การตกรอบ ยูฟา แชม 16 ทีมสุดท้ายของทีม "ปิศาจแดงดำ"มิลาน ส่งผลให้สโมสรจากอิตาลีต้องสูญพันธุ์ในรอบลึกๆ ของศึกยูฟา แชมเปียนส์ลีก อีกครั้ง ซึ่งเป็นลักษณะแบบนี้มาหลายปีแล้ว เป็นผลต่อเนื่องมาจากลีกในประเทศที่ตกต่ำต่อเนื่องติดต่อกันมานาน
หากใครที่ได้มีโอกาสดูฟุตบอลในช่วง 20 กว่าปีมานี้ คงจะจำยุคทองของวงการฟุตบอลอิตาลีได้ดีว่ายิ่งใหญ่มากๆ เมื่อ 20 ปีก่อน เอซี มิลาน เคยถล่ม "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลนาหมดรูป 4-0 ในนัดชิงฟุตบอลยูโรเปี้ยน คัพ (ยูฟา แชมเปียนส์ลีก ในปัจจุบัน ) ซึ่งเป็นรายการฟุตบอลสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
นอกจากนั้นทีมจากอิตาลีเคยได้แชมป์รายการนี้ถึง 6 ครั้ง ในรอบ 12 ปีมาแล้ว เรียกได้ว่าตอนนั้นเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับโลก ไม่ว่าใครก็อยากจะมาค้าแข้งในศึกกัลโช ซีรี่เอ แต่ปัจจุบันเหลือไว้แต่อดีตให้จดจำเท่านั้น เพราะทั้งความนิยมและความสำเร็จโดนลีกชั้นนำอื่นทิ้งห่างไปหมด
ปัจจัยที่ทำให้สโมสรจากอิตาลียากจะแข่งขันในยุคปัจจุบันได้ เป็นเพราะว่าทีมไม่ได้เป็นเจ้าของสนามเอง ยกเว้นในกรณีของ"ม้าลาย" ยูเวนตุส ทำให้สนามที่เป็นของเทศบาลเมืองนอกจากจะล้าสมัยแล้ว ทีมก็ไม่มีสิทธิปรับปรุงสนามเพิ่มค่าตั๋วหรือบริหารให้ได้อย่างที่ใจหวัง นอกจากนี้อีกประเด็นสำคัญที่โทษใครไม่ได้ก็คือเรื่องปัญหาความรุนแรงของแฟนบอล ส่งผลให้คนไปเชียร์ที่สนามน้อยลงกว่าแต่ก่อนมาก กลายเป็นว่ารายได้เกือบครึ่งของแต่ละทีมจะมาจากทางโทรทัศน์มากกว่า
ว่ากันว่ารายได้ของ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซีต่อ 1 แมตช์ น่าจะสูงกว่าที่โรมาได้รับถึง 6 เท่า แบบนี้คงเดาได้ไม่ยากว่าสโมสรไหนจะมีศักยภาพในการซื้อและจ้างนักเตะสูงกว่า
ทั้งนี้ หากว่า ยูเวนตุส กับ เอซี มิลานไม่ติด 1 ใน 10 ของสโมสรทำรายได้สูงสุดจากการสำรวจฤดูกาล 2012-2013
ภาพรวมของวงการฟุตบอลอิตาลีจะแย่กว่านี้มาก เหมือนกับ ดาเนียลเล เด รอสซี ที่ได้ค่าจ้างแพงสุดในลีก แต่ถ้าเอาไปเทียบกับพวกแถวหน้าของยุโรปถือว่าแค่ปลายแถวเท่านั้น
เคยมีคนเสนอทางรอดของวงการฟุตบอลอิตาลีไว้นานแล้วว่า ต้องปฏิรูปให้แต่ละทีมมีสนามเป็นของตัวเอง ซึ่งนี่เป็นความคิดที่มีมานานแล้ว แต่ที่เพิ่มมาล่าสุดก็คือ ต้องมีการขายชื่อแชมป์กับสปอนเซอร์ เหมือนกับอังกฤษที่มีชื่อ
"บาร์เคลย์ส พรีเมียร์ลีก"
แต่ทั้งนั้นทั้งนั้นไม่ได้หมายความว่าจะเป็นการหวังแค่เม็ดเงินเพียงอย่างเดียว แต่มีการคาดกันว่าสปอนเซอร์ที่จะเข้ามากอบกู้บอลอิตาลี ต้องเข้ามาช่วยสโมสรต่างๆ ให้แก้ไขทั้งปัญหาความรุนแรง การเหยียดผิว เพิ่มความน่าสนใจในการดึงคนดูเข้ามาชมในสนาม จึงจะมีโอกาสฟื้น
และแน่นอนว่าห ากฟุตบอลในระดับสโมสรดีขึ้น ก็น่าจะส่งผลให้ผลงานในระดับชาติดีขึ้นด้วย เพราะเท่ากับหากกัลโช ซีรี่เอ มีคนดูมากขึ้น มีการเงินที่ดีขึ้น สามารถดึงดูดนักฟุตบอลระดับดีๆมากขึ้น นักฟุตบอลในอิตาลีก็จะมีโอกาสและมีประสบการณ์พัฒนาความสามารถมากขึ้นไปอีก
และสำหรับกลางปีนี้ ก็จะถึงเวลาของฟุตบอลโลกแล้ว อิตาลี เป็นชาติหนึ่งที่หลายคนมองว่ามีสิทธิที่จะคว้าแชมป์โลกได้ แม้จะไม่ใช่เต็งหนึ่ง ซึ่งหากอิตาลีคว้าแชมป์ได้ ก็จะสร้างสถิติคว้าแชมป์โลกได้มากที่สุด 5 สมัยเท่าบราซิล และจะทำให้คนทั้งอิตาลีมีความสุขอีกครั้ง แต่ไม่ว่าผลงานจะออกมาเป็นอย่างไร คงถึงเวลาที่จะต้องปฏิรูปฟุตบอลอิตาลี โดยเฉพาะบอลลีก เพื่อที่อิตาลีจะได้กลับมายิ่งใหญ่ในวงการฟุตบอล ทั้งในระดับทีมชาติและสโมสรอีกครั้ง
ข่าวเด่น