถึงระบบควบคุมอุณหภูมิ ระบบไฟฟ้าสำรอง ซึ่งเป็นระบบที่เอื้อให้ศูนย์ฯสามารถทำงานได้ต่อเนื่อง 7 วัน 24 ชั่วโมง และสามารถทำงานได้ในสภาวะวิกฤตต่างๆ เพื่อรองรับแผนการบริหารความเสี่ยงของบริษัทฯ และเป็นระบบที่ประหยัดพลังงาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยใช้งบประมาณลงทุน 200 กว่าล้านบาท ซึ่งได้ใช้ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 1 ปี สำหรับสาเหตุที่ต้องจัดตั้งศูนย์ Data Center ใหม่ เนื่องจากศูนย์ฯเดิมมีอายุการใช้งานมานาน ทำให้ระบบโครงสร้างพื้นฐานล้าสมัยกว่ามาตรฐานปัจจุบัน ประกอบกับความต้องการใช้งานคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ของบริษัทฯเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” นายเชวงกล่าว
นอกจากนี้ ศูนย์ Data Center ยังได้เชื่อมต่อข้อมูลไปยังศูนย์ข้อมูลสำรอง ซึ่งตั้งอยู่ที่ทำการสาขาพัทยา เป็นศูนย์ข้อมูลกรณีเกิดภาวะภัยพิบัติที่ส่งผลให้สำนักงานใหญ่ไม่สามารถทำงานได้ โดยจะมีการอัพเดทข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ
นายเชวงกล่าวว่า การจัดตั้งศูนย์ Data Center ขึ้นใหม่ ถือเป็นโอกาสดีที่บริษัทฯจะได้เปลี่ยนเทคโนโลยีใหม่ที่ประสิทธิภาพดีกว่า ขณะเดียวกันยังสามารถรวมศูนย์ข้อมูลเล็กๆ ที่กระจายอยู่ อาทิ ศูนย์ข้อมูลทางการตลาด เพื่อมาใช้โครงสร้างพื้นฐานเดียวกัน รวมเป็นศูนย์เดียวกัน อันจะเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้เอาประกันและผู้ใช้บริการ ในลักษณะ Customer Single View ตามแนวคิดที่ยึดประโยชน์ของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง รวมถึงตอบรับกับการพัฒนาระบบ Next Generation Information System (NGIS) ของบริษัทฯ
“เทคโนโลยีที่ใช้สำหรับศูนย์ Data Center ใหม่ จะเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัย คือ เทคโนโลยี Private Cloud ซึ่งสามารถจัดเก็บข้อมูลได้ในปริมาณมหาศาล รวมถึงเทคโนโลยี Visual Machine ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้การให้บริการข้อมูลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ“ นายเชวงกล่าว
ข่าวเด่น