“เอซุส” บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติไต้หวันที่เข้ามาตั้งสาขาอยู่ในไทย ในชื่อ เอซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) ด้วยนั้น เมื่อเร็ว ๆนี้ได้สร้างสีสันให้กับตลาดสมาร์ทโฟนไทยอีกครั้งด้วยการเปิดตัว “ZenFone” ซีรี่ย์ใหม่ที่มีให้เลือกถึง 3 แบบ พร้อมระบบจัดการข้อมูล ระบบอินเตอร์เฟซและเทคโนโลยีกล้องใหม่ ๆ ที่ช่วยใช้งานได้ง่ายขึ้น จับภาพได้ทุกสภาพแสง
“ZenFone” มาพร้อมคุณสมบัติที่จะสร้างความประทับใจแก่ผู้เป็นเจ้าของหลายอย่างดังนี้
-มีการออกแบบที่สวยงาม หรูหรา ด้วยวัสดุคุณภาพสูง
-ขนาดหน้าจอมีให้เลือกตั้งแต่ 4 นิ้ว-6 นิ้ว พร้อมสีสันที่โดดเด่นและหลากหลาย โดยทุกรุ่นมาพร้อมกับ หน้าจอ Corning Gorilla Glass 3 ที่ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนสร้างความทนทาน ใช้งานได้นานยิ่งขึ้น
-ใช้หน่วยประมวลผล Intel Atom ที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ราคาย่อมเยาว์ จึงทำให้ Zenfone กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างหนึ่งสำหรับผู้บริโภคในไทย
-นอกจากนี้ยังเป็นสมาร์ทโฟนซีรีส์แรกที่เอซุสนำ ASUS ZenUl ระบบจัดการข้อมูลอย่างอิสระมาใช้ร่วมกับระบบอินเตอร์เฟซแบบใหม่ที่มีการพัฒนามากกว่า 1000 ครั้ง ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้นและลื่นไหลเป็นธรรมชาติ พร้อมถ่ายทอดข้อมูลปัจจุบันที่สำคัญและเป็นประโยชน์สำหรับผู้ใช้ เช่น การนัดหมายที่ใกล้จะมาถึง ข้อความใหม่รวมถึงสายที่ไม่ได้รับจากผู้ติดต่อคนสำคัญๆ สภาพอากาศสำหรับจุดหมายปลายทางต่อไปและอื่นๆ อีกมากมาย
-มีเทคโนโลยี PixelMaster ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของกล้องถ่ายภาพที่เป็นส่วนสำคัญของเจ้า ZenFone เพราะทำให้การถ่ายภาพและบันทึกภาพเคลื่อนไหวออกมาสวยงามได้ตลอด ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแสงแบบใด เรียกว่า ทำให้ถ่ายภาพได้เหมือนมืออาชีพ ในทุกๆโอกาส เพราะ PixelMaster รวมคุณสมบัติของ Selfie Mode นวัตกรรมล่าสุดที่ทำให้ถ่ายภาพตนเองได้อย่างมีคุณภาพและ Depth of Field Mode ที่ช่วยให้ถ่ายภาพที่โฟกัสได้อย่างคมชัดด้วยพื้นหลังที่เบลอ ซึ่งปกติเป็นคุณสมบัติที่พบได้เฉพาะในกล้องถ่ายภาพระดับไฮเอนด์เท่านั้น
ส่วนคุณสมบัติเพิ่มเติมของ PixelMaster คือ Low-Light Mode และ Time Rewind ซึ่งจะมาพร้อมกับ ZenFone 5 และ ZenFone 6 ขณะที่ Low-light Mode ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกล้องถ่ายรูปในขณะถ่ายภาพในที่มีแสงน้อย โดยปรับเปลี่ยนขนาดของพิกเซล สามารถปรับเพิ่มความสว่างได้ถึง 400% และความคมชัดได้ถึง 200%
มาดูความแตกต่างของ ZenFone แต่ละรุ่นกัน
ZenFone 4 มาพร้อมกับจอแสดงผลขนาด 4 นิ้ว สามารถปรับเปลี่ยนฝาหลังได้ง่าย หลายสีสัน เช่น Charcoal Black, Pearl White, Cherry Red, Sky Blue และ Solar Yellow กล้องหลักด้านหลัง 5 ล้านพิกเซล รองรับ Micro SD ถึง 64 GB ที่มอบความจุมากมายสำหรับการเก็บภาพ วีดีโอ แอพพลิเคชั่น และอื่นๆ อีกมากมาย
ZenFone 5 มีจอแสดงผลแบบ HD IPS ขนาดใหญ่ 5 นิ้ว ผู้ใช้สามารถใช้งานหน้าจอได้แม้ขณะสวมถุงมือ นอกจากนี้ยังมีการออกแบบโดดเด่นด้วยความบางเฉียบเพียง 5.5 มิลลิเมตร กล้องหลัก 8 ล้านพิกเซล และมีสีสันหลากหลายให้เลือกเหมือนกัน เช่น Charcoal Black, Pearl White, Cherry Red, Champagne Gold และ Twilight Purple
ด้าน Zenfone 6 มีจอแสดงผลแบบ HD IPS ขนาด 6 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยีด้านเสียงที่สมบูรณ์แบบของ SonicMaster เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ความบันเทิงอย่างจุใจ นอกจากนี้ ZenFone 6 ยังมาพร้อมกับกล้องถ่ายรูปที่ให้ความละเอียดภาพถึง 13 ล้านพิกเซล ช่วยให้ถ่ายภาพได้คมชัดยิ่งขึ้น และมีให้เลือกหลายสีเช่นกัน ทั้ง Charcoal Blcak, Pearl White, Cherry Red และ Champagne Gold
สำหรับสนนราคาทุกรุ่นไม่แพง โดย Zenfone 4 สามารถซื้อหาได้ในราคา 2,990 บาทรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม Zenfone 5 ราคา 5,990 บาทรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และ Zenfone 6 ราคา 8,990 บาทรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
ทั้งนี้ Zenfone ซีรี่ย์ จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่เดือน พฤษภาคม เป็นต้นไป
ใครไม่อยากจ่ายแพงกว่า ลองพิจารณาสมาร์ทโฟนตระกูลใหม่จากค่ายเอซุสนี้กันได้...
ข่าวเด่น