โปรสตรีม (Prosteam) ผู้นำนวัตกรรมใหม่ของการล้างรถด้วยระบบไอน้ำ (Steaming) เจ้าแรกและเจ้าเดียวของประเทศไทย พลิกโฉมวงการคาร์แคร์รับกระแสประหยัดพลังงานและลดการเกิดมลพิษ ตั้งเป้ารุกตลาดเพิ่มศูนย์โปรสตรีมเป็น 15 สาขาในปี 57 ผ่านโมเดลธุรกิจแฟรนไซส์ ครอบคลุมการให้บริการภายในศูนย์บริการและการล้างรถแบบเดลิเวอรี่

นายปรกฤษฎ์ หงษ์โสภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส เอ็ม จี แมชชีเนอรี จำกัด เจ้าของนวัตกรรมการล้างรถด้วยระบบไอน้ำโปรสตรีมและศูนย์ดูแลรถยนต์ครบวงจรโปรสตรีม เผยว่า โปรสตรีมถือเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมในการดูแลรถยนต์ครบวงจรระดับพรีเมี่ยม ซึ่งชูจุดเด่นด้วยบริการล้างรถยนต์ด้วยระบบไอน้ำแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยีเครื่องแรงดันไอน้ำระบบ ออปติมา สตีมเมอร์ ลิขสิทธิ์เฉพาะของบริษัท โดยใช้แรงดันไอน้ำและความร้อนในการทำความสะอาด ซึ่งสามารถทำความสะอาดได้ทั้งภายนอก ภายใน และห้องเครื่อง โดยไม่ทิ้งร่องรอยความเสียหายกับสีรถและพื้นผิวรถยนต์ อีกทั้งสามารถขจัดสิ่งสกปรก คราบฝังลึก และฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ด้วยพลังงานความร้อน ซึ่งให้บริการทั้งการล้างรถภายในศูนย์บริการและบริการแบบเดลิเวอรี่ในชื่อ “โปรสตรีม โมบาย คาร์วอช” โดยค่าบริการล้างรถด้วยเครื่องโปรสตรีมเริ่มต้นที่ราคา 280 – 1,150 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดรถยนต์ ซึ่งเมื่อเทียบกับคุณภาพถือว่าคุ้มราคา

“ปัจจุบัน มีศูนย์โปรสตรีม 5 สาขา ได้แก่ ในกรุงเทพ 2 สาขา, และอีก 3 สาขาอยู่ในจังหวัดชลบุรี, ระยอง, และภูเก็ต ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก มีผู้มาใช้บริการประมาณ 1,000 คันต่อเดือน/ต่อสาขา คิดเป็นรถยนต์ในกลุ่มรถยนต์ลักซัวรี่และซุปเปอร์คาร์ 70% และกลุ่มแบรนด์ตลาดทั่วไปประมาณ 30%

สำหรับเป้าหมายการขยายธุรกิจในปี 57 ได้ตั้งเป้าไว้ 2 ส่วน คือ เป้าหมายในการขยายสาขาของศูนย์ โปรสตรีม ซึ่งตั้งเป้าว่า จะขยายสาขาเพิ่มเป็น 15 สาขา ภายในปี 2557 ในรูปแบบแฟรนไซส์ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะขยายตลาดในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ ลาวและฮ่องกง โดยขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับพันธมิตร” นายปรกฤษฎ์ กล่าวเพิ่มเติม

สำหรับข้อได้เปรียบของศูนย์โปรสตรีมและการล้างรถด้วยระบบไอน้ำที่ต่างจากการล้างรถแบบทั่วไป คือ การล้างรถยนต์แบบทั่วไป จะต้องมีพื้นที่ มีระบบการจัดการน้ำ สิ่งสกปรก คราบฟองแชมพูต่างๆ คราบน้ำมัน เกิดปัญหาน้ำเสีย ทำลายสิ่งแวดล้อมเพราะสารเคมี แต่การล้างรถยนต์ด้วยเครื่องแรงดันไอน้ำจะใช้พื้นที่น้อยกว่า อีกทั้งอุปกรณ์เคลื่อนย้ายได้สะดวก ประหยัดน้ำเพราะใช้น้ำเพียง 3 ลิตร ต่อรถ 1 คัน ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม โดยผู้สนใจสามารถเริ่มต้นธุรกิจศูนย์โปรสตรีมด้วยเงินลงทุนประมาณ 500,000 บาทต่อสาขา โดยใช้พื้นที่ปฏิบัติงานขั้นต่ำ 70 ตร.ม. เท่านั้น

นอกเหนือจากการให้บริการล้างรถยนต์ด้วยระบบไอน้ำแล้ว ภายในศูนย์บริการโปรสตรีมยังมีการให้บริการดูแลรักษารถยนต์ครบวงจร อาทิ การล้างรถระบบไอน้ำ, การเคลือบแก้วด้วยเทคโนโลยีเฉพาะแบบ Star Coating, การดีเทลลิ่งรถยนต์ทั่วไป และการดีเทลลิ่งรถยนต์ขั้นสูงทั้งภายในและภายนอกสำหรับรถ ลักซัวรี่และซุปเปอร์คาร์โดยเฉพาะ

ที่ผ่านมา โปรสตรีมถือเป็นศูนย์บริการดูแลรถยนต์ที่มีชื่อเสียงมากในกลุ่มรถยนต์ระดับไฮเอนท์ ซึ่งถือเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของโปรสตรีม โดย นายปรกฤษณ์ ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับภาพรวมของธุรกิจศูนย์บริการรถยนต์ลักซัวรี่และซุปเปอร์คาร์ในประเทศไทยว่า ปัจจุบันรถยนต์ในกลุ่มลักซัวรี่และซุปเปอร์คาร์ในประเทศไทยมีจำนวนประมาณ 5,000 คัน ซึ่งแม้จะเป็นตลาดเฉพาะกลุ่มแต่เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ และเลือกใช้บริการด้วยคุณภาพมากกว่าการพิจารณาโปรโมชั่นหรือราคา

ซึ่งโดยเฉลี่ยรถยนต์ลักซัวรี่และซุปเปอร์คาร์จะใช้เงินในการดูแลรถเฉลี่ยปีละประมาณ 50,000 – 120,000 บาท / ต่อคัน / ต่อปี คิดเป็นมูลค่าตลาดรวมกว่า 400 ล้านบาท โดยปัจจุบันยังไม่มีศูนย์บริการดูแลรถยนต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในกลุ่มนี้โดยเฉพาะ ซึ่งถือเป็นโอกาสของโปรสตรีมที่จะเป็นผู้นำของการดูแลรถยนต์ในกลุ่มนี้