สถานการณ์ในไครเมีย ที่รัฐสภาและการลงประชามติหนุนการแยกตัวออกจากยูเครนไปรวมกับรัสเซีย จนทำให้รัสเซียถูกหลายๆประเทศคว่ำบาตรหลายฝ่าย รวมทั้งคนบันเทิงแสดงความเห็นหลากหลาย ต้องจับตาดูต่อไปว่า จะมีชาติไหนบอยคอยงานภาพยนตร์รัสเซียหรือไม่ หรือนำเรื่องราวไครเมียจะถูกนำเสนอในรูปแบบใหม่บนจอภาพยนตร์หรือไม่

เพราะความที่เรื่องการเมืองไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของคน ไม่ว่าจะเป็นพลเมืองของประเทศใดก็ตาม ดังนั้นเรามักจะเห็นกันอยู่เสมอ ที่เมื่อมีเหตุการณ์ทางการเมืองเกิดขึ้น คนในวงการต่างๆ จะออกมาแสดงความคิดเห็น หรือบางทีก็เลือกข้างชัดเจนว่ามีแนวคิดทางการเมืองแบบใด อย่างในสหรัฐเมริกา เมื่อใดก็ตามที่ถึงวาระของการเลือกตั้งประธานาธิบดี ก็จะเห็นคนดังคนนั้นคนนี้เปิดตัวว่า สนับสนุนใคร พรรคใด รวมทั้งมีการนำเรื่องราวของประธานาธิบดีหลายท่านมาสร้างเป็นภาพยนตร์หรือซีรีส์ หรือของไทย ก็ชัดเจนที่เห็นคนดังหลายคนแสดงความคิดเห็นทางการเมืองชัดเจน

เหตุการณ์ทางการเมืองโลกที่เป็นที่กล่าวถึงมากที่สุดเหตุการณ์หนึ่งตอนนี้คือ การที่รัฐสภาท้องถิ่นของไครเมียได้ประกาศเอกราชจากยูเครน พร้อมยื่นขอรวมประเทศกับรัสเซียอย่างเป็นทางการ ภายหลังผลการลงประชามติพบว่า ชาวไครเมียกว่าร้อยละ 96 สนับสนุนให้มีการแยกประเทศจากยูเครน ไปเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้รัสเซียถูกหลายๆประเทศคว่ำบาตร เพราะมองว่า การลงประชามติแยกประเทศของไครเมีย ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญของยูเครน

ซึ่งล่าสุด ญี่ปุ่น ก็เป็นอีกประเทศที่คว่ำบาตรรัสเซีย ระงับข้อตกลงใหม่ทั้งหมดเกี่ยวกับความร่วมมือทางทหารและอวกาศกับรัสเซีย พร้อมเรียกร้องให้รัสเซียเคารพหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ตลอดจนเกียรติภูมิของยูเครนและไม่เดินหน้ารวมประเทศกับเขตปกครองตนเองไครเมีย ของยูเครน

เหตุการณ์เรื่อง ไครเมีย ส่งผลต่อวงการภาพยนตร์อยู่ไม่น้อย เหล่าบรรดาผู้กำกับภาพยนตร์ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้กันหลายคน

กลุ่มคิโนโซยุซ (Kinosoyuz) ซึ่งเป็นกลุ่มผู้กำกับภาพยนตร์อิสระได้ออกมาเรียกร้องให้อย่าแบ่งแยกประเทศ ซึ่งกลุ่มนี้ประกอบด้วย บอริส เคบนิคอฟ และ อเล็กซี โปโปเกรบสกี ซึ่งเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ รวมทั้ง วิตาลี มานสกี และ มาเรีย ราซเบซคินา ผู้กำกับสารคดีชื่อดัง

ขณะที่ อล็กซานเดอร์ โซกูรอฟ ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวรัสเซียจากเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก ซึ่งเป็นที่รู้จักของคอหนังทั่วโลกเพราะภาพยนตร์ของเขาเคยไปฉายที่งานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส และ เวนิช ประเทศอิตาลี ก็ไม่เห็นด้วยกับที่ไครเมียจะรวมเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย

" เราไม่ได้เป็นชาติเดียวกับชาวยูเครน เราต่างกัน วัฒนธรรมของเราก็แตกต่างกัน จริงอยู่ ประเทศเราใกล้กัน เรามีอะไรที่เหมือนกันหลายอย่าง แต่ไม่ได้หมายความว่าเราเป็นชาติเดียวกันเราต่างกันและเราต้องการความเคารพและความเข้าใจในความแตกต่างนี้"

อย่างไรก็ตาม คนรัสเซียส่วนใหญ่ ก็เห็นด้วยกับทางการรัสเซียที่จะเอาไครเมียมาเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ไม่เว้นแม้แต่คนในวงการบันเทิง อย่าง ลีโอนิด โบรนวอย นักแสดงรุ่นเก๋าที่ แสดงออกชัดเจนว่าสนับสนุนการรวมไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียมาตลอด ซึ่งเหตุผลของพวกที่สนับสนุนการเอาไครเมียมาเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ก็เพราะมองว่าครั้งหนึ่ง ไครเมีย เองก็เป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย และจริงๆแล้วคนไครเมียก็ควรจะมีสิทธิในการที่จะเลือกว่าจะอยู่กับรัสเซียหรือยูเครน

หลังการผนวกไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย คะแนนนิยมของคนรัสเซียต่อประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ก็พุ่งพรวดอย่างไม่เคยมีมาก่อน ตรงข้ามกับเสียงจากต่างชาติที่ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย

จากนี้ไปคงต้องดูว่าเรื่องราวของไครเมียจะส่งผลอะไรต่อโลกมากน้อยแค่ไหน

ส่วนในวงการบันเทิง นอกจากต้องดูว่าจะมีชาติไหนบอยคอยงานภาพยนตร์รัสเซียหรือเปล่า เหตุการณ์ครั้งนี้คงทำให้ผู้กำกับ นักเขียนบทของรัสเซียและยูเครนเอง ได้มีแรงบันดาลใจนำไปสร้างเป็นผลงานออกมาให้คนในประเทศได้ดูกันแน่ๆ