CPALL หลังซื้อ บมจ.สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO เมื่อปี 2556 ด้วยมูลค่า 1.8 แสนล้านบาท จนมีหนี้เป็นสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้น ที่มีความเสี่ยงเพิ่มจากอัตราแลกเปลี่ยนหากบาทอ่อนค่าทำให้หนี้เพิ่มขึ้นได้ ซึ่งตามแผนสามารถที่จะเลือกออกหุ้นกู้ในประเทศรีไฟแนนซ์หนี้ต่างประเทศที่ถูกจังหวะ

CPALL หลังซื้อ บมจ.สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO เมื่อปี 2556 ด้วยมูลค่า 1.8 แสนล้านบาท จนมีหนี้เป็นสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้น ที่มีความเสี่ยงเพิ่มจากอัตราแลกเปลี่ยนหากบาทอ่อนค่าทำให้หนี้เพิ่มขึ้นได้ แต่หลังจากนั้น CPALL ก็ดำเนินการออกหุ้นกู้เพื่อแปลงหนี้ระยะสั้นเป็นหนี้ระยะยาวเมื่อปลายปี 2556 จำนวน 5 หมื่นล้านบาท ทำให้หนี้ที่ซื้อ “แมคโคร” มูลค่ารวม 1.8 แสนล้านบาท ณ ปัจจุบันเหลือ 1.35 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ในหนังสือชี้ชวนจาก สำนักงาน ก.ล.ต.เปิดเผยว่า ณ 31 ธันวามคม 2556 CPALL มีเงินกู้ยืมระยะสั้น เป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 135,143 ล้านบาท โดยที่เป็นเงินกู้ระยะสั้นประเภทมีหลักประกันสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ มูลค่าประมาณ 132,000 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทอยู่ในระหว่างการจัดโครงสร้างเงินกู้ระยะสั้นเป็นเงินกู้ระยะยาว และมีแผนจะลดภาระหนิ้สินที่มีภาระดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานให้เหมาะสมกับแผนการเงินของบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556 บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิ ต่อส่วนของผู้ถือหุ้น เท่ากับ 4.83 เท่า

และปีนี้ถือเป็นจังหวะที่ดีหลังจากที่ คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25 % เหลือ 2 % ต้นทุนผู้ออกหุ้นกู้ลดลงอีก ทาง CPALL มีแผนออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 40,000 ล้านบาทซึ่งถือเป็นหุ้นกู้ที่มีหลักประกันเป็นหุ้น บมจ.สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO โดยมีวัตถุประสงค์จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ไปชำระคืนหนี้เงินกู้ระยะสั้น ระยะเวลาการจองซื้อ 24 -26 มีนาคม 2557

ด้านนายเกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ซีพี ออลล์ เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ในวันที่ 24-26 มีนาคมนี้ โดยเสนอขายหุ้นกู้มูลค่ารวมไม่เกิน 40,000 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยหุ้นกู้ชุดอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.70%, ชุดอายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.30% , ชุดอายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.85% และชุดอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.14% สำหรับนักลงทุนสถาบันจะเสนอขายขั้นต่ำ 100,000 บาทต่อชุดและเพิ่มเป็นทวีคูณของ 10,000 บาท ในส่วนของประชาชนทั่วไปจะเสนอขายขั้นต่ำ 100,000 บาทต่อชุด และเพิ่มเป็นทวีคูณของ 100,000 บาท โดยกำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ซึ่งการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปทดแทนเงินกู้ยืม จึงไม่ได้เป็นการก่อหนี้เพิ่ม ทั้งนี้ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ประกาศอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ ซีพี ออลล์ ที่ระดับ A+(tha) เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2557 ซึ่งเป็นอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับเดียวกับอันดับความน่าเชื่อของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)

ส่วนด้านฐานะทางการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวามคม 2556 CPALL และบริษัทย่อย มีสินทรัพย์รวม 288,665 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 300 % จากปีก่อนจากการบันทึกสินทรัพย์ที่ได้มาจากการเข้าซื้อกิจการ แม็คโคร อาทิ ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ และการบันทึกค่าความนิยมและยังรวมถึงทรัพย์สินของ CPALL ที่เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของยอดขายและการขยายสาขา 7-Eleven  หนี้สิน 255,658 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 28,781 ล้านบาท ด้านผลการดำเนินงานปีที่ผ่านมาบริษัทมีกำไรสุทธิ 10,049 ล้านบาท ลดลง 4.6 % จากปี 2555 ที่มีกำไรสุทธิ 11,049 ล้านบาท ด้านรายได้รวม 284,670 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 43.9  % จากปีก่อนซึ่งรวมรายได้จากธุรกิจศูนย์จำหน่ายสินค้าระบบสมาชิกแบบชำระเงินสดและบริการตนเองภายใต้ชื่อ “แม็คโคร” จากการซื้อกิจการเมื่อกลางปี 2556

ด้านบทวิจัย บล.บัวหลวงประเมินว่า CPALL  วางแผนที่จะรีไฟแนนซ์เงินกู้ที่มีอยู่ 5.77 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้วยหุ้นกู้ 40,000 ล้านบาท และเงินกู้จากธนาคาร 90,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะออกหุ้นกู้ในเดือนมีนาคมนี้ และวงเงินสินเชื่อระยะยาวกับธนาคารน่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนมิถุนายนนี้ ทำให้เงินกู้ระยะยาวนี้ส่วนใหญ่จะกลายมาเป็นสกุลเงินบาทแทน ด้านอัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋วเฉลี่ยสำหรับการออกหุ้นกู้รอบนี้น่าจะต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋วของการออกหุ้นกู้รอบที่แล้วจำนวน 50,000 ล้านบาทประมาณ 0.1%-0.3 % อันเป็นผลจากอัตราตอบแทนจากตลาดที่ต่ำลง ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จากธนาคารดอกเบี้ยก็ลดลงเช่นกันสมมติฐานอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 5.375 % อ้างอิงจากอัตราดอกเบี้ย MLR -1.5 % จึงส่งผลให้ต้นทุนเงินกู้ถูกลงจากการรีไฟแนนซ์ครั้งนี้ที่เป็นสกุลเงินบาท

ทั้งนี้ด้านผู้บริหารยังกล่าวว่า ผลประโยชน์จากการควบรวมกิจการกับ  MAKRO จะเริ่มปรากฎ ให้เห็นในผลประกอบการไตรมาส1/2557 แต่ในช่วงเริ่มแรกอาจเห็นผลไม่มากนัก แต่จะทยอยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดปีนี้ CAPLL ยังมองว่าผลประโยชน์ดังกล่าวยังช่วยหนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยทั้งปีขยายตัวเพิ่มเติมอีก 0.2  % ซึ่งหมายความว่า อัตรากำไรขั้นต้นช่วงครึ่งหลังของปี 2557 มีแนวโน้มขยายตัวได้เพิ่มเติมมากกว่า 0.2 % และจะเพิ่มมากขึ้นในปี 2558

นับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับ CPALL ในการแปลงหนี้ต่างประเทศเป็นในประเทศได้จังหวะที่ดีทำให้ช่วยลดภาระต้นทุนได้ซึ่งส่วนหนึ่งการกู้หนี้ต่างประเทศด้วยการนำ