หุ้นทอง
ICHI หุ้นน้องใหม่ไอพีโอ "ตัน ภาสกรนที" เปิดตัวเรียกความน่าสนใจจากนักลงทุนกับกลยุทธ์การตลาด


 
 
ปิดฉากรอบสองอย่างตื่นตาตื่นใจกับกระแสการเสนอขายหุ้นไอพีโอของ ICHI โดยการจัดโรดโชว์เมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา ด้วยการเปิดให้นักลงทุน 250 ท่านแรกที่สนใจได้สิทธิ์จองหุ้น 5,000 หุ้นต่อคนในราคาไอพีโอหุ้นละ 13 บาท ส่วนนักลงทุนทั่วไปเสนอขายในวันที่ 8-11 เมษายนนี้ คาดเข้าเทรดวันที่ 21 เมษายนนี้
 
 
 
 
กระแสความสนใจหุ้น บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI ที่เปิดตัวให้จองหุ้นครั้งแรกเพียง 250 ท่านที่มาต่อแถวเพื่อเข้ารับฟังการนำเสนอข้อมูลหรือโรดโชว์ ให้กับนักลงทุน เมื่อวันที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา ทำให้บรรดานักลงทุนที่มั่นใจในแบรนด์นักการตลาด “ตัน ภาสกรนทนี” ต่างเดินทางมาจากทุกสารทิศของประเทศมุ่งตรงสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สถานที่จัดโรดโชว์ ตั้งแต่คืนวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา บางคนถึงกับขึ้นเครื่องบินมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ  
 
 
 
 
และจากการสัมภาษณ์ผู้ที่มาต่อแถวขอรับสิทธิ์ บางคนมารอตั้งแต่ 21.30 น.ก็มี ทำให้ระยะเวลาเพียง 06.00 น. ของวันที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา มีคนมายืนขอใช้สิทธิ์ครบแล้ว 250 ราย ซึ่งถือว่าเป็นช่วงก่อนเวลาจริงถึง 3 ชั่วโมง โดยเวลาจริงที่เปิดให้จองได้เริ่มเวลา 9.00 น. และก็คงต้องขอเสียงปรบมือให้กับชายผู้นี้จริงๆ
 
 
 
 
ขณะที่ด้านแผนธุรกิจนั้น  นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI ได้เปิดเผยว่า ได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก หรือ ไอพีโอ จำนวน 300 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท หรือคิดเป็น 23.1 % ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลังการเสนอขายหลักทรัพย์ในครั้งนี้ ราคาเสนอขายหุ้นละ 13 บาท และจะเปิดให้นักลงทุนทั่วไปจองซื้อได้ระหว่างวันที่ 8-11 เมษายนนี้ พร้อมกับจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯเพื่อทำการซื้อขายได้ในวันที่ 21 เมษายนนี้
 
สำหรับเงินระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้ประมาณ 3.9 พันล้านบาทนั้น บริษัทมีแผนการใช้เงินแบ่งเป็น 2.5 พันล้านบาท เพื่อใช้ในการชำระเงินกู้ ที่เหลือขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีก 2 ไลน์การผลิต ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จได้ในวันที่ 1 กันยายนนี้ และจะทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 1 พันล้านขวดต่อปีได้ ซึ่งกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับบริษัทได้ถึง 1 หมื่นล้านบาทได้ด้วย 
 
 
 
 
ส่วนแผนธุรกิจของบริษัทระยะเวลา 3-5 ปีข้างหน้า บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ประมาณ 20% ต่อปี โดยยังคงเน้นการเติบโตในตลาดชาเขียวพร้อมดื่มที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากปีที่ผ่านมาที่เติบโตถึง 26% นอกจากนี้ บริษัทยังตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนยอดขายจากต่างประเทศเป็น 5-10% ในระยะเวลา 3 ปี ข้างหน้าด้วย เนื่องจากบริษัทคาดหวังจะได้รับอานิสงส์ประโยชน์ของการประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ส่วนความคืบหน้านั้นบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อขยายโอกาสการลงทุนในตลาดต่างประเทศอยู่
 
อนึ่ง สำหรับการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ บริษัทแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย นอกจากนี้บริษัทได้แต่งตั้งผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายในครั้งนี้อีก 10 บริษัท คือ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซียไซรัส จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ไอ วี โกลบอล จำกัด (มหาชน)


 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 06 เม.ย. 2557 เวลา : 22:47:03
23-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 23, 2024, 7:03 pm