นายเจษฎา ภวภูตานนท์ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย แซนดิสก์ คอร์เปอเรชั่น (ขวามือในภาพ)กล่าวว่า “SanDisk Extreme PRO USB 3.0 เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพระดับเวิลด์คลาสที่สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำที่ให้ความเร็วสูง ทนทาน และมั่นใจถึงความปลอดภัยของข้อมูลที่ถูกจัดเก็บ ซึ่งเรารู้สึกตื่นเต้นมากที่สามารถขยายโซลูชั่นมาเป็น USB 3.0 อันเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่เราพยายามช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว” 

แฟลชไดร์ฟ SanDisk Extreme PRO USB 3.0 ประสิทธิภาพสูงชิ้นนี้ มีคุณสมบัติในแบบเจเนอเรชั่นต่อไปที่มาพร้อมความเร็วในการเขียนสูงสุดถึง 240MB ต่อวินาที โดยสามารถอ่านได้เร็วสูงสุดถึง 260MB ต่อวินาที ประสิทธิภาพด้านความเร็วเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายโอนภาพยนตร์ที่มีความยาวเต็มที่ได้เพียงไม่กี่วินาทีหรือสามารถย้ายรูปที่มีความละเอียดสูงกว่า 1,000 ไฟล์ โดยใช้เวลาต่ำกว่า 35 วินาที 2 เปรียบเสมือนแฟลชไดร์ฟในอุดมคติสำหรับการจัดเก็บวิดีโอหรือไฟล์ภาพ  

เคสของแฟลชไดร์ฟ SanDisk’s Extreme PRO USB 3.0 ทำจากโลหะอลูมิเนียมที่ให้ความสวยงามและทนทาน จึงช่วยปกป้องการกระแทกขณะสวมใส่และดึงออกจากการเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ใช้เป็นประจำทุกวัน นอกจากนี้ยังมีซอฟแวร์ SanDisk SecureAccess ที่มี 128-bit AES file encryption สำหรับการเข้ารหัสและการป้องกันพาสเวิร์ด เพื่อรักษาความปลอดภัยให้แก่ไฟล์ส่วนตัวของผู้ใช้ อีกทั้งก็จะผู้อื่นไม่สามารถมองเห็นไฟล์ส่วนตัวและนำไฟล์ไปแบ่งปันต่อได้ 

จากเหตุดังกล่าวทำให้คาดการณ์ว่า อุปกรณ์แบบ USB 3.0 จะมียอดการสั่งซื้อเพิ่มขึ้นถึง 2 พันล้านชิ้นในปี 2016 เติบโตขึ้นจากจำนวนแฟลชไดร์ฟในตลาดขณะนี้ที่ 600 ล้านชิ้นในปี 2013 (ข้อมูลจาก Multimedia Research Group, Inc3)

เวลานี้ แฟลชไดร์ฟ SanDisk’s Extreme PRO USB 3.0 วางจำหน่ายแล้วทั่วโลก และบนเว็บไซต์ www.sandisk.com ด้วยราคา 7,200 บาท สำหรับความจุ 128GB นอกจากนี้ยังรับประกันตลอดอายุการใช้งาน5 และมีการบริการลูกค้าในระดับเวิล์ดคลาสอีกด้วย