สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ระดับอุดมศึกษา เปิดผลวิจัยพบ เยาวชนไทยเล็งเห็นความสำคัญเรียนภาษาต่างประเทศ ช่วงปิดภาคเรียน

ศ.ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน  ประธานกรรมการอาวุโส,อาจารย์พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช ประธานกรรมการ,ดร.พิสิฐ  พฤกษ์สถาพร กรรมการรองผู้อำนวยการ,ดร.กุลธิดา  เสาวภาคย์พงศ์ชัย กรรมการรองผู้อำนวยการและอาจารย์วัฒนา  บุญปริตร กรรมการรองผู้อำนวยการสำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ระดับอุดมศึกษา ร่วมแถลงผลวิจัยการใช้เวลาว่างในช่วงปิดภาคฤดูร้อนของเยาวชนไทย ที่ได้ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 10-14  มีนาคม 2557 เพื่อใช้เป็นข้อมูลสำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้วางแผนรณรงค์ให้เยาวชนไทยเล็งเห็นความสำคัญของเวลาและการทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์เช่นการเรียนภาษาต่างประเทศ ในช่วงปิดภาคเรียน

ศ.ศรีศักดิ์กล่าวว่า จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 1,052 คน สามารถสรุปผลได้ดังนี้คือ ในด้านข้อมูลทางประชากรศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงคิดเป็นร้อยละ 51.71 ส่วนร้อยละ 48.29 เป็นเพศชาย กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 39.83 มีอายุเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 14 ถึง 16 ปี และกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายหรือประกาศนียบัตรวิชาชีพซึ่งคิดเป็นร้อยละ 37.93

ในด้านพฤติกรรมการเรียนภาษาต่างประเทศในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 51.05 ระบุว่า ตนเองเคยเรียนภาษาต่างประเทศในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนของปีก่อน ๆ   ขณะที่กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งคิดเป็นร้อยละ 59.03 ระบุว่า ตนเองมีความสนใจที่จะเรียนภาษาต่างประเทศในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนปี พ.ศ. 2557 นี้

สำหรับภาษาต่างประเทศที่มีความสนใจจะเรียนในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนปี พ.ศ. 2557 นี้ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เกือบหนึ่งในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 30.43 มีความสนใจอยากเรียนภาษาอังกฤษในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนปี พ.ศ. 2557 รองลงมาเกือบหนึ่งในสี่อยากเรียนภาษาจีนซึ่งคิดเป็นร้อยละ 24.96 ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 13.53 และร้อยละ 11.59 อยากเรียนภาษาเกาหลีและภาษาญี่ปุ่นตามลำดับ ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 32.37    ตั้งใจจะเรียนภาษาต่างประเทศในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนปี พ.ศ. 2557 ที่สถาบันสอนภาษาเป็นการเฉพาะ/การจัดค่ายเรียนรู้ภาษา ส่วนกลุ่มตัวอย่างเกือบหนึ่งในสี่ตั้งใจจะเรียนที่สถาบันการศึกษาทั่วไปซึ่งคิดเป็นร้อยละ 24.15

ส่วนสิ่งที่กลุ่มตัวอย่างคาดหวังจากการเรียนภาษาต่างประเทศในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนปี พ.ศ. 2557 นี้สูงสุด 5 อันดับได้แก่ มีทักษะความรู้ในการใช้ภาษานั้น ๆ เพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 83.25 ได้รับความรู้ในสิ่งที่ต้องการ คิดเป็นร้อยละ 81.48 สามารถนำความรู้ที่ได้จากการเรียนไปใช้ได้จริง คิดเป็นร้อยละ 79.23 ได้เรียนกับผู้เชี่ยวชาญในภาษานั้น ๆ อย่างแท้จริง คิดเป็นร้อยละ 77.13 และมีสื่อการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ/มาตรฐาน คิดเป็นร้อยละ 74.07 นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 80.03 และร้อยละ 78.58 มีความคิดเห็นว่าการเรียนภาษาต่างประเทศในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนปี พ.ศ. 2557 นี้จะเป็นประโยชน์กับตนเอง จะช่วยให้มีทักษะความรู้เกี่ยวกับภาษาที่เรียนเพิ่มขึ้นกว่าเดิมได้

สำหรับสาเหตุสำคัญสูงสุด 5 อันดับที่กลุ่มตัวอย่างมีความสนใจอยากเรียนภาษาต่างประเทศในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนปี พ.ศ. 2557 นี้ ได้แก่ ต้องการเพิ่มทักษะในการใช้ภาษา คิดเป็นร้อยละ 82.77 พ่อแม่ผู้ปกครองหรือบุคคลใกล้ชิดต้องการให้เรียน คิดเป็นร้อยละ 80.68 เพื่อประโยชน์ในการเรียนในระดับชั้นที่สูงขึ้นต่อไป คิดเป็นร้อยละ 78.9 เพื่อนๆ/ครูอาจารย์ชักชวนให้เรียน คิดเป็นร้อยละ 76.65 และต้องการติดตามข้อมูลเรื่องราวของสิ่งที่สนใจ คิดเป็นร้อยละ 73.91

ส่วนสาเหตุสำคัญที่กลุ่มตัวอย่างไม่มีความสนใจอยากเรียนภาษาต่างประเทศในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนปี พ.ศ. 2557 สูงสุด 5 อันดับ คือ ไม่ชอบเรียนภาษาต่างประเทศ คิดเป็นร้อยละ 82.37 อยากพักผ่อนช่วงปิดภาคเรียน คิดเป็นร้อยละ 80.74 ขี้เกียจเรียน คิดเป็นร้อยละ 78.19 สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย คิดเป็นร้อยละ 75.64 และมีกิจกรรมอื่นทำแล้ว คิดเป็นร้อยละ 72.16