กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ คนที่ 12 โชว์วิสัยทัศน์ “ต่อยอด-สร้างใหม่-ขยายฐาน” ต่อยอดและเพิ่มจำนวนสินค้าปัจจุบันให้หลากหลาย สร้างสินค้าและบริการใหม่ตอบโจทย์ลูกค้า เปิดตลาดสินค้าโภคภัณฑ์และตราสารหนี้ และขยายฐานผู้ลงทุนระยะยาว ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพ เพื่อตลาดทุนเป็นที่พึ่งพิงให้กับประเทศ และตอกย้ำความเป็นตลาดชั้นนำในภูมิภาค
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คนที่ 12 เปิดเผยถึงแนวทางการพัฒนาตลาดหลักทรัพย์ไทยให้ก้าวสู่เวทีสากล ว่า “ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมุ่งเน้น 3 ด้าน คือ การต่อยอดสินค้าที่มีในปัจจุบันให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นและหลากหลายยิ่งขึ้น การสร้างใหม่คือการพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ๆ และการขยายฐานผู้ลงทุนที่มุ่งเน้นปลูกฝังความเข้าใจในเรื่องการลงทุนว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต โดยทั้ง 3 ด้านจะดำเนินการควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพ เพื่อตลาดทุนสามารถเป็นที่พึ่งพิงให้กับประเทศ พร้อมตอกย้ำเป็นตลาดทุนชั้นนำในภูมิภาค”
ต่อยอด: ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะต่อยอดสินค้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยเพิ่มจำนวนบริษัทจดทะเบียนมากขึ้นซึ่งจะช่วยขยายขนาดของตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้เติบโต พร้อมทั้งเพิ่มความหลากหลายให้มีหลักทรัพย์หุ้นและอนุพันธ์ประเภทใหม่ๆ ทั้งจากต่างประเทศและในประเทศ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถใช้ประโยชน์จากตลาดทุนอย่างเต็มที่ และผู้ลงทุนมีทางเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการการลงทุน ขณะเดียวกัน ตลาดหลักทรัพย์ฯ เดินหน้าสนับสนุนภาคธุรกิจ SMEs ให้ระดมทุนผ่านตลาดหุ้นไทย เนื่องจากกลุ่มธุรกิจนี้มีเป็นจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่ยังขาดเงินทุนเพื่อการขยายธุรกิจ ซึ่งจะเป็นจักรกลที่สำคัญในการพัฒนาประเทศได้อย่างยั่งยืน
สร้างใหม่: ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังมุ่งสร้างสินค้าและบริการประเภทใหม่ๆ ให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น ครอบคลุมทุกฟังชั่น ทั้งงานที่บริการแก่ลูกค้าและงานบริการหลังการซื้อขายที่เป็นมาตรฐานระดับตลาดชั้นนำ ด้านสินค้าจะมีเครื่องมือการลงทุนใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์และตราสารหนี้ ซึ่งสินค้าเหล่านี้มีการจัดตั้งตลาดและซื้อขายอย่างกว้างขวางในต่างประเทศ แต่ตลาดหลักทรัพย์ไทยในปัจจุบันยังเน้นเพียงตราสารทุนและตราสารอนุพันธ์ จึงนับเป็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญ นอกจากนี้ ยังมีแผนเพิ่มบริการหลังการซื้อขาย (post trade) ให้ครอบคลุมการบริการให้กับตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน
ขยายฐาน: การขยายฐานผู้ลงทุนเป็นอีกภารกิจหนึ่งที่สำคัญ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เดินหน้าสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการลงทุนให้กับผู้ลงทุนและประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นกลุ่มที่เริ่มชีวิตการทำงานว่าการลงทุนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่จะต้องทำความรู้จักตั้งแต่วันนี้ และยิ่งเริ่มเร็วก็จะยิ่งได้รับประโยชน์จากการลงทุน เนื่องจากวัยเริ่มทำงานจะมีระยะเวลาในการลงทุนนานก่อนจะถึงวัยเกษียณ จึงสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนระยะยาว และสร้างให้เกิดอิสรภาพทางด้านการเงิน และในที่สุดจะส่งผลดีต่อประเทศ เนื่องจากประเทศไทยกำลังก้าวสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุ (aging society) การที่ประชาชนเตรียมพร้อมก่อนเข้าสู่วัยเกษียณจึงจำเป็นอย่างยิ่ง
การดำเนินงานตามแผนทั้ง 3 ด้านจะเน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพ โดยพร้อมสนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนได้เข้าไปอยู่ในการจัดอันดับระดับโลกเพิ่มขึ้น อาทิ ดัชนีด้านความยั่งยืน DJSI (Dow Jones Sustainability Index) หรือการจัดอันดับด้านบรรษัทภิบาลตามมาตรฐานสากล นอกจากนี้จะพัฒนาให้การเข้าถึงตลาดและการรับข้อมูลสะดวกสบายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยนำเทคโนโลยีระบบออนไลน์เข้ามาผนวกบริการด้านต่างๆ ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ไว้ด้วยกันอย่างครบวงจรเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ลงทุน
ทั้งนี้ การทำงานสำหรับช่วงครึ่งหลังของปี ยังคงเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ปี 2557 ที่มุ่งเพิ่มคุณภาพ บริษัทจดทะเบียน ผู้ลงทุนบุคคล สถาบันตัวกลาง และผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อรองรับกับความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายในและต่างประเทศที่สูงขึ้น พร้อมสร้างความเชื่อมโยงกับภูมิภาค รวมทั้งเดินหน้าพัฒนาประสิทธิภาพระบบโครงสร้างพื้นฐานให้เสร็จสมบูรณ์
ไม่เพียงเท่านี้ยังเตรียมเสนอแผนต่อที่ประชุมกรรมการหรือบอร์ด ในการเสนอแผนระยะ ปี 2020 หรือในอีก 6 ปีข้างหน้า(พ.ศ.2563) เพื่อวางรากฐานในการขยับเป้าหมายปั๊มวอลุ่มซื้อขายเพิ่มเป็น 1 แสนล้านบาทต่อวัน หลังจากช่วง 4 ปีที่ผ่านมาวอลุ่มตลาดหุ้นไทยก็ได้ขยับเพิ่มขึ้นอีกขั้นเป็นระดับ 3-4 หมื่นล้านบาทต่อวันไปเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับมั่นใจด้วยว่า กับประสบการณ์ในการทำงานที่ผ่านมาที่มีความเชี่ยวชาญในการเพิ่มสินค้าหรือผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ๆโดยเฉพาะสินค้าในตลาดอนุพันธ์ จึงมีความมั่นใจว่าจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจของตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้น และเตรียมก้าวเข้าสู่ระดับเอเชีย จากปัจจุบัน ตลท.ถือว่าได้ก้าวมาอยู่ในระดับอาเซียนแล้ว
ข่าวเด่น