"เมเจอร์ฯ" มั่นใจรายได้ปี 57 โตได้ 10% ตามเป้า แม้ Q1 ปีนี้โตไม่ถึง 10% เดินหน้าบุกขยายโรงภาพยนตร์เพิ่ม ทั้งต่างจังหวัด และกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน CLMV รับ AEC ล่าสุด ก.ค. เตรียมเปิดโรงใหม่กลางกรุงพนมเปญ กัมพูชา พร้อมรุกเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่สู่วัยอิสระ อายุ 60 ปีขึ้นไป ผ่านบัตร M GENERATION Freedom" ด้วยสุดยอดแคมเปญ “60 ปี 60 บาท” ดูหนังรอบเช้าวันธรรมดาเพียง 60 บาท
นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯประสบความสำเร็จในการเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าในกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน และกลุ่มครอบครัว ล่าสุดบริษัทฯได้ขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ที่เป็นกลุ่มลูกค้าผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งมองว่ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มวัยอิสระ ที่มีชีวิตอิสระ มีวันและเวลาเป็นของตัวเอง ไม่ต้องยึดติดกับการทำงาน มีไลฟ์สไตล์ทันสมัยมากขึ้น สามารถเลือกใช้เวลาว่างเลือกทำกิจกรรมต่างๆ ที่สามารถสร้างความสุขและความบันเทิงให้กับตัวเองได้ ซึ่งการชมภาพยนตร์ถือเป็นความบันเทิงที่สามารถสร้างความสุขและ เข้าถึงได้ง่าย ประกอบกับกลุ่มคนวัยอิสระนี้มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในสังคมไทย บริษัทฯจึงถือโอกาสบุกตลาดนี้
นายวิชากล่าวว่า ในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย มีถึง 30% ที่คนกลุ่มวัยอิสระนี้ สร้างความสุขและความบันเทิงให้กับตัวเอง ด้วยการดูหนังดีๆ ทุกเรื่องในโรงภาพยนตร์ ขณะที่ประเทศไทยยังมีไม่ถึง 1% ทำให้เมเจอร์ฯอยากจะสร้างไลฟ์สไตล์ให้คนกลุ่มนี้ จึงจัดโปรโมชั่นพิเศษ 60 ปี 60 บาท ให้กับคนอายุ 60 ปีขึ้นไป สามารถซื้อบัตรชมภาพยนตร์ในรอบแรกของวันจันทร์-ศุกร์ ด้วยราคาเพียง 60 บาท ที่โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป ทุกแบรนด์ ทั้งเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์, อีจีวี, เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์, พารากอน ซีนีเพล็กซ์, พาราไดซ์ ซีนีเพล็กซ์, เมกา ซีนีเพล็กซ์, หาดใหญ่ ซีนีเพล็กซ์ รวม 71 สาขาทั่วประเทศ 486 โรง โดยจะต้องลงทะเบียนสมัครเป็นสมาชิกบัตร M GENERATION Freedom ฟรี ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 เมษายน 2557 และยังได้ร่วมลุ้นรับแพ็กเกจตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาลกรุงเทพ อีก 10 รางวัล มูลค่ารวมกว่า 360,000 บาท อย่างไรก็ตาม หากต้องการชมภาพยนตร์ในรอบเวลาอื่นๆ ของทุกวัน สามารถใช้สิทธิ์ซื้อตั๋วผู้สูงอายุ (Senior Price) ในวันจันทร์-ศุกร์ ที่ราคา 90 บาท และวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ราคา 130 บาท
“ปัจจุบันจำนวนประชากรของไทยมีกลุ่มคนวัยอิสระนี้มากถึง 9.9 ล้านคน จากจำนวนประชากรทั้งสิ้น 64 ล้านคน ซึ่งบริษัทฯตั้งเป้าที่จะได้กลุ่มลูกค้าในวัยอิสระนี้ 10% ของ 9.9 ล้านคน หรือประมาณ 9.9 แสนคน”
นายวิชากล่าวต่อว่า สำหรับรายได้รวมในไตรมาส 1/2557 คาดว่าจะเติบโตไม่มาก ไม่ถึง 10% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ 1,671 ล้านบาท โดยเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตของรายได้ 13% ขณะที่เดือนกุมภาพันธ์ไม่มีการเติบโตเลย
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้เติบโตที่ 10% จากปี 2556 ที่ 8,239 ล้านบาท เนื่องจากมองว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยยังมีการเติบโตสูง โดยเฉพาะในต่างจังหวัดที่มีสัดส่วนการเติบโตถึง 70% ขณะที่ในกรุงเทพฯมีสัดส่วน 30% รวมถึงปีนี้แนวโน้มภาพยนตร์ไทยมาแรง โดยมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องนเรศวร รอเข้าฉาย ขณะที่การปิดเทอมของนักศึกษายาวขึ้น 5-6 เดือน ทำให้เป็นโอกาสในการเติบโตของโรงภาพยนตร์ ขณะเดียวกัน บริษัทฯก็มุ่งเน้นขยายโรงภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้ตั้งงบลงทุนไว้ 800 ล้านบาทในการขยายสาขาเพิ่ม 8 สาขา และโรงภาพยนตร์อีก 40 โรงทั่วประเทศ นอกจากนี้ ปีนี้ยังมีแผนทำหนังรวม 15 เรื่อง
“เมเจอร์ฯคาดว่าสัดส่วนรายได้รวมในปี 2557 จะมาจากการขายตั๋วชมภาพยนตร์ 70% และอีก 30% มาจากรายได้ในธุรกิจให้เช่าพื้นที่ ธุรกิจโบว์ลิ่ง และธุรกิจมีเดีย”
นายวิชากล่าวต่อว่า สำหรับแผนการขยายโรงภาพยนตร์ไปในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา-ลาว-พม่า-เวียดนาม) นั้น ขณะนี้ภาพที่ชัดเจนที่สุด คือ การเปิดโรงภาพยนตร์ที่พนมเปญ ประเทศกัมพูชา ในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งวันที่ 26 เมษายน นี้ ตนจะเดินทางไปแถลงข่าวร่วมกับกลุ่มพันธมิตรของกัมพูชาที่ร่วมลงทุนด้วยกันในสัดส่วนกัมพูชาถือหุ้น 30% และเมเจอร์ถือหุ้น 70% โดยในกัมพูชาจะเปิดเป็นโรงภาพยนตร์ 7 โรง และโบว์ลิ่ง 13 เลน เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC
ส่วนประเทศอื่นๆในกลุ่ม CLMV อยู่ระหว่างการศึกษาข้อกฎหมายของแต่ละประเทศ ทั้งสัดส่วนการถือหุ้น ที่บางประเทศ เช่น พม่า ห้ามต่างชาติถือหุ้นในบริษัทเกิน 51% รวมถึงศึกษาสถานที่ ทั้งทำเลที่ตั้ง และค่าเช่าพื้นที่ คาดจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ว่าประเทศใดจะเป็นประเทศที่สอง ต่อจากกัมพูชาที่เป็นประเทศแรกที่เมเจอร์ฯเข้าไปบุกตลาด AEC
ข่าวเด่น