การประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินของรัฐบาล แม้ศาลจะมีคำสั่งลดอำนาจในการบังคับใช้ แต่เมื่อยังไม่มีการประกาศยกเลิกอย่างเป็นทางการของรัฐบาล ทำให้มีผลกระทบต่อธุรกิจค้าปลีก และธุรกิจท่องเที่ยวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โดย น.ส.บุษบา จิราธิวัฒน์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เชื่อว่า ตัวเลขการค้าปลีกนับจากนี้จะปรับตัวดีขึ้น หลังจากแนวโน้มสถานการณ์การเมืองคลี่คลาย โดยกลุ่ม กปปส. ได้ยุบรวมเวทีการชุมนุม ไปอยู่ในสวนลุมพินีเพียงแห่งเดียว ทำให้ภาคประชาชนและภาคการท่องเที่ยว มีอารมณ์จับจ่ายซื้อสินค้ามากขึ้น แต่หากมีการยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินโดยเร็วนักท่องเที่ยวจะกลับเข้ามาในประเทศไทย ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจดีขึ้น
ซึ่งภาคเอกชนยังคาดหวังจะเห็นนักท่องเที่ยว 26 ล้านคนภายในปีนี้ อีกทั้งคาดหวังให้รัฐบาลชุดใหม่คงมาตรการภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 7% และพิจารณาปรับลดภาษีสินค้าแบรนด์เนมต่างประเทศ เพื่อดึงดูดการจับจ่ายของนักท่องเที่ยว
ทั้งนี้ย อมรับว่า ปัญหาการเมืองส่งผลกระทบต่อการค้าปลีกตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วต่อเนื่องถึงไตรมาส 1 ปีนี้ ทำให้คาดว่า ยอดค้าปลีกทั้งปีจะขยายตัวที่ 6-7% สะท้อนจีดีพีที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คาดการณ์ว่าจะขยายตัวประมาณ 2.5% โดยไตรมาส 1 คาดว่ายอดค้าปลีกจะขยายตัวที่ 2-3%
ส่วนผลกระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยว นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตั้งแต่มีการปิดกรุงเทพฯจนถึงวันนี้ ส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวให้เสียหายไปแล้วกว่า 8.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีแรกหายไปกว่า 1.7 ล้านคน จึงเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เนื่องจากเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการท่องเที่ยว
ขณะเดียวกัน สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ จะมีการทบทวนเป้าหมายเม็ดเงินและตัวเลขนักท่องเที่ยวในปีนี้อีกครั้งใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า หลังกลุ่มกปปส.ยกเลิกการปิดกรุงเทพฯ
ก่อนหน้านี้สภาฯได้ตั้งเป้าหมายเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวในปีนี้จะอยู่ที่ 2 ล้านล้านบาท หรือเติบโต 8% จากปีก่อนที่อยู่ 1.8 ล้านล้านบาท และมีเป้าหมายนักท่องเที่ยวในปีนี้อยู่ที่ 28-29 ล้านคน จากปีก่อนที่ 26.8 ล้านคน
ผลกระทบดังกล่าวยังสอดคล้องกับ นักวิเคราะห์ บล.เอเซียพลัส ที่ยอมรับว่า ฝ่ายวิจัยได้ปรับลดสมมติฐานการเติบโตของอัตราค่าห้องพักของกลุ่มโรงแรมจากเดิมคาดเพิ่มขึ้น 10% เหลือ 5% ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานของกลุ่มโรงแรมปีนี้ 6,248 ล้านบาท ลดลงจากประมาณการเดิม 8% เพราะการเมืองในประเทศ สร้างภาพลักษณ์เชิงลบต่อการท่องเที่ยวไทย และส่งผลกระทบต่อประมาณการของบริษัทในกลุ่มโรงแรม ทั้งอัตราการเข้าพักที่ลดลงตามจำนวนนักท่องเที่ยว และอัตราค่าห้องพักที่ปรับเพิ่มขึ้นไม่ได้มาก จากการแข่งขันด้านราคาเพื่อกระตุ้นยอดห้องพัก
นอกจากนี้ ไตรมาส 2 และ 3 ยังเป็นช่วงโลว์ซีซัน ดังนั้นเหตุการณ์ดังกล่าวอาจทำให้การท่องเที่ยวไทย ไม่เป็นไปตามเป้าที่ภาครัฐวางไว้ปีนี้ จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทย 29-30 ล้านคน เพิ่มจากปี 2556 ที่คาดไว้ 26.7 ล้านคน
ข่าวเด่น