ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันวงเงินไม่เกิน 2,300 ล้านบาท “บ. ศุภาลัย” ที่ระดับ “A-/Positive” สะท้อนแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับ
ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตให้แก่หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 2,300 ล้านบาทของ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)ที่ระดับ “A-” ในขณะเดียว
กันทริสเรทติ้งยังคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “A-” ด้วย โดยแนวโน้มยังคง “Positive” หรือ “บวก” ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้สำหรับการขยายกิจการ
อันดับเครดิตสะท้อนถึงผลงานที่ยาวนานของบริษัทในตลาดพัฒนาที่อยู่อาศัย ตลอดจนแบรนด์สินค้าที่ได้รับการยอมรับในตลาดผู้มีรายได้ระดับปานกลาง ความสามารถในการควบคุมต้นทุนการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ และฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวลดทอนลงบางส่วนจากลักษณะของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นวงจรขึ้นลง รวมถึงความกังวลในด้านต้นทุนค่าก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้นและภาวะการขาดแคลนแรงงานในปัจจุบันด้วย ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Positive” หรือ “บวก” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทจะแข็งแกร่งขึ้นในช่วงปี 2557-2558
ทั้งนี้ อันดับเครดิตอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากบริษัทสามารถบริหารการส่งมอบคอนโดมิเนียมที่รอการรับรู้รายได้ได้ตามแผน บริษัทควรรักษาสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งเอาไว้ให้ได้ในระยะปานกลางในช่วงการขยายธุรกิจ การรับรู้รายได้จากการโอนคอนโดมิเนียมที่ล่าช้าอย่างมีนัยสำคัญหรือสถานะทางการเงินที่อ่อนแอลงก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องมีการปรับลดอันดับเครดิตหรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทลงในอนาคต
บริษัทศุภาลัยเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยซึ่งก่อตั้งในปี 2532 โดยตระกูลตั้งมติธรรม ณ เดือนกันยายน 2556 ตระกูลตั้งมติธรรมซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทถือครองหุ้นในสัดส่วนทั้งสิ้น 28% บริษัทมีโครงการที่อยู่อาศัย ณ เดือนธันวาคม 2556 อยู่ 70 โครงการด้วยมูลค่ายอดขายคงเหลือประมาณ 25,000 ล้านบาท และยังมียอดขายที่รอรับรู้รายได้เป็นจำนวนมากอีก ประมาณ 39,230 ล้านบาท หรือประมาณ 4 เท่าของฐานรายได้ โครงการที่อยู่อาศัยของบริษัท ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2556 ประกอบด้วยโครงการคอนโดมิเนียมคิดเป็น 64% ของมูลค่าโครงการทั้งหมด และโครงการบ้านจัดสรรอีก 36% ความได้เปรียบในการแข่งขันจากความสามารถในการควบคุมต้นทุนการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพซึ่งทำให้บริษัทสามารถเสนอขายที่อยู่อาศัยในราคาที่แข่งขันได้
ยอดขายของบริษัทในปี 2556 เท่ากับ 18,462 ล้านบาท ลดลง 18% จาก 22,442 ล้านบาทในปี 2555 ยอดขายคอนโดมิเนียมลดลง 30% เป็น 12,000 ล้านบาทในปี 2556 ส่วนยอดขายจากโครงการบ้านจัดสรรเท่ากับ 6,462 ล้านบาทในปี 2556 เพิ่มขึ้น 21.5% จาก 5,320 ล้านบาทในปี
2555
รายได้ของบริษัทช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 เท่ากับ 5,902 ล้านบาท และในไตรมาสที่ 4 ของปี 2556 บริษัทยังมียอดขายที่รอบรับรู้รายได้อีกกว่า 6,700 ล้านบาท ซึ่งคาดว่ารายได้ทั้งปี 2013 จะอยู่ในระดับ 12,600 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับรายได้ทั้งปีของปี 2555 สำหรับรายได้ในปี 2557 นั้นได้รับแรงหนุนจากยอดขายที่รอส่งมอบจำนวน 15,584 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังมียอดขายที่รอส่งมอบและรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2558-2560 อีกประมาณ 23,646 ล้านบาท
ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 อัตรากำไรเบื้องต้นของบริษัทอยู่ที่ 40% โดยอัตรากำไรดังกล่าวยังคงสูงกว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากระดับหนี้สินที่สูงและรับการรับรู้รายได้ในระดับต่ำ ณ เดือนกันยายน ปี 2556 ทำให้อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทอยู่ที่ระดับ 41% เพิ่มขึ้นจาก 30.4% ในปี 2555 อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมลดลงเหลือ 31.4% (ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปีด้วยตัวเลข 12 เดือนย้อนหลัง) ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 จากในช่วงปี 2553-2555 ที่อยู่ที่ระดับ 50-54% อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัตราส่วนดังกล่าวจะปรับตัวดีขึ้นอยู่ในระดับที่ได้คาดการณ์ไว้ จากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานใน
ไตรมาสที่ 4 ของปี 2556 ซึ่งจะถูกนำไปชำระคืนหนี้สินบางส่วน
บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) (SPALI)
อันดับเครดิตองค์กร: A-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
SPALI14OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 700 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 A-
SPALI14NA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 A-
SPALI15OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 745 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A-
SPALI165A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A-
SPALI185A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A-
หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 2,300 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2560 A-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Positive
ข่าวเด่น