การตลาด
สกู๊ป"บิ๊กซี"สบช่องเฮ้าส์แบรนด์ขายดี เร่งปรับภาพลักษณ์เอาใจผู้บริโภค


 
แม้ว่าในช่วง 8-9 ปีที่ผ่านมาการออกมาเปิดตัวสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ภายใต้ชื่อ "ลีดเดอร์ไพร์ส"  จะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากคนไทยยังมีพฤติกรรมนิยมใช้สินค้าแบรนด์ทั่วไปในท้องตลาด  แต่บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ก็ไม่ได้ย่อท้อที่จะเดินหน้าพัฒนาภาพลักษณ์และคุณภาพของสินค้าให้น่าเชื่อถือ และมีคุณภาพเทียบเท่ากับแบรนด์ทั่วไปในท้องตลาด

 
 
 
จากปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าวของการทำตลาดสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ ภายใต้ชื่อ ลีดเดอร์ไพรส์  ส่งผลให้ บิ๊กซี ต้องหันมาปรับภาพลักษณ์ของสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ใหม่ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา ด้วยการปรับสินค้าสินค้าเฮ้าส์แบรนด์เป็นชื่อ "บิ๊กซี" ด้วยการใช้โลโก้ของห้างเป็นตัวแบรนด์สินค้า

หลังจากปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ออกมาในรูปแบบดังกล่าว สามารถช่วยให้บิ๊กซีได้ผลการตอบรับด้านยอดขายสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ได้ดีขึ้นในระดับหนึ่ง ด้วยการมียอดขายสินค้าเฮ้าส์แบรนด์เติบโตเฉลี่ยปีละ 2-4% จากเดิมกลุ่มสินค้าเฮ้าส์แบรนด์แทบจะไม่มียอดขายขยับขึ้นเลย

ทั้งนี้  แม้ว่า บิ๊กซี จะมียอดขายสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ดีขึ้น แต่ก็ถือว่ายังไม่เป็นที่น่าพอใจ เพราะยังมีโอกาสอีกมากให้เข้าไปทำตลาด ด้วยเหตุนี้เมื่อช่วงเดือน ส.ค.2556 ที่ผ่านมา  บิ๊กซี ได้ทำการปรับภาพลักษณ์สินค้าเฮ้าส์แบรนด์อีกครั้ง  ด้วยการเปลี่ยนโลโก้ จากเดิมใช้โลโก้ของห้าง มาเป็นตัวเขียน "Big C"  เพื่อให้สินค้ามีความทันสมัย
 
 
 
 
นายเนติธร ประดิษฐ์สาร ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า ตลาดสินค้าเฮาส์แบรนด์ในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องราว 3% ในปีที่ผ่านมา โดยลูกค้าชาวไทยได้หันมาทดลองใช้สินค้าเฮาส์แบรนด์มากขึ้น โดยมีเหตุผลสำคัญ คือ ได้รับสินค้าคุณภาพดีเทียบเท่าแบรนด์ชั้นนำในราคาประหยัด

ทั้งนี้  สินค้าบิ๊กซีแบรนด์มีจุดเด่นที่คุณลักษณะของสินค้าที่มีคุณภาพดีได้มาตรฐานในราคายุติธรรม และยังเป็นทางเลือกใหม่ให้กับครอบครัวทันสมัย สินค้าบิ๊กซีแบรนด์จึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในกลุ่มผู้บริโภคและครอบครัวในยุคปัจจุบันที่ฉลาดเลือกซื้อสินค้า

อย่างไรก็ดี  เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น บิ๊กซีจึงได้ปรับภาพลักษณ์สินค้าบิ๊กซีแบรนด์ใหม่ ผ่านการเปลี่ยนโลโก้ของสินค้า และแพคเก็จจิ้งของบิ๊กซีแบรนด์ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้มีความทันสมัย กระฉับกระเฉง และ น่าดึงดูดใจยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยใช้คำว่า "Big C" สำหรับโลโก้ เพื่อให้ผู้บริโภครับรู้ถึงแบรนด์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

น.ส.ผกาวดี ว่องคงคาเทพ ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าเฮาส์แบรนด์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จุดมุ่งหมายของการปรับภาพลักษณ์บิ๊กซีแบรนด์ในครั้งนี้ คือ การปรับภาพแบรนด์ให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยเน้นสโลแกน “มั่นใจได้ คัดให้แต่สิ่งดีๆ” เพื่อตอกย้ำคุณภาพของสินค้าบิ๊กซีแบรนด์ที่มีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพเทียบเท่าแบรนด์ชั้นนำ

ขณะเดียวกัน บิ๊กซียังได้เตรียมจัดกิจกรรมการตลาดกระตุ้นการรับรู้ของผู้บริโภคอย่างเข้มข้น เน้นการให้ความรู้ และสร้างความเข้าใจในตัวผลิตภัณฑ์ผ่านประสบการณ์ตรง เช่น การจัดบูธทดลองชิม เพื่อให้ลูกค้าได้ลองทานสินค้าและรู้จักสินค้าของบิ๊กซีมากขึ้นผ่านการซักถามพูดคุย และดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ เพื่อสะดวกสำหรับลูกค้าในการเข้ามาเลือกชิม และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ โดยได้จัดบูธทดลองชิมสินค้าใน 40 สาขาของบิ๊กซี ทั่วประเทศ รวมทั้งการลงโฆษณาในโบรชัวร์ และจัดโปรโมชั่นต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ หลังจากปรับแผนการดำเนินงานดังกล่าว ส่งผลให้ปีที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายสินค้าเฮ้าส์แบรนด์เติบโตดีขึ้นอยู่ที่เกือบ 10% ถือว่าสูงกว่าเมื่อช่วง 7 ปีก่อน ที่สินค้าเฮ้าส์แบรนด์มียอดขายเติบโตเฉลี่ยปีละประมาณ 2-4% และในปีนี้คาดว่าจะมียอดขายเติบโตไม่ต่ำกว่า 10%

น.ส.ผกาวดี กล่าวต่อว่า ทัศนคติของลูกค้าต่อการใช้สินค้าเฮ้าส์แบรนด์ตอนนี้ถือว่าปรับตัวดีขึ้น เห็นได้จากยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าหันมาสนใจสินค้าเฮ้าสแบรนด์ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากกำลังซื้อที่ลดลง  และการปรับคุณภาพของสินค้าที่เทียบเท่ากับแบรนด์ในท้องตลาด  ซึ่งสินค้าที่ขายดียังคงเป็นน้ำดื่ม ข้าวสาร และน้ำมัน

 
 
 
ปัจจุบันสินค้าเฮ้าสแบรนด์ในกลุ่มอุปโภคบริโภคมีด้วยกัน 3 แบรนด์ คือ แบรนด์แฮปปี้บาท เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับล่าง  แบรนด์ Big C  เน้นเจาะลูกค้าระดับกลาง  และแบรนด์ บิ๊กซี พรีเมี่ยม เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน ซึ่งทั้ง 3 แบรนด์จะมีราคาขายถูกกว่าแบรนด์ทั่วไปในท้องตลาด  10-15%  ส่วนอีก 2 แบรนด์ คือ  คาสิโน  และโมโนปรีกรูเมต์  เป็นเฮ้าส์แบรนด์นำเข้าจากฝรังเศสเน้นจำหน่ายในห้างบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า

จากผลการตอบรับที่ดีขึ้น ส่งผลให้ บิ๊กซี  ยังคงเดินหน้าเพิ่มรายการสินค้าแบรนด์ Big C ให้มีความหลากหลายมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกๆ ด้าน โดยปัจจุบันบิ๊กซีมีสินค้าวางจำหน่ายกว่า 2,000 รายการ และในปีนี้มีแผนที่จะเพิ่มจำนวนสินค้าอีกกว่า 300 รายการ เน้นในสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในครัวเรือน ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาล้างจาน น้ำยาซักผ้า น้ำยาทำความสะอาดพื้น รวมทั้งอาหารกระป๋อง ขนม เครื่องดื่ม โดยประเภทของสินค้าที่เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภค คือ สินค้าประเภทที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ข้าว น้ำมัน น้ำปลา น้ำตาลทราย และ สินค้าประเภทขนมขบเคี้ยว และเครื่องดื่ม
 

 
 
 
 
ด้าน นายกรินทร์ พัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายคุณภาพ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์  จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า การปรับโฉมสินค้าบิ๊กซีแบรนด์ ไม่ได้ทำเฉพาะการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์รูปโฉมใหม่เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการปรับปรุงคุณภาพสินค้าให้ดียิ่งขึ้น โดยก่อนที่จะออกสินค้าใหม่ ทางบิ๊กซีได้ทำการทดสอบและทดลองจริงกับผู้บริโภคเพื่อให้มั่นใจได้ว่าสินค้ามีคุณภาพและตรงตามความต้องการของผู้บริโภค
 

 
 
 
สำหรับแผนการขยายสาขาในปีนี้ บิ๊กซียังคงเดินหน้าเปิดร้านใหม่ในทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง ทั้ง 5 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นบิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า  บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์  บิ๊กซีจัมโบ้  บิ๊กซีมาร์เก็ต  มินิบิ๊กซี  และ ร้านขายยาเพียว ซึ่งในส่วนของวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา บิ๊กซีได้เปิดห้างบิ๊กซีจัมโบ้  สาขาใหม่ที่ราษฎร์บูรณะ  จากปัจจุบันเปิดให้บริการไปแล้ว 2 สาขา เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าภาคธุรกิจและลูกค้ารายย่อย  ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการมา 2 ปีมียอดขายเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 20%

ปัจจุบัน บิ๊กซี มีห้างค้าปลีกในเครือเปิดให้บริการไปแล้วกว่า 500  สาขา แบ่งเป็นบิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า 17  สาขา บิ๊กซีจัมโบ้ 3 สาขา บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์  99 สาขา บิ๊กซี มาร์เก็ต 30  สาขา มินิบิ๊กซี 286 สาขา และ ร้านขายยาเพียว 132  สาขา  
แม้ว่าต้นปีภาพรวมยอดขายธุรกิจค้าปลีกสะดุดไปบ้าง เนื่องจากได้รับผลกระทบปัจจัยลบทางการเมือง แต่ในส่วนของ บิ๊กซียังคงมียอดขายเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้  เพราะผู้บริโภคเข้าใจในปัญหาที่เกิดขึ้น  และพร้อมปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี ด้วยการหันไปใช้บริการในสาขาอื่นๆ เมื่อมีความรู้สึกเดินทางไม่สะดวกที่มีการชุมนุมทางการเมือง จากแนวโน้มดังกล่าว ทำให้ บิ๊กซี มั่นใจว่าสิ้นปีนี้จะมีรายได้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน

LastUpdate 21/03/2557 17:06:10 โดย : Admin
25-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 25, 2024, 2:48 am