"โฆสิต"มองเศรษฐกิจไทย 57 โตไม่ถึง3% ชี้แรงกดดันจากผลของโครงการประชานิยม เช่น โครงการรับจำนำข้าว และรถยนต์คันแรก ที่ทำให้หนี้ภาคครัวเรือนสูงขึ้น สร้างผลเสียและกดดันเศรษฐกิจไทยขยายตัวไม่หวือหวาไปอีก 2 ปี

 

นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวระหว่างการสัมมนาในหัวข้อเรื่อง Start up ติดเครื่องธุรกิจ : อนาคตเศรษฐกิจไทย ซึ่งบมจ.ธนาคารกรุงเทพ ร่วมกับชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอีจัดขึ้น ณ โรงแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ ถนนเจริญกรุงว่า ผลจากการที่ประเทศไทยมีรัฐบาลรักษาการทำให้การบริหารงานประเทศไม่สามารถดำเนินการได้เต็มที่ จึงอาจทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไทยปีนี้โตไม่ถึง 3%  

นายโฆสิตกล่าวด้วยว่า โดยส่วนตัวมองว่า เศรษฐกิจไทยยังมีแรงกดดันจากผลพวงของโครงการประชานิยมต่าง ๆ ของรัฐบาล เช่น รับจำนำข้าว และรถยนต์คันแรก ที่ทำให้หนี้ภาคครัวเรือนสูงขึ้น สร้างผลเสียและกดดันเศรษฐกิจไทยให้ไม่สามารถขยายตัวได้อย่างหวือหวาในช่วง 1-2 ปีนับจากนี้ไป 

อย่างไรก็ตามหากไทยมีรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งและสามารถบริหารงานได้อย่างเต็มที่ จะทำให้จีดีพีปีนี้โตได้ 3% ขณะที่ธนาคารกรุงเทพยังคงตั้งเป้าหมายอัตราการขยายตัวของสินเชื่อไว้ที่ 5-6% ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ

นับเป็นมุมมองเศรษฐกิจไทยที่ซบเซาคล้ายคลึงกับผู้เชี่ยวชาญในแวดวงการเงินและเศรษฐกิจอีกหลายราย รวมถึงนายกฤษณ์ จันทโนทก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจเงินฝาก การลงทุนประกันภัยและธนบดี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ที่มองว่า ถ้าการเมืองยังไม่คลี่คลาย ไม่สามารถเลือกตั้งได้ภายในครึ่งปีแรก  จีดีพีของไทยปี 2557 ไม่น่าจะเกิน 2% เพราะเมื่อไม่สามารถเลือกตั้งได้ ก็ไม่มีรัฐบาล การใช้จ่ายไม่เกิดและส่งผลทำให้เศรษฐกิจไม่ดีตามมา ขณะที่กรุงศรี ริเสิร์ชมองจีดีพีอยู่ที่ 2.5-3% ส่วนธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ประเมินอยู่ที่ 2.7% 

นายกฤษณ์ยังเชื่อว่า  คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีแนวโน้มจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกในการประชุมครั้งต่อ ๆ ไป เนื่องจากเวลานี้อัตราดอกเบี้ยนโยบายถือว่าอยู่ในระดับต่ำแล้ว

นอกจากนี้ยังมองว่า การปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ลงอย่างต่อเนื่องของสหรัฐ ทำให้มีเงินทุนไหลจากตลาดเกิดใหม่ รวมถึงไทยด้วย ถ้ากนง.ปรับลดลงอีกจะยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ดังกล่าว  ประกอบกับไทยกำลังเข้าสู่วิกฤตหน้าแล้งอย่างรุนแรง ซึ่งจะทำให้ผลผลิตภาคการเกษตรไม่ดีและมีผลทำให้ราคาสินค้าเกษตรมีราคาแพง ที่อาจทำให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อตามมา