วันนี้ (3มี.ค.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จัดกิจกรรมกองทุนช่วยเหลือชาวนา โดยในวันนี้ พนักงานธ.ก.ส. จะร่วมบริจาคและสมทบกับโครงการ "รวมหัวใจสีเขียวช่วยชาวนา " และเปิดรับบริจาคจากประชาชนทั่วไป
ก่อนหน้านี้ นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธ.ก.ส. ชี้แจงถึงการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือชาวนา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวนาที่นำผลผลิตมาเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2556/57 แต่ยังไม่ได้รับเงินว่า กองทุนดังกล่าวฯไม่ขัดต่อกฎหมายและสามารถดำเนินการได้ตามกรอบภารกิจหลักภายใต้พระราชบัญญัติการก่อตั้ง ธ.ก.ส. โดยกองทุนดำเนินการภายใต้หลักการสำคัญ ดังนี้
1. เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของชาวนา โดยกองทุนช่วยเหลือชาวนา จะดำเนินการในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ระหว่างรอเงินทุนตามโครงการที่จัดหาโดยภาครัฐ
2. ใช้วิธีรับบริจาคและสมทบเงินเข้ากองทุน บนพื้นฐานความเอื้ออาทรของสังคมไทย ซึ่งเป็นวิธีที่มีการปฏิบัติกันโดยทั่วไป โดยเฉพาะในช่วงที่เกษตรกรได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติและภาวะเศรษฐกิจ
3. จำกัดวงเงินกองทุนไว้เพียง 20,000 ล้านบาท หรือเพียงร้อยละ 20 ของภาระหนี้ที่โครงการต้องชำระให้ชาวนา จึงไม่มีความเสี่ยงต่อเงินกองทุนเพราะมีแหล่งเงินคืนแน่นอน
4. ในส่วนของกองทุนที่ 3 ที่มีผลตอบแทนกองทุนอยู่ที่ 0.63% จะต่ำกว่าอัตราต้นทุนของการจัดหาเงินทุนด้วยวิธีอื่น ช่วยลดภาระชดเชยต้นทุนเงินและช่วยประหยัดงบประมาณแผ่นดินที่โครงการได้รับจัดสรรไว้แล้ว ใน พ.ร.บ.งบประมาณแผ่นดินปี 2557 โดยไม่ถือเป็นภาระผูกพันไปถึงรัฐบาลถัดไป และ ธ.ก.ส.สามารถบริหารกองทุนระหว่างรอจัดสรรไปจ่ายให้ชาวนา เพื่อให้ได้ผลตอบแทนช่วยชดเชยต้นทุนได้อีกส่วนหนึ่งด้วย
ดังนั้น การดำเนินงานของกองทุนช่วยเหลือชาวนา นอกจากเป็นช่องทางให้ประชาชนและผู้มีจิตเป็นกุศลได้ช่วยชาวนา ได้สนับสนุนและสร้างกำลังใจให้กับบุคลากรของประเทศที่ประกอบอาชีพหลักที่เป็นรากฐานสำคัญของระบบเศรษฐกิจไทยให้คงอยู่ต่อไปแล้ว การนำเงินกองทุนไปสู่ชาวนายังเป็นการช่วยลดภาระหนี้ครัวเรือนและกระตุ้นการบริโภคในประเทศ โดยเฉพาะในสภาพการณ์ที่ระบบเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลงในทุกด้าน เป็นการป้องกันการชะงักงันของระบบเศรษฐกิจอีกด้วย
ข่าวเด่น