บลจ. ทิสโก้ ประเดิมขายทริกเกอร์ฟันด์ “หุ้นเยอรมัน” เป็นเจ้าแรกของไทย “กองทุนเปิด ทิสโก้ เยอรมัน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8%” ลงทุนในหุ้นบริษัทชั้นนำของโลกจากเยอรมัน เปิดโอกาสสร้างผลตอบแทน 8% ภายใน 8 เดือน ชี้ตลาดหุ้นเยอรมันโดดเด่นสุดในยุโรป เศรษฐกิจฟื้นตัวแข็งแกร่ง-ตลาดหุ้นถูกสุดในยุโรป มีอัพไซด์กว่า 16% ไอพีโอ 4 - 12 มิ.ย. 57 นี้
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, First Senior Vice President, Head of Marketing and Wealth Advisory, Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co.,Ltd.) เปิดเผยว่า เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ และผู้นำด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์กองทุนรวมรูปแบบใหม่ ที่สามารถตอบโจทย์การลงทุนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในจังหวะเวลาที่เหมาะสม ล่าสุด บลจ.ทิสโก้ ได้เปิดตัวกองทุนใหม่ซึ่งมีนโยบายลงทุนใน “ตลาดหุ้นเยอรมัน“ เป็นเจ้าแรกในเมืองไทย ในรูปแบบกองทุนทาร์เก็ตฟันด์ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสเพิ่มผลตอบแทนให้แก่ผู้ลงทุน จากความโดดเด่นของตลาดหุ้นและพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่สุดในยุโรปของเยอรมัน
โดยกองทุนใหม่ล่าสุดดังกล่าว คือ “กองทุนเปิด ทิสโก้ เยอรมัน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8%” เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในตลาดหุ้นเยอรมัน ผ่านกองทุนหลักคือ db x-trackers DAX UCITS ETF (DR) ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เยอรมัน ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนของกองทุน ให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนีตลาดหลักทรัพย์เยอรมัน (DAX) ทั้งนี้กองทุนมีอายุโครงการประมาณ 8 เดือน หรือสามารถเลิกโครงการก่อนครบกำหนดอายุโครงการ หากสามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 8%
กองทุนหลักดังกล่าวจะลงทุนในบริษัทชั้นนำของโลกที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นเยอรมัน (DAX) เช่น ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ บีเอ็มดับเบิลยู (BMW), เดมเลอร์ (Daimler) ผู้ผลิตรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์, โฟล์คสวาเกน (Volkswagen) รวมถึงธุรกิจชั้นนำอย่าง อลิอันซ์ (Allianz) ธุรกิจประกันรายใหญ่ของโลก, ดอยช์แบงก์ (Deutsche Bank) ธุรกิจการเงินรายใหญ่ของโลก, ไบเออร์ (Bayer) บริษัทชั้นนำระดับโลกด้านการดูแลสุขภาพ, ซีเมนส์ (Siemens) บริษัทชั้นนำระดับโลกด้านวิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, อาดิดาส (Adidas) แบรนด์อุปกรณ์กีฬาระดับโลก เป็นต้น โดยบริษัทชั้นนำดังกล่าวมีกลุ่มลูกค้าอยู่ทั่วโลก และมีผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและยุโรป
โดยผลการดำเนินงานของบริษัทชั้นนำที่โดดเด่น อาทิ Bayer ได้ประกาศตัวเลขในไตรมาส 1 ของปีนี้ออกมา ปรากฎว่ามีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีเพิ่มขึ้นถึง 18% เมื่อเทียบกับช่วยเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กลุ่ม Daimler มียอดขายรถยนต์ในไตรมาสแรกของปีเพิ่มขึ้นรวม 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่บริษัทชั้นนำอื่นๆ ก็มีการเติบโตทางธุรกิจไปในทิศทางเดียวกันเช่นเดียวกัน
นายสาห์รัช กล่าวว่า ความน่าสนใจของการลงทุนในตลาดหุ้นเยอรมัน อยู่ที่พื้นฐานทางเศรษฐกิจที่มีความแข็งแกร่งที่สุดในยุโรป โดยในไตรมาสแรกเศรษฐกิจเยอรมันมีตัวเลขการขยายตัวเพิ่มขึ้นสูงถึง 0.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งสูงสุดในรอบ 3 ปี และดีกว่าประเทศอื่นในยุโรป ขณะที่กลุ่มยูโรโซนขยายตัวเพียง 0.2% และเยอรมันมีอัตราการว่างงานเพียง 5% ซึ่งต่ำมากหากเทียบกับกลุ่มประเทศในยุโรปที่ส่วนใหญ่มีอัตราการว่างงานตั้งแต่ 10-25% และที่สำคัญผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในเยอรมัน ยังคงมีการเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ Valuation อยู่ในระดับที่ถูกกว่าเมื่อเทียบกับประเทศในยูโรโซนด้วยกัน โดยปัจจุบัน ดัชนี DAX ของเยอรมัน ซื้อขายที่ ระดับ P/E ประมาณ 13.8 เท่า ต่ำกว่าดัชนี Europe STOXX600 ซึ่งเทรดที่ P/E ราว 15.4 เท่า และคาดว่าในปี 2558 ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนจะมีการเติบโตอยู่ที่ 14% ทำให้ตลาดเยอรมันมีอัพไซด์อยู่ที่ 16%
“กองทุนเปิด ทิสโก้ เยอรมัน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในตลาดหุ้นเยอรมัน ดังนั้นผู้ลงทุนจึงเปรียบเสมือนได้ลงทุนในตลาดหุ้นชั้นนำของโลกเหล่านี้ และจากการปัจจัยด้านการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจยุโรป แนวโน้มผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้การลงทุนในตลาดหุ้นเยอรมันจึงถือเป็นตลาดที่น่าสนใจลงทุนมากในช่วงนี้ โดย บลจ.ทิสโก้ ถือเป็นเจ้าแรกในไทยที่ออกกองทุนนี้ และมั่นใจว่าจะได้กระแสตอบรับเป็นอย่างดีแน่นอน” นายสาห์รัช
โดย “กองทุนเปิด ทิสโก้ เยอรมัน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8%” ” มีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท โดยเปิดเสนอขายครั้งแรก 4 - 12 มิ.ย. 2557 มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 5,000 บาท สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อขอหนังสือชี้ชวนฯ และจองซื้อได้ที่ บลจ. ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือสอบถามได้ที่ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 4
ข่าวเด่น