สหการประมูล จูง 4 เอสเอ็มอีไทยคว้ารางวัลเกียรติยศ “Bai Po Business Awards by Sasin” ครั้งที่9  ภูมิใจรางวัลแห่งความซื่อสัตย์ โปร่งใส มั่นธุรกิจประมูลรถมือสองปีนี้โตสูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติ มีออร์เดอร์แน่นอนแล้วนับแสนคัน มี.ค. 57 มียอดขายและกำไรดีสุดในรอบ 250 เดือนหรือกว่า 20 ปี

ธนาคารไทยพาณิชย์  จำกัด (มหาชน) ร่วมกับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมอบรางวัลเกียรติยศ “Bai Po Business Awards by Sasin” ครั้งที่9 แก่ธุรกิจเอสเอ็มอีไทยที่มีศักยภาพและมาตรฐานโดดเด่น โดยมีนายอานันท์ ปันยารชุน นายกกรรมการธนาคารไทยพาณิชย์เป็นประธานมอบรางวัล ณ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อย   บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) เป็น 1 ใน 5 ธุรกิจเอสเอ็มอีที่สามารถคว้ารางวัลมาครอง โดยได้รับรางวัลจากมิติการมีคุณภาพสูง(Quality) มิติการสร้างตราสินค้า(Branding) และมิติการมีระบบงานที่มีประสิทธิภาพ(Efficiency)

สหการประมูลเปิดดำเนินการนับจากปี 2534 เป็นบริษัทประมูลแห่งแรกของไทยที่มีมาตรฐานระดับโลก  เริ่มต้นจากประมูลรถยนต์มือสอง   โดยนายเทพทัย ศิลา กรรมการผู้จัดการใหญ่ ได้ศึกษาข้อมูลจากญี่ปุ่นและสหรัฐฯและนำมาเป็นต้นแบบในการทำธุรกิจ ถือเป็นบริษัทผู้บุกเบิกนำการประมูลแบบเปิดมาใช้ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้า มีความโปร่งใสและตรงไปตรงมา ปัจจุบันยังนำระบบประมูลออนไลน์ หรือ E-Auction ระบบที่ดีที่สุดในโลกจากแคนาดามาใช้ด้วย  เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าประมูลให้สามารถเข้าชมการประมูลได้แบบเรียลไทม์และส่งคำสั่งประมูลผ่านอินเทอร์เน็ตได้ทันที จนบริษัทได้รับยกย่องให้เป็นบริษัทประมูลอันดับหนึ่งของประเทศและมีการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง

นายเทพทัยกล่าวว่า ความสำเร็จในการสร้างมาตรฐานการประมูลเป็นที่ยอมรับในระดับสากล จากการดำเนินงานมากว่า 22 ปี ยึดมั่นเรื่องความซื่อสัตย์และการพัฒนาบุคลากรจนสามารถพัฒนายอดขายจากไม่กี่ร้อยล้านบาทต่อปีมามียอดขายมากกว่าหมื่นล้านบาทต่อปีและขายได้ประมาณ 1 แสนคันต่อปี ครอบครองส่วนแบ่งตลาดรถมือสองมากถึง 65%   นับว่าเป็นบริษัทที่มียอดขายรถมือสองมากที่สุดในอาเซียน  การประมูลมีทุกวันทั่วประเทศ  10 แห่ง มีสถานที่เก็บสินค้า 17 แห่ง เฉพาะในกรุงเทพฯมีการประมูลวันละ 8 รอบทั้งที่สำนักงานใหญ่ที่รามคำแหง 39 และสาขาคลอง 8  ซึ่งลูกค้าสามารถติดตามข้อมูลการประมูลได้ผ่านเวบไซต์ เพื่อเลือกประมูลรถที่ต้องการ

“บริษัทมีจุดยืนและมีมาตรฐานในเรื่อง ความเป็นธรรมาธิบาลและความโปร่งใส เพราะเราเป็นคนกลางระหว่างบริษัทการเงิน ธนาคารต่าง ๆ กับบริษัทต่าง ๆ กับพ่อค้ารถ เราและลูกค้าทั่วไปทั่วประเทศ จึงต้องรักษาความถูกต้อง คุมคุณภาพรถและวางมาตรฐานทุกอย่างให้ดี

เมื่อได้รับรางวัลก็เป็นการยืนยันในสิ่งที่เรามีความเชื่อมั่นมาตลอดและความโปร่งใสที่เราทำอยู่ทุกวันนี้   จึงทำให้เราต้องนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน   ถือเป็นบริษัทประมูลรถยนต์มือสองที่ 2 ของโลกที่เข้าตลาดทรัพย์  อันดับแรกในอาเซียนและของไทย เพราะบริษัทประมูลที่โปร่งใสเหมือนอย่างเรามีไม่มาก ทำให้แบรนด์ของเราช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่สถาบันการเงินเพิ่มขึ้น  

ถือเป็นรางวัลแห่งความดี ซื่อสัตย์ ซื่อตรง โปร่งใส่ทำให้ ทีมงานภูมิใจและพร้อมผลักดันแบรนด์ของเราให้เติบโตไปได้ในอนาคตทั้งในเรื่องของคุณภาพและการบริหารที่ดี“ 

นายเทพทัยกล่าวต่อว่า เป้าหมายในอนาคตสหการประมูลเตรียมเปิดสาขาเพิ่มอีกรวมที่ฝั่งธนบุรีและหัวเมืองใหญ่ในภูมิภาค เช่น นครราชสีมา สุราษฎร์ธานีและเชียงใหม่   ซึ่งสัดส่วนการประมูลในกรุงเทพฯคิดเป็น 60%  ต่างจังหวัด 40%  แต่ต่อไปจะเพิ่มเป็น 50%-50%  อีกทั้งมีแผนขยายการประมูลทรัพย์สินอย่างอื่นเพิ่มเติมได้แก่ บ้านและที่ดิน  ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับสถาบันการเงิน นอกเหนือจากนี้ยังจะร่วมทุนกับญี่ปุ่นเพื่อตรวจสภาพรถ 300 จุดต่อคันและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้ประมูลรถได้มากและเร็วขึ้น

สำหรับความท้าทายท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปัจจุบัน นายเทพทัยยังเชื่อมั่นว่า สหการประมูลจะสามารถเติบโตต่อไปได้ในปี 2557 นี้  เนื่องจากในขณะนี้มีคำสั่งซื้อรถยนต์ที่แน่นอนอยู่แล้ว 1 แสนคัน  ประกอบกับในระยะ 1-2  ปีที่ผ่านมามีการปรับกลยุทธ์ภายในใหม่คาดว่า จะส่งเสริมให้มีการเติบโตสูงกว่าปกติ ที่มีการเติบโตเฉลี่ยปีละ 10-15%  โดยตัวอย่างกลยุทธ์ที่นำมาใช้ อาทิ การรักษาลูกค้าที่มีอยู่ การเพิ่มช่องทางการขายและหาผู้ซื้อเพิ่ม เป็นต้น

“ผลจากการปรับกลยุทธ์ดังกล่าวทำให้เดือนมกราคม กุมภาพันธ์และมีนาคมปี2557  ธุรกิจประสบความสำเร็จสูง  โดยเฉพาะเดือนมีนาคม  มียอดรายได้และกำไรถือว่าดีที่สุดในรอบ 250 เดือนหรือกว่า 20 ปี  ไตรมาสแรกของปี 2557  นี้ก็น่าจะเป็นไตรมาสที่ดีมากที่สุดนับตั้งแต่เปิดบริษัทมา หลังจากนั้นคงจะค่อย ๆ เติบโต เพราะโตเร็วไปไม่ดี เพราะต้องมีการสร้างทีมงานคุณภาพมารองรับด้วย”

ส่วนบริษัทเอสเอ็มอีอีก 4 แห่ง ที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ยังรวมไปถึง บริษัทยูเรกา ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) ผู้ออกแบบและผลิตเครื่องจักรผลิตชิ้นส่วนสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์  เช่น เครื่องทดสอบการรั่ว การกดอัดและประกอบ ซึ่งปัจจุบันมียอดขายติดอันดับ 1 ใน 5 ของไทย

บริษัทดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำผักและผลไม้เข้มข้น ผลไม้อบแห้ง ที่ก่อตั้งขึ้นตามกระแสพระราชดำริที่ต้องการให้มีโรงงานแปรรูปมารองรับผลิตผลของชาวเขา

บริษัทอินฟินิท เทคโนโลยี คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่มีผลงานเด่นหลายอย่าง อาทิ ระบบคิวอัตโนมัติ ระบบบริหารจัดการจอดรถยนต์ มิเตอร์พร้อมพรินเตอร์สำหรับรถแท็กซี่และตู้ตรวจการอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น และสุดท้ายคือ บริษัทเอ็กซา ซีแลม จำกัด ผู้ผลิตทันตกรรมเทียมครบวงจรใหญ่ที่สุดในไทยและส่งออกไปยังตลาดยุโรปมากว่า 10 ปี  โดยมีการผลิตตามคำสั่งซื้อเป็นรายชิ้นจำเพาะของแต่ละบุคคล