ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB+” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงผลงานของบริษัทที่มีมาอย่างยาวนานในตลาดที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ระดับปานกลาง ตลอดจนความสามารถในการควบคุมต้นทุนค่าก่อสร้างให้อยู่ในระดับที่แข่งขันได้อย่างต่อเนื่อง และนโยบายทางการเงินที่ระมัดระวัง ทั้งนี้ การประเมินอันดับเครดิตยังคำนึงถึงฐานรายได้ของบริษัทที่ค่อนข้างต่ำ ลักษณะของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นวงจรขึ้นลง รวมถึงความกังวลในด้านต้นทุนค่าก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้นและภาวะขาดแคลนแรงงาน ตลอดจนการชะลอตัวของความต้องการที่อยู่อาศัยเนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพ ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงผลการดำเนินงานของบริษัทที่กลับมาอยู่ในระดับปกติได้ในปี 2556 ในอนาคตคาดว่ารายได้ของบริษัทจะอยู่ในช่วง 2,000 ล้านบาทถึง 2,500 ล้าบาทต่อปี ในขณะที่อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนควรอยู่ในระดับต่ำกว่า 30% อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจถูกปรับลดลงได้หากผลการดำเนินงานของบริษัทลดลงจากระดับปัจจุบันอย่างมีนัยสำคัญ ในทางกลับกัน อันดับเครดิตสามารถปรับเพิ่มขึ้นได้หากบริษัทสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดและรักษาฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้
บริษัทมั่นคงเคหะการก่อตั้งในปี 2516 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2533 กลุ่มตระกูลตั้งมติธรรมยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทในสัดส่วน 27% ณ เดือนธันวาคม 2556 บริษัทเน้นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทบ้านจัดสรรในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก ซึ่งประกอบด้วยบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียม บริษัทยังจัดสรรที่ดินเปล่าในราคาตารางวาละ 15,000-50,000 บาทด้วย ในปี 2556 รายได้ของบริษัท
ส่วนใหญ่มาจากการขายที่อยู่อาศัยซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 90% ของรายได้รวม บริษัทมีโครงการที่อยู่อาศัย ณ เดือนธันวาคม 2556 จำนวน 18 โครงการ ด้วยมูลค่าเหลือขายรวม 5,145 ล้านบาท บริษัทมียอดขายที่รอการส่งมอบมูลค่า 722 ล้านบาท ความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัทมาจากความสามารถในการบริหารต้นทุนค่าก่อสร้างซึ่งทำให้บริษัทมีอัตรากำไรในระดับที่น่าพอใจ อัตรากำไรจากการดำเนินงานของบริษัทอยู่ในช่วง 18%-20% ระหว่างปี 2554 ถึงปี 2556 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ระดับ 14%-17% ในกลุ่มบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 16 รายที่ได้รับการจัดอันดับเครดิต
รายได้ของบริษัทในปี 2556 อยู่ที่ 2,760 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60% ซึ่งอยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท จาก 1,724 ล้านบาทในปี 2555 โดยรายได้หลักมาจากการโอนโครงการคอนโดมิเนียม “เด็น วิภาวดี” มูลค่า 851 ล้านบาท ยอดขายในปี 2556 ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยอยู่ที่ 2,094 ล้านบาท จาก 1,784 ล้านบาทในปี 2555 ยอดขายที่เพิ่มขึ้นมาจากยอดขายโครงการแนวราบที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งในปัจจุบันผู้ซื้อมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาน้ำท่วมน้อยกว่าเมื่อครั้งหลังเหตุการณ์อุทกภัยในช่วงปลายปี 2554
อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทลดลงมาอยู่ในระดับ 34% ในปี 2556 จากระดับ 38% ในปี 2555 เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นของโครงการ คอนโด เด็น วิภาวดี ที่อยู่ในระดับต่ำประมาณ 30% รายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2556 ทำให้อัตรากำไรจากการดำเนินงานของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 19.73% จาก 18.44% ในปี 2555 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทก็ปรับตัวดีขึ้น ณ สิ้นเดือน ธันวาคม 2556 หนี้สินรวมลดลงไปอยู่ที่ 920 ล้านบาท จาก 1,768 ล้านบาทในปี 2555 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนลดลงจาก 26.10% ในปี 2555 มาอยู่ที่ 14.83% ในปี 2556 ซึ่งทำให้สภาพคล่องของบริษัทปรับตัวดีขึ้นจากปีที่ผ่านมาอย่างมีนัยสำคัญ อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมของบริษัทอยู่ที่ 53.86% ในปี 2556 โดยเพิ่มจาก 15.75% ในปี 2555 อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายอยู่ที่ 8.53 เท่าในปี 2556 เพิ่มขึ้นจาก 4.70 เท่าในปี 2555
บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) (MK)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
ข่าวเด่น