GL บอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลงวดครึ่งปีหลังหุ้นละ 0.0409-0.0570 บาท  ส่วนปีนี้ลุ้นภาวะการเมืองคลี่คลาย แต่มั่นใจบริษัทลูกในกัมพูชามีกำไร คาดพอร์ตลูกค้าปีนี้โตแตะ 20,000-25,000 รายช่วยหนุนรายได้ปีนี้

นายมิทซึจิ โคโนชิตะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL หนึ่งในผู้นำผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีหลัง 2556 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.0409-0.0570 บาท

โดยอัตราจ่ายเงินปันผลที่แน่นอนนั้น จะขึ้นอยู่กับจำนวนการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิ GL-W2 ครั้งที่ 6 และ GL-W3 ครั้งที่ 3 ในวันที่ 31 มีนาคม 2557 และการใช้สิทธิ GL-W3 ครั้งที่ 4 ในวันที่ 30 เมษายน 2557 ซึ่งบริษัทฯ ได้กำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อกำหนดสิทธิการรับเงินปันผลในวันที่ 14 พฤษภาคม 2557 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 28 พฤษภาคม 2557 โดยต้องขอความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปีของผู้ถือหุ้น ซึ่งกำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 30 เมษายน 2557 นี้

ทั้งนี้ในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตรา 0.11 บาทต่อหุ้น เมื่อรวมกับอัตราการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีหลังอีก 0.0409-0.0570 บาท รวมเป็นการจ่ายเงินปันผลทั้งปีในอัตรา 0.1509-0.167 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นจำนวนเงินปันผลประจำปี 2556 ไม่เกิน 167,907,435.88 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 69.87 ของกำไรสุทธิ

นายมิทซึจิกล่าวต่อว่า สำหรับปีนี้บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถสร้างผลกำไรได้อย่างแข็งแกร่ง โดยคาดว่าธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติตั้งแต่กลางปีนี้ หลังวิกฤติการเมืองคลี่คลาย โดยปัจจัยที่ทำให้กำไรพลิกฟื้นกลับมาเติบโตอย่างโดดเด่นในปีนี้ เนื่องจากคาดว่าลูกค้าที่บริษัทฯ ได้ตั้งสำรองเผื่อหนี้สูญไว้จำนวนมาก ในปี 2556 จะสามารถกลับมาชำระค่างวดได้ตามปกติและจะทำให้เงินสำรองเผื่อหนี้สูญก่อนหน้านี้สามารถบันทึกกลับมาเป็นกำไรในปีนี้ได้

นอกจากนี้ บริษัทฯ คาดว่า ผลประกอบการจากบริษัท GLF ซึ่งเป็นบริษัทฯ ลูกในกัมพูชา จะเริ่มสร้างกำไรดีขึ้นหลังผ่านพ้นจุดคุ้มทุน เนื่องจากมียอดลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันเฉลี่ยเดือนละ 1,000 ราย จะเพิ่มเป็น 2,000 ราย ภายในสงกรานต์นี้ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 3,000-4,000 รายต่อเดือนภายในสิ้นปีนี้ ส่งผลให้ยอดลูกค้าสะสม ณ สิ้นปี 2557 เพิ่มขึ้นเป็น 20,000-25,000 รายจากปัจจุบันที่มียอดลูกค้าสะสมรวม 50,000 ราย ซึ่งถือเป็นจุดคุ้มทุน ดังนั้น ลูกค้าใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้น จะช่วยสร้างผลกำไรจากการดำเนินงานในกัมพูชาได้ดียิ่งขึ้น