หลังจากผ่านเทศกาลแห่งความสุขในช่วงเทศกาลสงกรานต์ บรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองก็ต้องเตรียมควักเงินในกระเป๋าอีกรอบ หลังควักออกไปแล้วรอบหนึ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากใกล้สู่ช่วงเปิดเทอม บรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองก็ต้องเตรียมซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนใหม่ให้กับบุตรหลานเพื่อใช้ตอนเปิดเทอม
จากกำลังซื้อของผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังไม่ฟื้นตัวในทิศทางที่ดีนัก ส่งผลให้ผู้ประกอบการห้างค้าปลีกต้องออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายเข้มข้นกว่าทุกปีที่ผ่านมา เพื่อกระตุ้นความสนใจของพ่อแม่ผู้ปกครองให้ออกมาจับจ่ายซื้อสินค้าให้กับบุตรหลานในช่วงเปิดเทอม บางรายจัดรายการธงฟ้าร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ บางรายอัดโปรโมชั่นหนักลดราคาสินค้าต่ำกว่าทุกปีที่ผ่านมา
นายเนติธร ประดิษฐ์สาร ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เพื่อลดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงเปิดภาคเรียน บริษัทได้จับมือร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ จัดโครงการ "บิ๊กซี-ธงฟ้า ลดค่าครองชีพ Back to School" ลดราคาชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน กว่า 3,500 รายการ จัดโปรโมชั่นลดราคาสูงสุดถึง 30% และโปรโมชั่นต่างๆ เช่น เสื้อหรือกางเกงหรือกระโปรงนักเรียน
สำหรับราคาสินค้าที่บิ๊กซีฯ กำหนดไว้จะมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 42 บาท นอกจากนี้ ยังมีรองเท้านักเรียน ราคาเริ่มต้นที่ 79 บาท ถุงเท้าราคาเริ่มต้น 12 บาท ขณะเดียวกันก็มีการทำโปรโมชั่นผ่อน 0% นาน 10 เดือน สำหรับลูกค้าที่ใช้บัตรเครดิต First Choice Krungsri Visa เมื่อซื้อสินค้าครบ 3,000 บาทขึ้น ตั้งแต่วันนี้ถึง 15 พ.ค. นี้ที่บิ๊กซีกว่า 150 สาขาทั่วประเทศ
หลังจากออกมาทำแคมเปญดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 15 เม.ย. – 15 พ.ค. บิ๊กซีฯคาดการณ์ว่าจะสามารถช่วยผู้ปกครองลดภาระค่าใช้จ่ายช่วงเปิดภาคเรียนได้กว่า 25% หรือเป็นเงินประมาณ 170 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมยอดขายสินค้ากลุ่มเสื้อผ้านักเรียน และอุปกรณ์การเรียน คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปกติไม่ต่ำกว่า 10%
น.ส.สลิลลา สีหพันธุ์ รองประธานกรรมการบริหารฝ่ายกิจการบรรษัท บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้บริหารห้างเทสโก้ โลตัส กล่าวว่า ในช่วงเดือนเม.ย. – พ.ค. นี้ บริษัทได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายกลุ่มสินค้าชุดนักเรียน และอุปกรณ์การเรียน เพื่อต้อนรับวันเปิดภาคเรียนการศึกษาใหม่ประจำปี 2557 ด้วยการจำหน่ายสินค้าเปิดเทอมราคาถูกติดธงฟ้า กระทรวงพาณิชย์ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้าผู้ปกครอง
สินค้าที่ห้างเทสโก้โลตัสนำมาจำหน่ายในราคาพิเศษ ประกอบด้วย ชุดนักเรียนราคาเริ่มต้น 49 บาท รองเท้านักเรียนราคาเริ่มต้น 79 บาท พร้อมกันนี้ยังมีการจัดโปรโมชั่นเพื่อช่วยผู้ปกครองประหยัดค่าใช้จ่าย เมื่อชำระเงินผ่านบัตรเทสโก้ครบทุก 800 บาท รับคูปองเงินสดทันที 50 บาท และเมื่อชำระเงินผ่านบัตร Tesco Visa card ขั้นต่ำ 1,200 บาท รับสิทธิ์ผ่อน 0% นานสูงสุด 3 เดือน และใช้บัตร Premier card ซื้อสินค้าขั้นต่ำ 3,000 บาท รับสิทธิ์ผ่อนนานสูงสุด 10 เดือน
นอกจากนี้ ห้างเทสโก้โลตัส ยังได้เตรียมสินค้าอุปกรณ์การเรียนดีไซน์ใหม่ๆ มาเอาใจน้องๆ ให้อยากไปโรงเรียน เช่น การนำรองเท้านักเรียนแบบเปลี่ยนกระดุมรูปการ์ตูนได้ รองเท้านักเรียนดีไซน์แองกรีเบริ์ด กระเป๋าเป้นักเรียนลายเจ้าหญิง, ลายสไปเดอร์แมน และลายไอรอนแมน เข้ามาทำตลาด เป็นต้น ซึ่งหลังวจากจบแคมเปญดังกล่าวห้างเทสโก้ โลตัส มั่นใจว่าจะได้ผลการตอบรับที่ดีจากลูกค้า
ด้าน นายชาคริต ดิเรกวัฒนชัย รองกรรมการผู้จัดการ แผนกกิจการสาธารณะ บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด กล่าวว่า นอกเหนือจากการจัดรายการต้อนรับเปิดเทอมแล้ว บริษัทยังได้จัดโครงการ “พาน้องไปโรงเรียน” ปีนี้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ด้วยการบริจาครองเท้านักเรียนใหม่ทั้งหมด 20,000 คู่ จากปีก่อนที่บริจาค 15,000 คู่ โดยจะมอบรองเท้าให้กับน้องๆโรงเรียนในเครือพระดาบสเขตจังหวัดชายแดนภาคใต้ และโรงเรียนทั่วประเทศ เพียงลูกค้าซื้อรองเท้านักเรียนที่เทสโก้ โลตัสทุกสาขาตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย.-14 พ.ค. นี้
นอกจากห้างไฮเปอร์มาร์เก็ตจะออกมาดัมพ์ราคาขายชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของพ่อแม่ผู้ปกครองแล้ว ในส่วนของห้างสรรพสินค้าชั้นนำของไทยยังออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อต้อนรับเปิดเทอม ซึ่งในส่วนของกิจกรรมส่งเสริมการขายที่จัดถือว่าไม่แตกต่างจากห้างไฮเปอร์มาร์เก็ต แม้ว่าภาพลักษณ์จะเจาะกลุ่มเป้าหมายที่สูงกว่าห้างไฮเปอร์มาร์เก็ต
เริ่มต้นด้วย ห้างเซ็นทรัล ออกมาจัดรายการ “Central Back To School 2014” ชวนพ่อแม่ผู้ปกครองออกมาจับจ่ายซื้อชุดนักเรียน, รองเท้านักเรียน, ถุงเท้า, เสื้อกล้าม, ซานริโอ, บิวด์-อะ-แบร์, ซีนโซน ในราคาพิเศษด้วยการมอบส่วนลดจากเคาน์เตอร์ปกติ 10-30% นอกจากนี้ ยังมีสินค้าคุณภาพอื่นๆ มาลดราคาสูงสุด 50% และเมื่อช้อปผ่านบัตร The1Card รับลดเพิ่มสูงสุดอีก 12.5% (เมื่อใช้คะแนนเท่ายอดช้อป) ขณะเดียวกันเมื่อช้อปผ่านบัตรเครดิตกสิกร ลดเพิ่มอีกสูงสุด 14% ตั้งแต่วันนี้ - 25 พ.ค. ที่ห้างเซ็นทรัลทุกสาขา (ยกเว้นสีลมคอมเพล็กซ์)
สำหรับห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ เตรียมตัวต้อนรับเปิดเทอมใหม่ ผ่านแคมเปญโปรโมชั่น "The Mall Back To School" ด้วยการมอบส่วนลดสูงสุด 20% และซื้อสินค้าราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 20 บาท กับ โปรโมชั่น I Love My School นอกจากนี้ ยังมีสินค้าชุดนักเรียน เครื่องเขียน รองเท้าแบรนด์ชั้นนำ อาทิ แบรนด์ Breaker, Popteen, Catcha และ Carson ที่ตบเท้ามาจำหน่ายสินค้าในราคาพิเศษ 135 – 420 บาท
ปิดท้ายกันที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ชวนลูกค้ามาซื้อสินค้าต้อนรับเปิดเทอมในราคาพิเศษ ผ่านโปรโมชั่น "I Love My School" กับกิจกรรม 2 คุ้ม ประกอบด้วย คุ้ม 1 : ถูกกว่า ADDA , KITO คู่ละ 179 บาท พิเศษ 2 คู่ราคา 300 บาท ขณะที่ PAN และ PS.JUNIOR จำหน่ายคู่ละ 199 บาท , 219 บาท และพิเศษ 2 คู่ ราคา 350 บาท ส่วนคุ้ม 2 : รับมากกว่า ช้อปรองเท้า, ถุงเท้านักเรียน และชุดชั้นในเด็ก ครบทุก 1,200 บาท รับฟรีบัตรของขวัญโรบินสัน 100 บาท และเมื่อช้อปชุดนักเรียน ครบทุก 500 บาท ลุ้นรับฟรี IPAD MINI และ IPHONE 5C จำนวน 2 รางวัล รวมมูลค่า 38,600 บาท
นายอานนท์ จิตรมีศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้อมจิตต์ แมนนูแฟกเจอร์ริ่ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายชุดนักเรียนแบรนด์ "น้อมจิตต์" กล่าวว่า แนวโน้มของตลาดชุดนักเรียนในปีนี้ ยังไม่เห็นยอดขายเพิ่มอย่างชัดเจน เนื่องจากพ่อแม่ผู้ปกครองเพิ่งใช้เงินไปกับการฉลองในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่หลังจากเข้าสู่เดือน พ.ค. คาดว่าจะเห็นภาพรวมยอดขายชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนที่ชัดเจนขึ้น
อย่างไรก็ตาม โดยปกติสภาพตลาดชุดนักเรียนจะมีอัตราการเติบโตไม่เกิน 5% จากมูลค่าตลาดรวมที่มีประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท แต่จากแนวโน้มทางด้านเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปีนี้ คาดว่าตลาดชุดนักเรียนอาจจะไม่มีอัตราการเติบโต เพราะนอกจากจะได้รับผลกระทบต่อปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจแล้ว ยังมีปัจจัยลบทางด้านการเมืองเข้ามาส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาของผู้บริโภคอีกด้วย
นอกจากนี้ การที่จำนวนเด็กนักเรียนไม่ได้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากอัตราการเกิดมีการปรับตัวลดลง จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่อาจทำให้ภาพรวมตลาดชุดนักเรียน และอุปกรณ์การเรียนในปีนี้ไม่มีอัตราการเติบโตเท่าที่ควร เพราะพ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ยังคงเลือกที่จะประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจการเมือง
ทั้งนี้ นอกจากตลาดชุดนักเรียนมีแนวโน้มไม่เติบโตมากขึ้นแล้ว ปีนี้คาดว่าผู้ปกครองจะเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อชุดนักเรียนจากปกติจะซื้อครั้งเดียวในช่วงก่อนเปิดเทอมของปีการศึกษาใหม่ จะแบ่งการซื้อชุดนักเรียนออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงแรกของการเปิดเทอมปีการศึกษาใหม่ และในช่วงก่อนการเปิดเทอม 2 ขณะที่ปริมาณการซื้อชุดนักเรียนก็มีแนวโน้มที่ลดลง หากอยู่ในภาวะเศรษฐกิจที่ดี ผู้ปกครองจะซื้อชุดนักเรียนในปริมาณ 3-5 ชุดต่อคน แต่ในปีนี้มีแนวโน้มจะซื้อชุดนักเรียนเหลือ 2-3 ชุดต่อคน โดยหันไปใช้ชุดนักเรียนเก่าหรือชุดนักเรียนของรุ่นพี่แทน
นายจักรพล จันทวิมล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรองเท้านักเรียน ภายใต้แบรนด์ “นันยาง” กล่าวว่า ภาพรวมตลาดรองเท้านักเรียนในปี 2557 คาดว่าจะอยู่ที่ 5,200 ล้านบาท หรือเติบโต 3-5% อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับสถานการณ์ปกติ รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ดีภาพรวมของตลาดรองเท้าจะมีอัตราการเติบโตที่ 5-7% แต่ปีนี้เศรษฐกิจค่อนข้างซบเซา กำลังการซื้อของผู้บริโภคในระดับรากหญ้าลดลง จึงคาดการณ์ว่าภาพรวมตลาดรองเท้าจะเติบโตในระดับดังกล่าวเท่านั้น
สำหรับรองเท้าแบรนด์ “นันยาง” คาดว่าจะสามารถสร้างการเติบโตได้มากกว่าอัตราเติบโตของภาพรวมตลาดรองเท้า หรือมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 8% ขณะที่ช่วงเปิดเทอม (แบ็ก ทู สคูล) ปี 2557 ได้ตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ประมาณ 12% เนื่องจาก นันยาง ได้มีการปรับแผนการขาย และออกมาทำกิจกรรมมากขึ้นภายใต้งบประมาณ 65 ล้านบาท ในช่วงเปิดเทอมที่กำลังจะมาถึงในเดือนพ.ค. นี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากงบปี 2556 ที่ใช้ไปประมาณ 50 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีปัจจัยลบด้านการเมืองและเศรษฐกิจ แต่ นันยาง ก็เชื่อว่าภาพรวมตลาดรองเท้า และ เสื้อผ้านักเรียน ในช่วงแบ็ก ทู สคูลปีนี้จะมีความคึกคัก หลังจากปี 2556 ที่ผ่านมา พ่อแม่ระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย ส่งผลให้ตลาดรองเท้านักเรียนไม่มีอัตราการเติบโต โดยมีมูลค่า 5,000 ล้านบาท จะคึกคักจริงตามที่ นันยาง คาดการณ์หรือไม่ผ่านกลางเดือน พ.ค.ไปคงได้รู้กัน.
ข่าวเด่น