"ลีสซิ่งกสิกรไทย"ชี้การเมืองคลี่คลาย เศรษฐกิจส่อแววฟื้นตัว หนุนตลาดรถใหม่กระเตื้อง เชื่อครึ่งปีหลังโตดีกว่าครึ่งแรก รับปีนี้ยอดรถใหม่ไม่เกิน 1 ล้านคัน สินเชื่อเช่าซื้อทั้งระบบโตได้ 4.5-8% ย้ำทุกแบงก์ยังห่วงเรื่องคุณภาพหนี้ เลี่ยงแข่งเดือด
นายอัครนันท์ ฐิตสิริวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ในไตรมาส 2 น่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นตามแนวโน้มเหตุการณ์ทางการเมืองที่เริ่มคลี่คลายมากขึ้น การเดินหน้าโครงการต่างๆ ของภาครัฐ และการลงทุนของเอกชนน่าจะเริ่มก็น่าจะเริ่มกลับมามั่นใจมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้กำลังซื้อของประชาชนเริ่มฟื้นตัวกลับมาได้ระดับหนึ่ง เมื่อบวกกับค่ายรถยนต์ที่จัดแคมเปญกระตุ้นตลาดและเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ก็น่าจะยิ่งทำให้ตลาดเริ่มฟื้นตัวได้ดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก
“เรามองว่าตลาดรถเพื่อการพาณิชย์น่าจะได้รับอานิสงส์โดยตรงจากปัจจัยเกื้อหนุนดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ยังมองว่าภาพรวมของปีนี้ ตลาดรถยนต์ในประเทศก็น่าจะยังคงหดตัวค่อนข้างมากหลังจากหมดโครงการรถคันแรกไปแล้ว โดยคาดว่าจะมียอดขายรถยนต์ในประเทศรวมไม่เกิน 1 ล้านคันเท่านั้น”
ด้านสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์นั้น นายอัครนันท์ กล่าวว่า ปีนี้น่าจะยังคงมีทิศทางเติบโตแบบชะลอตัวลงต่อเนื่องจากปีที่แล้ว ทั้งเป็นภาวะที่สอดคล้องไปกับทิศทางยอดขายรถยนต์ใหม่ที่ชะลอลงตามปัจจัยเศรษฐกิจและกำลังซื้อ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ประมาณการยอดคงค้างของสินเชื่อเช่าซื้อในระบบธนาคารพาณิชย์ว่า น่าจะเติบโตได้ 4.5-8% บนสมมติฐานว่าจีดีพีขยายตัวได้ 1.8% นับเป็นการเติบโตที่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับสินเชื่อเช่าซื้อปีที่แล้วซึ่งขยายตัว 8.4%
นอกจากการขยายสินเชื่อแล้ว ปัจจัยด้านคุณภาพสินเชื่อก็เป็นประเด็นที่สถาบันการเงินต้องดูแลมากเป็นพิเศษ หลังจากปัญหาหนี้เสียได้ทยอยปรับเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี 2556 ท่ามกลางปัญหาหนี้ครัวเรือนที่เร่งตัวสูงและเศรษฐกิจยังมีความเสี่ยงในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงราคารถมือสองที่ตกต่ำลงมาตั้งแต่โครงการรถคันแรก ตอนนี้เริ่มทรงตัวแล้ว แต่เชื่อว่าธนาคารพาณิชย์ก็น่าจะยังคงระมัดระวังการปล่อยกู้อยู่เช่นเดิม
นายอัครนันท์ กล่าวอีกว่า ความกังวลด้านคุณภาพสินเชื่อนั้น เป็นปัจจัยที่กดดันธนาคารและบริษัทในเครือธนาคารที่ให้บริการด้านเช่าซื้อไม่สามารถรุกขยายสินเชื่อได้หนักมาก แม้ว่าสถานการณ์ในเวลานี้ธนาคารหลายแห่งปล่อยสินเชื่อภาคธุรกิจรายใหญ่ได้ยาก และต้องหันมาเน้นตลาดสินเชื่อรายย่อยมากขึ้นแทนก็ตาม แต่ก็ยังต้องมระมัดระวังเรื่องนี้อยู่ จึงไม่สามารถเข้ามาแข่งขันได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะเรื่องราคา แต่หันกลับมาปรับปรุงระบบการทำงาน เพื่อลดขั้นตอนการอนุมัติสินเชื่อมากขึ้น ทำให้บริการในเวลานี้ค่อนข้างใกล้เคียงกันมาก
ส่วนผลงานของลีสซิ่งกสิกรไทยนั้น ช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ การเติบโตของสินเชื่อเป็นไปตามแนวโน้มของตลาดรถยนต์ที่ผันผวนตามสภาพเศรษฐกิจ โดยบริษัทสามารถรักษาระดับคุณภาพสินเชื่อได้ดี มีอัตราหนี้เสียเพียง 0.94% พร้อมกับปรับตัวหันมาขยายตลาดบิ๊กไบค์ซึ่งเป็นตลาดที่ยังเติบโตได้และมีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งช่วยพยุงให้การเติบโตในช่วงเวลานี้ยังทำได้ตามเป้าหมายที่ประเมินไว้
ข่าวเด่น