ททท. เล็งจัดงาน "อะเมซิ่ง ไทยแลนด์" ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออก หลังรัฐบาลเตรียมยกเลิกการประกาศใช้ พระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ)
นางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า ระหว่างเดือนมีนาคม-มิถุนายน 2557 ททท.เตรียมแผนจัดงานอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ โรดโชว์ ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกที่สำคัญ ได้แก่ ไต้หวัน ฮ่องกง และจีน เพื่อนำนักท่องเที่ยวกลับมาท่องเที่ยว หลังสถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลาย โดยเฉพาะการยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
โดยภูมิภาคเอเชียตะวันออก เตรียมยุทธศาสตร์การฟื้นฟูตลาด 2 แนวทาง ได้แก่ การสร้างความมั่นใจว่า ไทยพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิด “ไทยแลนด์ ทูเดย์” โดยให้ตัวแทนรายใหญ่แต่ละประเทศช่วยสร้างความเข้าใจ และ การร่วมมือกับพันธมิตรสายการบิน บริษัทนำเที่ยว จัดทำโปรโมชั่น ในรูปแบบการลงโฆษณาออนไลน์และออฟไลน์ฃ การออกเยี่ยมลูกค้า(เซลล์คอลล์) รวมถึงการเป็นตัวกลางระดมความร่วมมือกับบริษัทในประเทศไทย ในการผลิตสินค้าสมนาคุณพิเศษแจกลูกค้าที่มาเที่ยวไทย เช่น คิงพาวเวอร์ โอเอซิสสปา และ มวยไทย ไลฟ์โชว์ ภายใต้การบริหารของเอเชียทีค เป็นต้น
สำหรับสถิติการเดินทางเข้าของนักท่องเที่ยวช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวตลาดเอเชียตะวันออกเดินทางเข้าไทยประมาณ 1.12 ล้านคน ลดลงร้อยละ 17.13 ส่วนปี 2557 ตั้งเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวรวมจากตลาดตะวันออกเดินทางทั้งสิ้น 17 ล้านคน เติบโตร้อยละ 7.97 คิดเป็นรายได้ 602,000 ล้านบาท
ด้านนางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า การยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเพราะเป็นข้อเรียกร้องที่เอกชนสนับสนุนมานานแล้ว แต่การท่องเที่ยวของไทยจะกลับมาเติบโตได้เหมือนในอดีต การเมืองไทยจะต้องนิ่ง
และขณะนี้พบว่า ยอดจอง (booking) ใหม่ในช่วงไตรมาส 2 (เม.ย-มิ.ย) ลดลงมาก ดังนั้นสิ่งที่ภาคเอกชนทำได้เวลานี้ คือ การรักษาตลาด เช่นล่าสุดในงานท่องเที่ยวไอทีบีที่ประเทศเยอรมนีได้พูดคุยกับบริษัทนำเที่ยว ซึ่งพร้อมส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวมา หรือฮ่องกงที่มีความสัมพันธ์ที่ดีก็คงตามมาในไม่ช้า หากสถานการณ์ทางการเมืองยุติ และเอกชนก็พร้อมลุยตลาดสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวทันที
ด้านนายยุทธชัย สุนทรรัตนเวช นายกสมาคมธุรกิจนำเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) กล่าวว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่มีผลต่อการท่องเที่ยวของคนไทย แต่เศรษฐกิจการค้าขายที่ชะลอตัว ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวน้อยลง ร้อยละ15 จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ดังนั้นจึงต้องการให้บรรยากาศบ้านเมืองกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว เพื่อให้คนไทยได้สัมผัสกับข่าวดีต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง ตลอดจนวันหยุดสำคัญ วันจักรี วันแรงงาน วันฉัตรมงคล ในเดือนเมษายนและพฤษภาคมที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน
สำหรับมุมมองของนักเศรษฐศาสตร์ รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง กล่าวว่า แม้ศรส.จะเปลี่ยนมาใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง แต่เชื่อว่ายังไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างฉับพลัน โดยอาจจะช่วยสนับสนุนได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าจะเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติกลับมาได้
รวมทั้งสถานการณ์ทางการเมือง ยังอยู่ในสภาวะมืดมน เพราะเริ่มมีสัญญาณของการเผชิญหน้ากันแล้ว เห็นได้จากกลุ่มคนเสื้อแดง มีการออกมาเคลื่อนไหวและแสดงท่าทีว่า พร้อมที่จะเผชิญหน้า
ข่าวเด่น