กรุงศรี ควิกเพย์ มุ่งเป็นผู้นำในการนำเสนอเทคโนโลยีการรับชำระเงิน ด้วยการขยายโอกาสสู่ธุรกิจโลจิสติคส์ และธุรกิจขายตรง รองรับการเติบโตของการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ (Mobile Payment) ชูจุดเด่นรองรับทั้งบัตรเครดิต และบัตรเดบิต พร้อมระบบปฏิบัติการที่สามารถเชื่อมต่อ และสนับสนุนงานของลูกค้า เน้นทำงานร่วมกับลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ เพื่อเติบโตอย่างมั่นคง
มร. ฟิลิป แทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แผนธุรกิจของกรุงศรี ควิกเพย์ ปีนี้จะมุ่งไปที่ธุรกิจโลจิสติคส์ และธุรกิจขายตรง เพราะกระแสความนิยม การเติบโตของผู้ใช้สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต รวมถึงการใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะการช้อปปิ้งออนไลน์ ทำให้ร้านค้าจำนวนมาก รวมถึงธุรกิจขายตรง หันมาพัฒนาช่องทางการตลาดผ่านโทรศัพท์มือถือ Mobile Payment หรือธุรกรรมการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ จึงได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย”
ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย ณ ไตรมาส 3 ปี 2556 พบว่าจำนวนผู้ใช้บริการ Mobile Payment อยู่ที่ 969,977 ราย มีมูลค่าราว 5.3 หมื่นล้านบาท และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยราว 22% ต่อปี การเติบโตของ Mobile Payment ทำให้เกิดความท้าทายทางด้านการรับ-ส่งสินค้า (Cash on Delivery หรือ COD) ทั้งการชำระเงินเมื่อได้รับสินค้า ซึ่งที่ผ่านมาต้องชำระเป็นเงินสดก่อน หรือชำระในวันรับสินค้า รวมถึงปัญหาสินค้าที่ได้รับไม่ตรงกับที่สั่งซื้อเป็นต้น ทำให้ลูกค้ากังวลและไม่มั่นใจที่จะใช้บริการ ดังนั้นกรุงศรี ควิกเพย์ จึงเป็นทางเลือกในการชำระเงินที่ไม่ต้องใช้เงินสด หรือจะชำระต่อเมื่อสินค้าที่ได้รับตรงกับที่สั่งซื้อไป และยังรองรับทั้งบัตรเครดิต และบัตรเดบิต ของทุกธนาคาร ทำให้ลูกค้าพึงพอใจกับช่องทางการชำระเงินที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
“จุดเด่นสำคัญของกรุงศรี ควิกเพย์ ที่นอกจากจะรองรับทั้งบัตรเครดิต และบัตรเดบิตแล้ว เรายังได้ร่วมกับผู้ประกอบการพัฒนาระบบปฏิบัติการต่างๆ ที่จำเป็น เช่น การทำ Application Interface หรือการเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่น กรุงศรี ควิกเพย์ เข้ากับแอพพลิเคชั่น ของร้านค้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการชำระเงินให้มีความรวดเร็ว ถูกต้องแม่นยำ การทำบาร์โค้ดสแกนเนอร์ เพื่อตอบสนองความต้องการของร้านค้า และ ช่วยให้ลูกค้าดูข้อมูลของผลิตภัณฑ์ที่สนใจ รวมถึงการทำระบบการรายงานการให้บริการของพนักงาน ส่งผลให้กระบวนการให้บริการกับลูกค้ามีความสะดวกและตรวจสอบได้ดีขึ้น” มร. ฟิลิป กล่าว
มร. ฟิลิป กล่าวว่า “กรุงศรี ควิกเพย์ ถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ธนาคารที่มุ่งเป็นผู้นำในการเสนอเทคโนโลยีทางการเงินที่มอบความสะดวกและคล่องตัวพร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้า โดยที่ผ่านมาเราประสบความสำเร็จอย่างดีจากร้านค้าทั่วไป ขณะเดียวกันเรายังได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ เช่น ธุรกิจประกันภัย ธุรกิจยานยนต์ รวมถึงธุรกิจโลจิสติคส์ และธุรกิจขายตรง ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของกรุงศรี ควิกเพย์ ที่มุ่งเน้นการทำงานร่วมกับลูกค้าองค์กรจำนวนน้อยราย แต่มีปริมาณการทำธุรกรรมจำนวนมาก กรุงศรี ควิกเพย์ จึงเข้ามาช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการอำนวยความสะดวกให้กับตัวแทนของร้านค้ากับลูกค้าที่ซื้อสินค้า พร้อมสร้างความมั่นใจ และความปลอดภัยในการทำธุรกรรม ซึ่งตอบรับกับแนวคิดทางการตลาดของกรุงศรี เรื่องเงิน เรื่องง่าย”
นายเกล็ดชัย เบญจอาธรศิริกุล กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท เคอรี่ โลจิสติคส์ ประเทศไทย กล่าวว่า “สำหรับเคอรี่เอ็กซ์เพรส หลังจากให้บริการกระจายสินค้าด่วนทั่วประเทศมากว่า 7 ปี โดยในช่วงแรกเราเน้นให้บริการลูกค้าในกลุ่ม B2B ซึ่งต้นทางเป็นบริษัทส่งไปยังร้านค้า ต่อมาเรามีกลุ่มลูกค้าประเภท B2C เพิ่มมากขึ้นกว่า 50% ของฐานการส่ง ซึ่งในช่วงปีหลังเสียงตอบรับจากกลุ่มลูกค้าประเภท E-Commerce นั้นมีอัตราการขยายตัวมากขึ้นเป็นอย่างมาก หนึ่งในบริการที่ต้องบริหารจัดการให้กับผู้ส่งก็คือต้องเก็บเงินสดกลับมาคืนยังต้นทาง ที่เรียกกันว่า Cash on Delivery อย่างที่เรารู้กันดีถึงแม้เราจะมีประกันครอบคลุมในตัวทรัพย์สินซึ่งเป็นตัวเงินสด เราเองก็พยายามจะลดความเสี่ยงในการถือเงิน รวมถึงเสียงตอบรับที่หลังจากเราทำวิจัยมาแล้วพบว่า เวลาที่เราสินค้าให้ลูกค้าปลายทางที่สั่งซื้อออนไลน์ นอกจากลูกค้าต้องการเห็นสินค้าก่อนแล้วจึงจ่ายเงิน ยังมีอีกจำนวนมากที่ต้องการจ่ายเป็นบัตรเครดิตอีกด้วย
ในขณะเดียวกัน เมื่อปีที่ผ่านมา กระแสการใช้ Smart Phone เป็นที่รู้กันดีว่าเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมและพัฒนาได้ต่อเนื่อง เราจึงนำมาศึกษาเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการให้พนักงานจัดส่งติดตัวไปเพื่อการรายงานผลการส่งโดยเข้าไปใน Application ที่เราพัฒนาเอง เรียกว่า Mobile POD ทำให้ลูกค้าได้ทราบผลการจัดส่งได้รวดเร็วขึ้น ลดขั้นตอนการทำงาน และในที่สุดยังต่อยอดมาทำงานคู่กับระบบการเก็บเงินของ ธนาคารผ่านบัตรเครดิต โดยใช้ mPOS เป็นอุปกรณ์เสริม
เคอรี่เอ็กซ์เพรส จึงเล็งเห็นว่าพัฒนาการใหม่ๆ เช่นนี้ จึงเข้ามามีบทบาทและเราเองก็จะพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองผู้บริโภคอย่างไม่หยุดยั้งต่อไป เร็วๆนี้เรากำลังพัฒนา Application ให้ลูกค้า Track สินค้าผ่าน Mobile Application ซึ่งอยู่ในขั้นตอนที่จะได้เห็นใน Google Play Store เร็วๆนี้”
นายอิทธิศักดิ์ อำพันยุทธ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คังเซน-เคนโก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า “จากภาพรวมของธุรกิจ MLM ในประเทศไทยมีมูลค่ากว่า 60,000 ล้านบาทในปี 2556 และแนวโน้มการเติบโตเฉลี่ย 10% ทุกปี จึงส่งผลให้ธุรกิจคังเซนทั้งประเทศไทยและสาขาในต่างประเทศ ตลอดจน ทิศทางการตลาดของคังเซน ภายใต้การแข่งขันที่รุนแรง และการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีในปัจจุบัน Strategic Business Partner เป็นสิ่งที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น กรุงศรี, มาสเตอร์การ์ด หรือ Kerry Express กรุงศรี ควิกเพย์ ช่วยทำให้สมาชิกคังเซน สามารถทำงานเพื่อสร้างเครือข่ายภายใต้สายงานของตนเอง และสร้างรายได้ให้กับตนเองได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น”
มร. แอนโทนิโอ คอร์โร ผู้จัดการประจําประเทศไทยและพม่า มาสเตอร์การ์ด กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้ร่วมมือกับทางกรุงศรี ควิกเพย์ ในการรุกธุรกิจโลจิสติคส์และธุรกิจขายตรง เนื่องจากเราได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการเติบโตร่วมกันกับทั้งสองภาคธุรกิจ"
"ธุรกิจโลจิสติคส์ อย่างกลุ่ม Kerry Logistics ครอบคลุมการบริการส่งสินค้าให้กับธุรกิจ e-Commerce ซึ่งจากผลสำรวจของมาสเตอร์การ์ดเมื่อเร็วๆ นี้ แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคชาวไทยนิยมช้อปปิ้งออนไลน์ผ่าน มือถือเป็นอันดับต้นๆ ของเอเชีย โดยมีจำนวนถึง 51.2% เนื่องจากชื่นชอบในความสะดวกสบาย และความสามารถในการช้อปได้ทุกที่ทุกเวลา ส่วนธุรกิจขายตรงก็มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว การร่วมมือเป็นพันธมิตรระหว่างกรุงศรี ควิกเพย์ในครั้งนี้ จึงสอดคล้องกับพันธกิจของมาสเตอร์การ์ด ในการผลักดันให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมการใช้จ่ายแบบไร้เงินสด
(Cashless Society) โดยสามารถเปลี่ยนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตให้กลายเป็นจุดชำระเงินผ่านบัตร ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการชำระเงินของลูกค้าด้วยการจ่ายเงินผ่านตัวแทนเมื่อได้รับของ"
มร. แอนโทนิโอ เสริมอีกว่า "ลูกค้ายังสามารถมั่นใจได้ว่าการทำธุรกรรมจะมีความปลอดภัยอย่างสูง เพราะข้อมูลของลูกค้าจะไม่ถูกเก็บไว้ในเครื่อง ขณะที่เครื่องอ่าน mPOS ทุกเครื่องผ่านการตรวจสอบด้านมาตรฐานความปลอดภัยที่มีความรัดกุม"
“ความร่วมมือกับลูกค้าในการสร้างสรรค์ระบบการชำระเงินที่ใช้งานง่าย ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละรายได้อย่างครบถ้วน เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงเจตนารมณ์ของกรุงศรีที่มุ่งช่วยเหลือและให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบการ ในการขยายโอกาสทางธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโตให้กับลูกค้าอย่างแท้จริง” มร. ฟิลิป กล่าว
‘กรุงศรี ควิกเพย์’ เป็นเทคโนโลยีการรับชำระเงินที่จะเปลี่ยนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตให้เป็นจุดรับบัตร เพียงเสียบเครื่องอ่านข้อมูลบัตร (card reader) เข้ากับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต และคีย์ข้อมูลที่จำเป็นในการชำระเงินผ่าน แอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ที่รองรับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต ได้ทุกที่ทุกเวลา และโดยการสนับสนุนจากมาสเตอร์การ์ด ผู้ให้บริการด้านเครือข่ายชำระเงินระดับโลก ที่มุ่งสนับสนุนร้านค้าให้สามารถรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิต และบัตรเดบิต ผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่พร้อมความปลอดภัยขั้นสูง ทำให้ลูกค้าสามารถไว้วางใจในความปลอดภัย และไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลบัตร หรือลายเซ็นจะถูกบันทึกเก็บไว้ในเครื่อง เพราะข้อมูลของลูกค้าจะถูกส่งไปยังระบบธนาคารทันทีที่มีการดำเนินการ ทำให้ลูกค้าสามารถไว้วางใจได้ว่าการใช้งาน กรุงศรี ควิกเพย์ จะไม่มีการถูกโจรกรรมใดๆ เกิดขึ้นทั้งสิ้น
ข่าวเด่น