ซีไอเอ็มบีไทยรุกให้คำปรึกษาและให้ข้อมูลการออมและการลงทุน บริการตรงใจลูกค้า นำร่องสาขาแรกพารากอน เล็งเปิดเพิ่มสาขาสีลม พ.ค. อัดโปรฝากยาวได้ดบ.ดี พร้อมเตรียมออกกองทุนต่างประเทศเพิ่ม สหรัฐฯและยุโรป หลังกองทุนหุ้นญี่ปุ่นได้รับการตอบรับดี เพิ่มทางเลือกลงทุน กระจายความเสี่ยงในภาวะตลาดในประเทศผันผวน
นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจรายย่อย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)(CIMBT)เปิดเผยว่า ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านการขยายตัวของเงินฝากธนาคารชะลอตัวลงเล็กน้อยจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง แต่ก็ถือว่ายังขยายตัวได้อยู่ โดยเฉพาะในกลุ่มบุคคลธนกิจ (CIMB Preferred)ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเงินทุนที่ไหลออกจากตลาดหลักทรัพย์หลังนักลงทุนขาดความมั่นใจในตลาดที่มีความผันผวน รวมถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลง จากเหตุดังกล่าวธนาคารได้เตรียมหาช่องทางด้านการลงทุนใหม่ๆเพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มนี้เช่นกัน
โดยในช่วงที่ผ่านมา ธนาคารได้ออกกองทุนหุ้นญี่ปุ่น ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมียอดเงินลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท และในปีนี้มีแผนจะออกกองทุนหุ้นต่างประเทศได้แก่ สหรัฐฯ และยุโรป อีก 2-3 กองทุนโดยคาดว่าจะสามารถออกได้ในเดือนมีนาคมและเมษายนนี้ รวมทั้งผลิตภัณฑ์อื่นๆด้วย
นอกจากนี้ ธนาคารยังเปิดสาขารูปแบบใหม่ที่พารากอน ซึ่งจะเน้นให้ความสำคัญด้านการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินมากกว่าธุรกรรมการเงินทั่วไป เนื่องจากผลิตภัณฑ์ทางการเงินจะมีความซับซ้อนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นหุ้นกู้ กองทุน หรือ Structured note โดยธนาคารเล็งเห็นความสำคัญของการที่พนักงานจะมีเวลาเพื่อพูดคุยกับลูกค้าถึงแนวทางบริหารเงินเพื่อเพิ่มความมั่งคั่งให้แก่ลูกค้าและในเดือนพฤษภาคมนี้ก็จะเปิดสาขาในรูปแบบดังกล่าวอีกแห่งที่สีลม ที่เป็นย่านธุรกิจสำคัญ ทั้งนี้ได้ออกแผนเงินฝากทั้งระยะสั้นและยาว เช่น ฝากยาว 36 เดือนได้ดอกเบี้ยสูงถึง 4 %
สำหรับเป้าหมายของธุรกิจรายย่อยของปี 2557 นี้ ธนาคารตั้งเป้าหมายขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นอีก 2 แสนราย จากปี 2556 ที่ฐานลูกค้าเงินฝากรายย่อยทั่วไปเพิ่มขึ้นจาก 3.8 แสนราย เพิ่มเป็น 5 แสนราย หรือเติบโต 25% ขณะที่ฐานลูกค้าบุคคลธนกิจ (CIMB Preferred)ตั้งเป้าขยายฐานอีก 100% หรืออีก 2.5 หมื่นราย เพื่อให้สิ้นปีลูกค้าเพิ่มเป็น 5 หมื่นราย จากปี 2556 ที่มี 2.5 หมื่นราย ด้านปริมาณเงินลงทุน (AUM) ของลูกค้าบุคคลธนกิจ จะเพิ่มอีก 7.5 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 100% จากปี 56 ที่มี 8 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.55 หมื่นล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 50%
สำหรับยอดเงินฝากของทั้งลูกค้ารายย่อยทั่วไปและลูกค้าบุคคลธนกิจในปีนี้ จะขยายเงินฝากอีก 3.4 หมื่นล้านบาท ให้เพิ่มเป็น 1.4 แสนล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 32% จากปี 2556 ที่มียอด 1.06 แสนล้านบาท ด้านการขยายสินเชื่อรายย่อยนั้นในปีนี้จะปล่อยเพิ่มในปีนี้อีก 1.02 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 53% จากปี 2556
เมื่อปีที่แล้วสาขามีรายได้ค่าธรรมเนียมจากการขายประกันผ่านสาขา 351 ล้านบาท ในปีนี้ตั้งเป้าหมายทำรายได้ส่วนนี้ 451 ล้านบาทหรือเติบโต 29% ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมจากการขายกองทุนของสาขาปีนี้ตั้งเป้าที่ 121 ล้าน จาก 84 ล้านบาทในปีที่แล้ว คิดเป็นอัตราเติบโต 44%
ในโอกาสเดียวกันนี้นายอดิศรกล่าวอีกด้วยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ครั้งต่อไปในเดือนหน้านั้น ทางศูนย์วิจัยของธนาคารคาดการณ์ว่ากนง.น่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ซึ่งมีรายงานตัวเลขการว่างงานของนักศึกษาจบใหม่เพิ่มขึ้น และล่าสุดตัวเลขภาคการส่งออกในช่วงเดือนม.ค.ยังลดลง
ข่าวเด่น