ผมได้อ่านบทความที่เขียนโดยคุณอุไรวรรณ ภู่วิจิตรสุทิน เกี่ยวกับคนทั่วโลกที่รวมเอาคนไทยเข้าไปด้วยว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องละทิ้งนิสัย พฤติกรรมแย่ๆ อันจะนำมาซึ่งความเสี่ยงทางการเงินของตนเองในอนาคตแล้ว ผมต้องขอเรียนว่าถูกใจและใคร่ขออนุญาตนำมาขยายผลต่อให้สมกับความตั้งใจของท่านผู้เขียนท่านนี้เป็นอย่างยิ่ง ผมขอสรุปดังนี้นะครับ
1. ไทยเรามีหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ณ สิ้นปี 2556 อยู่ที่ 82.3% คิดเป็นมูลค่า 9.79 ล้านล้านบาท เพิ่มจากสิ้นปี 2555 จำนวนประมาณ หนึ่งล้านล้านบาท และในช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมาหรือในปี 2551 หนี้ครัวเรือนของไทยมีแค่เพียง 55.1%ของ GDP คนไทยเรามีความต่อเนื่องในการมีหนี้ที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าสนใจ
2. บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ให้ข้อมูลว่าสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ของไทยมีโอกาสที่จะขยับขึ้นยังมีอย่างต่อเนื่อง โดยประมาณว่า ณ สิ้นปี 2557 น่าจะเพิ่มขึ้นจนแตะระดับ 84% ของ GDP ตัวเลขนี้ไทย เราตามหลังเกาหลีใต้ ที่อยู่ระดับ 90% ของ GDP และมาเลเซียที่อยู่ใกล้ๆ ระดับ 90% ของ GDP
3. จากข้อมูลเชิงวิเคราะห์ได้ระบุ "หลายเหตุผลทำไมคนเราจึงยังถังแตก" ของเว็บไซต์ คลิปลิงเกอร์ดอทคอม ได้เตือนสติว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องกลับมาสำรวจนิสัยกับพฤติกรรมของตนเอง อันเป็นต้นตอหรือ ที่มาที่ทำให้เกิดปัญหาการเงินส่วนบุคคลว่า มีอะไรบ้าง และต้องทำอย่างไรในการขจัดปัญหาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาหนี้ครัวเรือนในประเทศได้
หยุดเรียน-วุฒิการศึกษาต่ำ ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งว่า การศึกษาจะเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหา เพราะถ้ารู้เรียน รู้คิด จะรู้จักใช้ รู้จักหน้าที่การงาน และรู้จักผิดชอบชั่วดี และรู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ
ฟุ่มเฟือยนิยมแบรนด์เนม อันนี้เห็นได้ชัดเจนว่าถ้าพยายามดำรงชีวิตอยู่กับสิ่งที่ตัวเองไม่สามารถซื้อหามาได้ ความรู้สึกอยากมี อยากได้เป็นเหมือนกับดักหรือหลุมพรางทำให้ผู้คนตกลงไปได้ง่ายๆ ในยุคนี้ เพราะเราอยากจะใช้จ่ายแบบคนรวยที่เราอยากเป็นไม่ใช่ใช้จ่ายได้ตามที่เราเป็นอยู่จริงๆ
ไม่ขยันทำงาน การไม่เอาจริงเอาจังกับวิธีคิด วิธีทำงาน วิธีคิดที่จะให้ผลงานออกมาดีและการไม่เอาใจใส่กับวิธีที่จะให้คนที่รับเอาผลงานจากการทำงานของเรามีความพึงพอใจ
มีแต่นิสัยที่ไม่ดีติดตัว เช่น มีกิจกรรมครบเลยตั้งแต่ ม้า มวย หวย บอลดื่มเหล้า สูบบุหรี่ กินแต่ฟาสต์ฟู๊ดราคาแพง และไม่ยอมออกกำลังกาย ย่อมทำให้สุขภาพบุคคลนั้นๆ ไม่ดีเอามากๆ ท้ายสุดสุขภาพการเงินก็จะพลอยไม่ดีไปด้วยในที่สุด
เล่นหวย-ซื้อสลากกินแบ่ง การฝากความหวังไว้กับตัวเลขที่ออกมาเดือนละสองครั้งกับค่าใช้จ่ายแบบนี้จะทำให้เราสูญเปล่าไปมั้ย หรือมีคำกล่าวอ้างเสมอว่า คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น เพื่อที่จะเสียเงินซื้อหาสิ่งนั้น
ขาดเป้าหมาย ในเรื่องการออม การไม่อดทนที่จะออม การผลัดวันออม เอาไว้ก่อนเดี๋ยวค่อยออม ไม่เป็นไรเดี๋ยวค่อยทำ หรือไม่ต้องรีบยังมีเวลาอีกมากมายในการออม ท้ายสุดคือไม่ได้ออมในที่สุด
ไม่มีเวลาไหนเหมาะที่สุดเท่ากับเวลานี้ที่คนไทยควรต้องสำรวจและปรับนิสัย-พฤติกรรมต้นตอของปัญหา การเงินส่วนบุคคลที่มีมาอย่างยาวนาน และตอกย้ำด้วยตัวเลขหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มจนน่าตกอกตกใจกันทั้งบ้านทั้งเมือง... ขอบคุณอุไรวรรณ ภู่วิจิตรสุทิน อีกครั้งที่เขียนบทความดีๆ มาให้พวกเราได้อ่านกันนะครับ
สุรพล โอภาสเสถียร
ผู้จัดการใหญ่
บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด
ข่าวเด่น