บลจ.กรุงศรีเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศ 1Y13  ชูผลตอบแทน 3.25%ต่อปี ขายถึง 3 มี.ค.นี้  ลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท 

นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด  (บลจ.กรุงศรี)เปิดเผยว่า “บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศ1Y13 (KFFIF1Y13) อายุประมาณ 1 ปี   มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ เช่น เงินฝากธนาคาร Bank of China (สาธารณรัฐประชาชนจีน , สาขา มาเก๊า) สัดส่วนการลงทุน 24%    เงินฝากธนาคาร Union National Bank (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) สัดส่วนการลงทุน 20% ตราสารหนี้ ECP รับประกันโดยธนาคาร Gazprombank (รัสเซีย) สัดส่วนการลงทุน 24%   ตราสารหนี้ ECP รับประกันโดยธนาคาร Sberbank of Russia (รัสเซีย) สัดส่วนการลงทุน 8%   และตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Industrial and Commercial Bank of China Asia Ltd. (สาธารณรัฐประชาชาชนจีน , ฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 24%  โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติประมาณ 3.25% ต่อปี และหลังครบกำหนดอายุโครงการบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน  เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป” 

“กองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศ1Y13(KFFIF1Y13) เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้เหมาะกับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำและต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคาร และสามารถลงทุนได้เป็นระยะเวลาประมาณ 1ปี”   นายฉัตรพี กล่าว 

“สำหรับภาวะตลาดตราสารหนี้โลกนั้น จากข้อมูลรายงานการประชุมของเฟดครั้งล่าสุดบ่งชี้ว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะลดปริมาณการซื้อพันธบัตรลงครั้งละ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือนถึงแม้ข้อมูลเศรษฐกิจออกมาอ่อนแอก็ตาม      และเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่เห็นว่า ควรขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า ในส่วนของอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ภาครัฐของสหรัฐฯปรับตัวขึ้นร้อยละ 0.005 – 0.03 โดยเส้นอัตราผลตอบแทนมีลักษณะชันมากขึ้น  สำหรับจีดีพีของยูโรโซนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ในไตรมาส 4/56 หลังจากขยายตัวร้อยละ 0.1 ในไตรมาส 3/56 โดยเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็น ไตรมาสที่ 3 ติดต่อกัน หลังจากที่อยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นเวลา 18 เดือน 

ทางด้านเอเชีย จีดีพีของญี่ปุ่นขยายตัวต่ำกว่าที่คาดในไตรมาส 4/56 โดยขยายตัวร้อยละ 1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้  ในส่วนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับตัวลดลงร้อยละ 0.01 – 0.08 โดยได้แรงหนุนจากแรงซื้อของนักลงทุนในประเทศ” นายฉัตรพี กล่าว   

นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดข้อมูลกองทุนพิ่มเติมได้ที่ บลจ.กรุงศรี จำกัด โทร. 02-657-5757 หรือ เว็บไซต์ www.krungsriasset.com  หรือ ติดต่อธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา

อย่างไรก็ตามทางบลจ.กรุงศรีเตือนว่า การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนก่อนตัดสินใจลงทุน โดยเฉพาะนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุนเอกสารที่เกี่ยวกับกองทุนได้ที่เว็บไซต์บริษัทจัดการ หรือที่บริษัทจัดการและสำนักงานของผู้สนับสนุนการขายก่อนตัดสินใจลงทุน