เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ตอนที่ 8/2557: กับดักหนี้นั้นบางคนติดไปแล้ว... บางคนกำลังจะพลาดหลงไป


 

 

 

ท่านเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ได้เปิดเผยในการแถลงข่าวข้อมูลภาวะสังคมไทยไตรมาส 4/2556 เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557 ผมขอตัดเอาบางส่วนเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับเรื่องหนี้ๆ ที่กำลังเป็นประเด็นในเวลานี้มาย่อยในมุมมองของเครดิตบูโรดังนี้

 

1. ในด้านรายได้ รายจ่าย และหนี้สินของครัวเรือนนั้น ในรายงานระบุว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 ครัวเรือนไทยมีรายได้ 25,403 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน เพิ่มขึ้น 4.6% ขณะที่ครัวเรือนมีรายจ่ายเฉลี่ย 19,259 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน เพิ่มขึ้น 5.2% ทำให้เห็นว่ารายจ่ายวิ่งเร็วกว่ารายได้ จากรายได้ลบรายจ่ายแล้ว ครัวเรือนไทยมีเงินเหลือประมาณ 6,144 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน ซึ่งเงินจำนวนนี้ที่คิดเป็นประมาณ 24-25% ของรายได้จะถูกนำไปใช้จ่ายชำระหนี้ หรือถ้าไม่มีหนี้ก็เก็บออมเอาไว้ แต่จากข้อมูลระบุว่าครัวเรือนไทยมีหนี้สินเฉลี่ย 159,492 บาทต่อครัวเรือน หรือเกือบ 160,000 บาทต่อครัวเรือนมีอัตราเพิ่มขึ้น 8.7%

 

2. ที่สำคัญมากๆ คือการผิดนัดชำระหนี้สินไตรมาส 4/2556 ยอดคงค้างหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) สินเชื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 26.6% สินเชื่อบุคคลภายใต้กำกับที่มีการกู้เป็นก้อนผ่อนเป็นงวดหรือสินเชื่อบัตรกดเงินสดผิดนัดชำระหนี้เกิน 3 เดือนเพิ่มขึ้นสูง 45.8% มามีตัวเลขหนี้เสียอยู่ที่ 10,920 ล้านบาท ในส่วนของยอดค้างชำระบัตรเครดิตเกิน 3 เดือนขึ้นไปเพิ่มขึ้น 31.3% หมายถึงความเร็วการเป็นหนี้เสียมีความเร็วมากขึ้น ในเชิงตัวเลข หนี้เสียรวมเทียบกับสินเชื่อที่ปล่อยออกไปนั้น ยังถือว่ามีสัดส่วนน้อยในภาพรวมของสินเชื่ออุปโภคบริโภคอยู่ สถาบันการเงินต่างรับมือกันได้ ไม่เหมือนตอนเกิดเหตุการณ์หลังปี 2540 แต่ก็ยังไว้ใจอะไรไม่ได้เพราะการที่หนี้เสียวิ่งเร็วขึ้นนั้น เป็นเครื่องชี้ว่าความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือนลดลง ขณะที่พูดก็พูดเถอะว่า แนวโน้มภาวะเศรษฐกิจในปี 2557 ยังลูกผีลูกคน มีความเสี่ยงสูง ยังไม่สามารถคาดการณ์อะไรได้ การที่จะก่อหนี้ใหม่ต้องพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ การจ้างงาน และค่าจ้างแรงงานว่า ยังมีกำลังส่งกำลังผ่อนหรือไม่ สิ่งเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยและอัตราค่าจ้างแรงงานที่จะเป็นอย่างไรในสภาพการตลาดเช่นทุกวันนี้

 

3. หนี้ของครัวเรือนหากอยู่ในสภาพที่แก้ไขไม่ได้เพราะมีเงินเหลือพอใช้หนี้เพียงประมาณ 2,500 บาทต่อเดือน มีความเสี่ยงอย่างมากที่จะไปใช้วิธีคิดกู้นอกระบบ ดอกเบี้ย 5% - 10% เอามาใช้ก่อนจนลุกลามไปถึงความเครียดสะสม ในที่สุดจะไปลงที่เด็กๆ ในครอบครัว เกิดเป็นประเด็นทางสังคม หรือหากชำระหนี้ไม่ได้จะทำให้ตัดสินใจผิดๆ ไปทำงานที่อาจไม่สุจริต ผิดกฎหมายก็เป็นได้ การลัก วิ่ง ชิง ปล้นจะเกิดมากขึ้นไหม หากเป็นคนทำงานประสิทธิภาพในการทำงานจะลดลง หวาดระแวงว่าเจ้าหนี้จะมาตามในวันเงินเดือนออก

 

เราๆ ท่านๆ เห็นตัวเลขแล้วนะครับ กับดักหนี้นั้นบางคนติดไปแล้ว บางคนกำลังจะพลาดหลงไป บางคนกำลังคิดจะทำ ได้แต่บอกและภาวนาว่าอย่าเลือกแบบนั้น เดินไปคุยกับเจ้าหนี้ขอขยายระยะเวลาดีกว่าครับ เวลานี้เครดิตบูโรกังวลใจจริงๆ นะครับ

 

สุรพล โอภาสเสถียร

ผู้จัดการใหญ่

บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด


LastUpdate 05/03/2557 02:05:53 โดย : Admin
25-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 25, 2024, 3:34 am