เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
โครงการจำนำข้าววิบากกรรมรัฐบาล


 

 

 

แม้สถานการณ์การจ่ายเงินในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลจะดูเหมือนมีทางออกมากขึ้น  เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. อนุมัติให้รัฐบาลยืมเงินงบกลางวงเงิน 2 หมื่นล้านบาท มาใช้หนี้ชาวนาได้เป็นการชั่วคราว  แม้จะกำหนดเงื่อนไขให้คืนเงินภายในสิ้นเดือนพ.ค. 2557 

 

 

 


นายสมชัย  ศรีสุทธิยากร  กกต. ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า  การอนุมัติงบดังกล่าวอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่เป็นเงินยืมทดรองราชการ    โดยจำนวนเงินที่ยืม 20,000 ล้านบาท ซึ่งจะไม่กระทบต่องบกลางที่เหลืออยู่ 67,000 ล้านบาท  เพราะรัฐบาลชี้แจงว่า  สามารถขายข้าวได้เดือนละ 8,000 ล้านบาท  หากขายได้เป็นเวลา 3 เดือน จะมีมูลค่า 24,000 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าเงินที่ขออนุมัติไป และจะนำมาจ่ายคืนงบกลางภายในเดือนพ.ค. 255 7 ตามที่ได้ประมาณการว่า รัฐบาลยังคงรักษาการอยู่ จึงไม่ผูกพันรัฐบาลชุดต่อไป และไม่เข้าข่ายเป็นได้เปรียบเสียเปรียบในการหาเสียงเลือกตั้ง

 

สำหรับการชำระหนี้ให้ชาวนาครั้งนี้  เป็นการชำระให้กับชาวนาที่มีใบประทวนภายในเดือนพ.ย. 2556  ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่รัฐบาลจะประกาศยุบสภา ในวันที่ 9 ธันวาคม 2556  

 

ด้านนายสมศักดิ์  โชติรัตนะศิริ  ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า เงินจากงบกลางที่ จำนวน 20,000 ล้านบาท ที่กกต. อนุมัติให้รัฐบาลรักษาการ  น่าจะส่งผ่านไปถึงธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เพื่อส่งต่อให้เกษตรกรที่ถือใบประทวนในโครงการรับจำนำข้าวได้ในสัปดาห์หน้า    ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อตกลงกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์และกรมบัญชีกลาง ในเรื่องการที่กระทรวงพาณิชย์สัญญาว่าจะนำเงินมาคืนงบกลางภายในเดือนพ.ค. ปี 2557

 

ส่วนนายยรรยง  พวงราช  รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์  กล่าวว่า หลังจากที่ กกต.อนุมัติให้รัฐบาลใช้งบกลางมาจ่ายคืนให้แก่ชาวนา  คาดว่าจะสามารถจ่ายเงินถึงมือชาวนาได้ภายในหนึ่งสัปดาห์    ซึ่งเมื่อรวมกับเงินระบายข้าวเฉลี่ยเดือนละ 1 หมื่นล้านบาทแล้ว ก็จะสามารถจ่ายเงินตามลำดับใบประทวนไปจนถึงเดือนธ.ค. นี้

 

 

 

ขณะที่ ธ.ก.ส.  ได้เปิดตัวกองทุนช่วยเหลือชาวนาอย่างเป็นทางการ โดยนายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า  ตั้งแต่วันที่ 3-4 มีนาคม 2557  มียอดเงินบริจาครวมกว่า 149 ล้านบาท และคาดว่า  ภายในวันที่ 10 มีนาคมนี้จะได้รับเงินบริจาคและเงินสมทบประมาณ 1,000 ล้านบาทแรก    ธนาคารจะนำไปจ่ายให้กับชาวนา ตามลำดับของใบประทวนที่ขึ้นทะเบียนไว้ทันที โดยทุกขั้นตอนจะเป็นไปอย่างโปร่งใสและชัดเจน 

 

รวมทั้งระหว่างวันที่ 5-22 มีนาคม เป็นต้นไป พนักงาน ธ.ก.ส.ทั่วประเทศจะร่วมกันรณรงค์เชิญชวนและให้ข้อมูลกับประชาชนช่วยกันบริจาคและสมทบเงินเข้ากองทุนฯ อีกด้วยทั้งนี้ เป้าหมายระดมเงินเข้ากองทุนดังกล่าว 20,000 ล้านบาท  ซึ่งการบริจาคเงินช่วยเหลือชาวนามี 3 รูปแบบ ได้แก่  กองทุนที่ 1 บริจาคเงินเข้ากองทุนช่วยเหลือชาวนา ,กองทุนที่ 2 สมทบเงินเข้ากองทุนช่วยเหลือชาวนาชนิดคืนต้น ไม่มีผลตอบแทนตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป  และกองทุนที่ 3 สมทบเงินเข้ากองทุนช่วยเหลือชาวนาชนิดคืนต้น และมีผลตอบแทนตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป อัตรา 0.63% ต่อปี โดยรับเงินบริจาคและเงินสมทบจนถึงวันที่ 30 มิ.ย.57 

 

 

 

 

แต่สำหรับชาวนาที่ได้รับความเดือดร้อนจาก ความล่าช้าในการจ่ายเงินของรัฐบาล  ก็ยังคงเดินหน้าฟ้องศาลปกครองเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลชดใช้เงิน  ซึ่งนายปรเมศว์  อินทรชุมนุม เลขานุการสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ได้นำเอกสารหลักฐาน เป็นตัวแทนชาวนา 22 ราย เข้ายื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองสูงสุด  เรียกร้องค่าเสียหายในโครงการจำนำข้าวรวมเป็นจำนวนเงิน  2,738,992.65 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี โดยยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่1 ในฐานะเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ หรือ กขช.  คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติเป็น ผู้ถูกฟ้องคดีที่2  กระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่3 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่4    องค์การคลังสินค้า เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่5 องค์การตลาดเพื่อเกษตรกรเป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่6  และ กระทรวงการคลัง เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่7 ในข้อหาการกระทำละเมิดของหน่วยงานทางปกครอง ผิดสัญญาทางปกครอง ในการจ่ายเงินโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลที่ไม่เป็นไปตามกำหนด  ซึ่งเชื่อว่า ศาลปกครองจะเร่งรัดดำเนินการพิจารณาคำฟ้องดังกล่าวอย่างเร่งด่วนเนื่องจากชาวนาได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก    

 

แม้การจ่ายเงินให้ชาวนาในโครงการรับจำนำข้าวจะเริ่มมีทางออก  แต่เมื่อเทียบกับวงเงินที่รัฐบาลค้างชำระให้ชาวนา  ยังถือว่าตัวเลขดังกล่าวยังห่างไกลจากความเป็นจริง  
 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 06 มี.ค. 2557 เวลา : 08:09:13
25-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 25, 2024, 3:18 am