เอเชียประกันภัยเล็งเข้าจดทะเบียนใน ตลท. ต้นปี 58 ชี้ศักยภาพเติบโต-ทำกำไรต่อเนื่อง ตั้งเป้าปั๊มเบี้ยโตปีละ 30% ปูทางขึ้นท็อป 10 ใน 3 ปี ลั่นประเดิมปีนี้โกยเบี้ยทะลุ 2,500 ล้านบาท ชูสินค้าตระกูล "พลัส" ลุยกวาดเบี้ยโต
นายจุลพยัพ ศรีกาญจนา ประธานคณะกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชียประกันภัย 1950 จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า มีความสนใจที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในราวต้นปี 2558 เพื่อต่อยอดการเติบโตของธุรกิจที่น่าจะต้องการใช้เงินลงทุนใหม่ ขยายสาขา และเครือข่ายการขายเพิ่มขึ้น
"ตอนนี้เรามีคุณสมบัติครบถ้วนตามเกณฑ์ที่กำหนดในการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่แล้ว บริษัทไม่มีขาดทุนสะสมแล้ว ปีที่ผ่านมาก็ทำกำไรได้ประมาณ 50-60 ล้านบาท และปีนี้คาดว่าจะมีกำไรราว 120 ล้านบาท แต่การจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปีนี้คงไม่ใช่จังหวะที่ดีนัก เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจยังไม่เอื้อ ซึ่งเรารอได้ ไม่ได้รีบ คาดว่าราวไตรมาส 1 ปีหน้าคงจะเป็นจังหวะที่เหมาะสม"
นายจุลพยัพ กล่าวอีกว่า การจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เบื้องต้นบริษัทน่าจะต้องมีเบี้ยรับให้ถึง 2,500-3,000 ล้านบาทก่อน ซึ่งเป็นแผนที่บริษัทจะทำให้ได้ภายในปีนี้ หรือเติบโตขึ้นไม่น้อยกว่า 30% จากปีที่แล้วซึ่งมีเบี้ย 1,950 ล้านบาท โดยประเมินว่าศักยภาพของตลาดประกันภัยที่บริษัทโฟกัสอยู่นั้นสามารถเติบโตได้อีกมาก
รวมถึงบริษัทได้ทำแผนการเติบโตในระยะ 3 ปีข้างหน้าว่า จะเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 30-40% ซึ่งจะทำให้สามารถขยับมาร์เก็ตแชร์ขึ้นไปอยู่ในกลุ่มท็อป 10 ได้และเชื่อว่า การจะอยู่ในตำแหน่งดังกล่าวจะต้องมีเบี้ยไม่น้อยกว่า 4,000-5,000 ล้านบาท
สำหรับแผนการขยายธุรกิจในปี 2557 นี้ นายจุลพยัพ กล่าวว่า บริษัทยังมุ่งเน้นแบบประกันรถยนต์ในกลุ่ม "พลัส" นำโดยประกันภัยรถยนต์ 2+, 3+ และ 3+ มอเตอร์ไซค์ ซึ่งเป็นจุดแข็งของบริษัทและคาดว่า จะสร้างเบี้ยเป็นหลักไม่น้อยกว่า 65% ของเบี้ยที่ทำได้ทั้งหมด โดยเฉพาะประกัน 3+ มอเตอร์ไซค์ที่ปีนี้ตั้งเป้าหมายไว้ถึง 160 ล้านบาท เนื่องจากยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากหลังจากเริ่มเปิดตัวในปีที่ผ่านมา
ขณะที่แบบประกันอื่นที่เข้ามาเสริมนั้น จะมีแบบประกันรถยนต์ชั้น 3 และ 3 กันชน แบบประกันรถยนต์ชั้น 1 และประกัน พ.ร.บ. รวมถึงปีนี้จะมีสินค้าใหม่เข้ามาเพิ่มเติมด้วย
"เรายังเน้นแบบประกันรถเป็นหลัก ไม่ว่าจะ 4 ล้อ หรือ 2 ล้อ เพราะเป็นตลาดที่เราถนัด ซึ่งเบี้ยกว่า 90% ก็จะมาจากประกันภัยรถยนต์เป็นหลัก" นายจุลพยัพกล่าว
ข่าวเด่น