เริ่มนับถอยหลังแล้วสำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล หรือ “2014 FIFA World cup brasil” แม้ว่าขณะนี้ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) จะกำลังประสบกับปัญหาการฟ้องร้องกับศาลปกครองให้ยกเลิกประกาศมัสต์ แฮฟ (Must Have)
ล่าสุดสำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ก็ออกมากล่าวเตือนมิให้บริษัท อาร์เอสขายกล่องบอลโลก เพราะเข้าข่ายละเมิดต่อผู้บริโภคและขัดต่อกฎมัสต์แฮฟ ซึ่งต้องถ่ายทอดสดตลอดการแข่งขัน 64 นัด ออกอากาศผ่านช่องฟรีทีวี และหากต้องการนำรายการดังกล่าวไปถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์ในรูปแบบอื่น เช่น ดาวเทียมหรือเคเบิ้ล จะต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงานกิจการดทรทัศน์ (กสท.)
ปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้บริษัท อาร์เอส ถึงกับอึ้ง เนื่องจากการประกาศใช้กฎภายใต้ มัสต์แฮฟ กสท.เพิ่งออกคำสังประกาศใช้ ขณะที่ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2014 บริษัทได้มีการเข้าประมูลขอรับสิทธิ์การถ่ายทอดสดเกิดขึ้นไปแล้วก่อนหน้าประกาศมัสต์แฮฟ
นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ก่อนที่บริษัทจะเข้าไปประมูลลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2014 บริษัทได้ทำการศึกษากฎระเบียบและข้อปฏิบัติเป็นอย่างดี การที่ กสทช.ออกมาประกาศให้บริษัทปฏิบัติตามกฎ มัสต์ แฮฟ ถือว่าไม่ยุติธรรม เพราะบริษัทประมูลบอลโลกมาก่อนที่ กสทช. จะประกาศใช้กฎมัสต์ แฮฟ ถือเป็นการประกาศใช้ย้อนหลัง ซึ่งความเป็นจริงกฏดังกล่าวควรมีผลบังคับเหตุการณ์ตอนนี้ หรือเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
จากปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลให้บริษัทอาร์เอส ต้องยื่นคำร้องจำเป็นเร่งด่วนไปถึงศาลปกครอง เพื่อให้ศาลเร่งพิจารณาคดี เบื้องต้นคาดว่าก่อนวันที่ 1 เม.ย. นี้ ศาลปกครองน่าจะมีการพิจารณาคดีออกมา และไม่ว่าศาลจะพิจารณาคดีออกมาในรูปแบบใดบ ริษัท อาร์เอส ยินดีน้อมรับคำตัดสินของศาล ซึ่งหากกระทำความผิดจริงก็ยินดีปฏิบัติตามคำสังของศาลอย่างเคร่งครัด
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าขณะนี้บริษัท อาร์เอส จะประสบกับปัญหาและอุปสรรค์ต่างๆ แต่การบริหารลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดยังคงเดินหน้าต่อจนกว่าศาลปกครองจะมีคำตัดสินออกมา โดยในส่วนของช่องทางการถ่ายทอดสดผ่านฟรีทีวียังคงวางไว้ที่ 2 ช่องหลัก คือ ช่อง 7 และช่อง 8 ถ่ายทอดสดทั้งหมด 22 แมตซ์ แต่ในส่วนของการจำหน่ายกล่องรับสัญญาณบอลโลก และการเปิดตัวช่องเวิลด์คัพ ชาแนล บริษัท อาร์เอส ขอชะลอการเปิดตัวและทำตลาดออกไปก่อนจนกว่าจะมีคำตัดสินของศาล
นอกจากนี้ บริษัท อาร์เอส ยังได้เปิดตัวพันธมิตร 4 ราย ที่เข้ามาร่วมเป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ให้กับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ซึ่งจะเริ่มฟาดแข้งกันในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ โดย 4 พันธมิตรแพ็คเกจแพลทินั่ม ประกอบด้วย บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด , บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในนามของ อาร์เอส ต้องขอขอบคุณสปอนเซอร์ทุกราย ที่มอบความไว้วางใจอย่างสูงสุดให้กับบริษัทด้วยดีตลอดมา ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2014 ในครั้งนี้ จะสนุกและมันส์ยิ่งกว่าบอลโลกปีที่ผ่านมา เพราะนอกจากจะเป็นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ระดับโลกที่คนไทยทั้งประเทศรอคอยมานาน 4 ปีมีครั้งแล้ว บริษัทยังเตรียมรายการพิเศษมากมายไว้เอาใจคอบอลอีกด้วย รับรองว่าจัดเต็มจัดหนักกับ แสง สี เสียง และภาพที่คมชัดแน่นอน
ทั้งนี้ ในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา แม้ว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะไม่ปกติจนส่งผลต่อภาคธุรกิจในวงกว้าง แต่จากความสำเร็จในการบริหารสิทธิ์ที่มีมูลค่าสูงสุดในโลกอย่างการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2010 ที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทมีความพร้อมเต็มที่ทุกด้านทั้งการถ่ายทอดสดและทีมงานที่เป็นมืออาชีพ
แม้ว่าขณะนี้บริษัท อาร์เอส จะยังไม่เปิดขายกล่องบอลโลกที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ แต่ในด้านของแผนการทำตลาดบริษัท อาร์เอส ก็ได้วางแผนไว้เรียบร้อยไ ม่ว่าจะเป็นการเตรียมงบการทำตลาดกว่า 100 ล้านบาท ในการเปิดตัว “กล่องบอลโลก” ซึ่งรองรับทุกจานดาวเทียมที่เตรียมไว้เอาใจผู้ที่ต้องการรับชมบอลโลก 2014 ที่กำลังจะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 12 มิ.ย.- 13 ก.ค. นี้
หากศาลปกครองพิจารณาคดีให้สามารถขายกล่องบอลโลก ได้ บริษัท อาร์เอส มั่นใจว่า กล่องบอลโลก จะได้ผลการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค เนื่องจากกล่องดังกล่าวสามารถรับชมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ซึ่งถือเป็นคอนเทนต์ระดับโลกอันทรงอิทธิพล ที่ไม่ได้จำกัดเฉพาะกลุ่มเป้าหมายแค่เพียงคอบอลเท่านั้น หากแต่เป็นกีฬามวลมนุษยชาติที่ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งกล่องดังกล่าวยังสามารถรับชมการถ่ายทอดสดครบทั้ง 64 แมตช์ รวมถึงรายการพิเศษ ไฮไลท์ และรีรันฟุตบอลโลก 2014 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางช่องเวิลด์คัพ แชนแนล
นางพรพรรณ กล่าวว่า กล่องบอลโลกสามารถรับชมคอนเทนต์ที่น่าสนใจอื่นๆ เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายทุกเพศทุกวัยในครอบครัว ได้แก่ การแข่งขันฟุตบอลลาลีกาสเปนฤดูกาล 2014-2015 ครบ 380 แมตช์ การแข่งขันฟุตบอลโกปา เดล เรย์และเกมส์เหย้าทีมชาติสเปน รวมถึงรายการทีวียอดนิยมจากค่ายอาร์เอสเต็มอิ่มทั้งครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นละคร ภาพยนตร์ เพลง และวาไรตี้ฮอตฮิตจากทั้ง 5 ช่อง คือ ช่อง 8 ช่อง 2 สตาร์แม็กซ์ ช่องยู แชนแนล ช่องสบายดีทีวี และช่องซัน แชนแนล ที่สำคัญยังรองรับการรับชมดิจิตอลทีวีครบทุกช่องตามเงื่อนไขการส่งสัญญาณของแต่ละสถานี
สำหรับราคาขายกล่องบอลโลก บริษัท อาร์เอส เตรียมวางราคาขายไว้ที่กล่องละ 1,590 บาท ที่เซเว่น อีเลฟเว่น และร้านค้าจานดาวเทียมทั่วประเทศ ซึ่งหากสามารถทำตลาดกล่องบอลโลกได้ บริษัท อาร์เอส คาดว่าจะมียอดขายกล่องบอลโลกช่วงก่อนการแข่งขันจนจบการแข่งขันไม่ต่ำกว่า 1 ล้านกล่อง
นอกจากจะมีกล่องบอลโลกไว้เตรียมทำตลาดตลาดช่วงการแข่งขันแล้ว ก่อนหน้านี้ บริษัท อาร์เอส ได้จับมือร่วมกับบริษัท พีเอสไอ โอลดิ้ง เจ้าตลาดธุรกิจผลิตกล่องและจานรับสัญญาณดาวเทียม ในการร่วมกันทำตลาดกล่อง PSI O2 Digital โดยอาร์เอสจะนำคอนเทนต์ พรีเมี่ยมระดับโลกอย่าง การแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 "2014 FIFA World Cup" และ ฟุตบอลลาลีกา สเปน ที่บริษัท อาร์เอสเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดอีก 2 ฤดูกาล
นอกจากนี้ กล่องดังกล่าวยังสามารถรวมทั้งช่องยอดนิยมอย่างช่อง 8 เผยแพร่ในกล่อง PSI O2 Digital ในระบบความคมชัดสูงหรือเอชดี เพื่อขยายฐานผู้ชมคอนเทนต์ เนื่องจาก พีเอสไอ มีฐานลูกค้ากว่า 12 ล้านกล่องอยู่ในตลาด เชื่อว่าจะสามารถผลักดันกล่อง PSI O2 Digital ให้ครองตลาด เพื่อทางเลือกแฟนกีฬาได้ไม่ยาก
ส่วนลูกค้าที่ใช้กล่องรับสัญญาณดาวเทียม PSI ก่อนหน้านี้กว่า 12 ล้านกล่อง ลูกค้าเก่าสามารถอัพเกรดกล่องรับสัญญาณที่บ้านจากระบบธรรมดา SD มาเป็นกล่อง PSI O2 Digital ในราคา 1,690 บาท ส่วนลูกค้าใหม่ซื้อได้ในราคากล่องละ 2,490 บาท หลังจากจบการแข่งขันฟุตบอลโลก บริษัท อาร์เอส มั่นใจว่าจะมีรายได้จากลิขสิทธิ์ดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 650 ล้านบาท แม้ว่าอาจไม่ได้ขายกล่องบอลโลก
ข่าวเด่น