นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจไทยภายหลังจากมีคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญการเลือกตั้งเป็นโมฆะ (21 มีนาคม )ว่า ย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างแน่นอน เพราะยิ่งตั้งรัฐบาลใหม่ได้ช้าเท่าไหร่ก็ยิ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากเท่านั้น ที่สำคัญงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 จะยิ่งล่าช้าและมีปัญหาแน่นอน

ทั้งนี้ สถานการณ์ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยชะลอตัว แม้เศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวบ้าง  อีกทั้ง เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญๆ เกือบทุกตัวไม่ทำงาน ดังนั้น ถ้าไม่มีงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 ตามกำหนดจะเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจประเทศให้ยิ่งแย่ลงไปอีก

อย่างไรก็ตามแม้เศรษฐกิจไทยจะต้องเผชิญกับสารพัดปัญหารุมเร้า แต่ สศค. เชื่อมั่นว่าจีดีพีไทยในปี 2557 นี้จะขยายตัวประมาณ1-2%ไม่เลวร้ายถึงขั้นติดลบแน่นอนแต่จะซึมๆอย่างนี้เรื่อยๆ  เพราะฐานที่ต่ำในปีก่อนหน้า หากเศรษฐกิจติดลบ นั่นหมายถึงสถานการณ์บ้านเมืองจะต้องเกิดวิกฤต

อย่างไรก็ตาม  สศค. เป็นห่วงเรื่องของหนี้เอ็นพีแอลของสถาบันการเงิน ทั้งธนาคารพาณิชย์ และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ จึงต้องติดตามดูไม่ให้ระดับหนี้เอ็นพีแอลเพิ่มสูงขึ้นหรือส่งเจ้าหน้าที่ช่วยในรายที่ขาดสภาพคล่องหรือมีปัญหาเพื่อบริหารไม่ให้มีลูกหนี้ตกชั้นมากขึ้น

นายสมชัย กล่าวด้วยว่า สศค. เห็นว่าหากหลายฝ่ายมีความกังวลว่า เศรษฐกิจไทยจะเกิดภาวะวิกฤต ทางออกที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว คือ ต้องขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาและออกมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทย เพราะกกต. มีอำนาจและหน้าที่ในการดำเนินการเรื่องดังกล่าว