“ทิพยประกันภัย” โชว์กำไรสุทธิปี 56 กว่า 1,154 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อน 336% กำไรสุทธิต่อหุ้น 3.85 บาท เบี้ยประกันภัยรับรวม 24,157 ล้านบาท ด้านผู้บริหาร “สมพร สืบถวิลกุล” ตั้งเป้าปีนี้เบี้ยประกันภัยโตต่อเนื่องอีก 15% พร้อมจับมือพันธมิตรทางธุรกิจเดินหน้ารุกรายย่อยเพื่อชดเชยรายได้จากการรับประกันภัยโครงการภาครัฐที่ชะลอตัว

นายสมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานประจำปี 2556 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556 ว่า บริษัทฯมีผลการดำเนินงานอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ โดยมีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 1,154.63 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 3.85 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 264.63 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.88 บาท หรือกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 890.00 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วน 336.32%
ขณะที่ฐานะการดำเนินงานของบริษัทฯ ยังมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น โดย ณ สิ้นปี 2556 มีสินทรัพย์รวม 74,450.95 ล้านบาท หนี้สินรวม 69,886.98 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 4,563.97 ล้านบาท

“ผลงานในปีที่ผ่านมาของทิพยประกันภัย ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีเบี้ยประกันภัยรับรวมสูงถึง 24,157.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 2,634.74 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น 12.24%” นายสมพร กล่าว

จากเบี้ยประกันภัยรับรวมที่เพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทฯมีกำไรจากการรับประกันภัย  1,149.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1,552.39 ล้านบาท หรือคิดเป็น 385.35%  เนื่องจากปี 2556  ไม่มีผลกระทบจากค่าสินไหมของมหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2554 ที่ บริษัทฯได้ประมาณการค่าสินไหมดังกล่าวในงบการเงิน ปี 2555 จำนวน 1,148.64 ล้านบาท

นายสมพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ถึงแม้ผลงานในปีที่ผ่านมาขยายตัวต่ำกว่าเป้าเล็กน้อยคือ ขยายตัว  12.24% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 15% แต่ยังถือว่า สูงกว่าอัตราการขยายตัวของธุรกิจประกันวินาศภัยที่อยู่ประมาณ 8-9% สืบเนื่องจากหลายปัจจัย อาทิ โครงการเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ที่รัฐบาลชะลอออกไป   

สำหรับแผนการดำเนินงานปี 2557 นายสมพร กล่าวว่า ทิพยประกันภัยตั้งเป้าอัตราการขยายตัวเบี้ยประกันภัยรับไว้ที่ 15% โดยยังคงยึดกลยุทธ์เน้นขยายกลุ่มลูกค้ารายย่อยมากขึ้น ขณะเดียวกันก็จะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า  รวมถึงการร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งธนาคารและสถาบันการเงิน  ในการเพิ่มลูกค้ารายย่อย Bancassurance เพิ่มมากขึ้น 

ล่าสุด ทิพยประกันภัย ได้ร่วมกับธนาคารกรุงไทยออกบัตร KTB Shop Smart Palladium ซึ่งเป็นบัตร Visa Debit ที่ให้ความคุ้มครอง 3 ส่วนในบัตรเดียวกันคือคุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลและค่ารักษาพยาบาลสูงสุดถึง 1,000,000 บาท ทั่วโลก, คุ้มครองความเสียหายต่อสินค้าจากอุบัติเหตุที่ใช้จ่ายผ่านบัตร และคุ้มครองการถูกโจรกรรมเงินที่ถอนจากเครื่อง ATM ซึ่งถือว่าเป็นบัตร Visa Debit ที่ให้ความคุ้มครองสูงสุดในขณะนี้   

พร้อมกันนี้ ประมาณไตรมาส2 นี้ บริษัทฯ จะย้ายสำนักงานใหญ่ไปที่อาคารแห่งใหม่บนถนนพระรามสาม ซึ่งเป็นอาคาร 25 ชั้น  มีความทันสมัย ทั้งระบบและอุปกรณ์ในการปฏิบัติงาน เพื่อสามารถรองรับการให้บริการกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมาก