ปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ธุรกิจชุดชั้นในต้องชะลอแผนการทำกิจกรรมการตลาดและเปิดตัวสินค้าใหม่ไปเหมือนกับหลายๆ ธุรกิจ แต่หลังจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ และการเมืองเริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ผู้ประกอบการในธุรกิจต่างๆ ก็เริ่มตบเท้ากลับมาทำกิจกรรมการตลาดอีกครั้ง เช่นเดียวกับตลาดชุดชั้นใน
บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) ถือเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่ชะลอแผนการทำกิจกรรมการตลาดไปในช่วง 5 เดือนแรก เนื่องจากไม่มั่นใจในสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองที่เกิดขึ้น ซึ่งจากการชะลอแผนการทำการตลาดดังกล่าว ส่งผลให้ภาพรวมยอดขายของ บริษัท ซาบีน่า มีอัตราการเติบโตลดลงไปพอสมควร
นายอมรเทพ อสีปัญญา ผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมของผลการดำเนินงานในช่วง 5 เดือนแรกที่ผ่านมาของปีนี้ มียอดขายตกลงไปประมาณ 10% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้น ประกอบกับบริษัทมีการชะลอการจัดกิจกรรมทางการตลาดออกไป จากปกติจะเริ่มออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายในช่วงเดือน พ.ค. แต่ก็ต้องเลื่อนออกไป เพราะสถานการณ์ไม่ปกติ
หลังจากสถานการณ์เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ บริษัท ซาบีน่า ได้ออกมาประกาศใช้งบที่เหลืออีกประมาณ 80-90% จากงบการตลาดรวมทั้งปีที่วางไว้ประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อทำกิจกรรมส่งเสริมการขายมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง โดยล่าสุดได้ออกมาเปิดตัวผลิตภัณฑ์ "ดูม ดูม ใหม่ บายด์ ซาบีน่า เน้น เน้น เนินแนบนาน" ภายใต้งบประมาณ 10 ล้านบาท
นายอมรเทพ กล่าวว่า หลังจากชุดชั้นในซาบีน่าประสบความสำเร็จในการทำตลาดชุดชั้นในดันทรง โดยมีผลิตภัณฑ์ชุดชั้นในกลุ่ม Sabina Doomm Series เป็นผู้นำตลาดที่สามารถครองใจลูกค้าสาวคัพเล็ก เนื่องจากฟังก์ชั่นที่สามารถตอบสนองความต้องการของสาวคัพเล็กได้เป็นอย่างดี ที่ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพ ความมั่นใจในการสวมใส่ ตลอดจนแนวคิดการสื่อสารการตลาดที่สร้างการจดจำตราสินค้าให้แก่ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี
สำหรับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ‘ดูม ดูม ใหม่ บายด์ ซาบีน่า เน้นเน้น...เนินแนบนาน’ เข้ามาทำตลาดในครั้งนี้ ก็เพื่อเสริมความมั่นใจให้แก่สาวคัพเล็ก โดยปรับแบบความโค้งของฟองน้ำให้บราแนบสนิทกับเนินอกได้นานตลอดทั้งวัน พร้อมดีไซน์ด้านข้างที่เนียนเรียบไร้เอ็น ทำให้ใส่สบาย และยังมีขนาดกว้างขึ้น ช่วยเก็บเนื้อส่วนเกิน เพิ่มความมั่นใจทุกการเคลื่อนไหว พร้อมกันนี้ยังเน้นดีไซน์การตัดเย็บที่มีลวดลายสะท้อนความเป็นแฟชั่นมากขึ้น
ส่วนแนวทางทำตลาดก็จะเน้นไปที่การสร้างการรับรู้ ด้วยการใช้กลยุทธ์ MVC หรือ Music Video Commercial เป็นการปรับวิธีการสื่อสารให้เข้ากับไลฟ์สไตล์กลุ่มเป้าหมายวัยมหาวิทยาลัย ถึงวัยเริ่มทำงาน ในรูปแบบวีดีโอเพลงโฆษณาแนวสนุกสนาน ที่บอกถึงปัญหาของสาวคัพเล็กและนำเสนอจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ได้อย่างแนบเนียน
นอกจากนี้ ยังได้ดึง ‘พลอยฝน- เฌอปัฐน์ กิตติพรวริษฐ์’ Net Idol ของสาวๆ บนโลกโซเชียลมีเดีย ที่มียอดคนติดตามกว่า 2 ล้าน Follower มาแสดงนำในการดำเนินเรื่องราวเพื่อเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ทาง www.facebook.com/SabinaDoommSeries เป็นหลัก เพื่อสื่อสาร Key Message “ เน้นเน้น...เนินแนบนาน” อีกทั้งตอกย้ำด้วยท่าเต้นที่บ่งบอกถึงฟังก์ชั่นของสินค้า ที่จะมาเรียกกระแสสาวๆ คัพเล็ก ให้หันมาใส่ ดูม ดูม ใหม่ได้อย่างมั่นใจ รวมไปถึงการทำกิจกรรมผ่านสื่อ ณ จุดขาย เพื่อกระตุ้นการซื้อสินค้าผ่านช่องทางขายซาบีน่าช้อป และเคาน์เตอร์จำหน่ายชุดชั้นในตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ
นายอมรเทพ กล่าวปิดท้ายว่า ภายหลังจากทำกิจกรรมกับสินค้าใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว รวมถึงสินค้าใหม่ที่คาดการณ์ว่าจะวางแผนเปิดตัวได้ในช่วงเดือน ก.ย.นี้ มั่นใจว่าจะยังสามารถมีอัตราการเติบโตได้อยู่ที่ 10% ตามเป้าหมายเดิมที่วางไว้ หรือคิดเป็นยอดขายอยู่ที่ประมาณ 3,450 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2556 ที่สามารถปิดยอดขายได้ที่ 3,100 ล้านบาท
ด้าน นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทจะหันมารุกทำกิจกรรมการตลาดผ่านกลยุทธ์ด้านซีเอสอาร์มากขึ้น ด้วยการเปิดตัวโครงการ วาโก้ บราเดย์ ปี 3 ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งโครงการสร้างสรรค์สังคมที่ทำการรณรงค์ให้ผู้หญิงทั่วประเทศร่วมกันบริจาคบรา สำหรับใช้ในการสร้างโอกาสให้กับผู้อื่น สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และส่งเสริมศักยภาพสตรีที่จัดขึ้นต่อเนื่อง
สำหรับปีนี้ได้ขยายการทำดีในมุมที่กว้างขึ้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ "บรามีค่า...สร้างอาชีพ รักสิ่งแวดล้อม" นอกจากจะเชิญชวนให้ผู้หญิงทุกคนร่วมกันบริจาคบราเพื่อสร้างอาชีพสร้างรายได้ ผ่านทางสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ แล้ว ยังได้มีส่วนร่วมในการช่วยลดสิ่งแวดล้อม ด้วยการนำบราที่เสื่อมสภาพมาย่อยสลายอย่างมีคุณค่า โดยความร่วมมือจาก บมจ.ไทยวาโก้ หนึ่งในพันธมิตร ปีนี้ได้สนับสนุนและดำเนินการในเรื่องของ “บรา จีโอไซเคิล” (Geocycle) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของกลุ่มผลิตภัณฑ์ชุดชั้นในของประเทศไทย ในการจัดการซากของผลิตภัณฑ์อย่างมีระบบได้มาตรฐาน ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ “WHEN MOM WAS YOUNG” ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการบอกเล่าวันวานในสมัยคุณแม่สาว โดยมีการเพิ่มดีเทลให้ดูโดดเด่นขึ้นด้วยการปักฉลุ พร้อมทั้งการประดับตกแต่งด้วยลูกไม้และโบ ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด 5 ลาย ได้แก่ 1. Cuddle Do 2. Cozy Posy 3. Miss P 4. Mama Check และ 5. Mama Tale พร้อมกันนี้ ยังมีชุดว่ายน้ำอีก 3 แบบให้คุณสาวๆ ได้ใส่อวดหุ่นสวยริมชายหาดอีกด้วย
การนำเสนอแฟชั่นใหม่ๆ ให้กับชุดชั้นในครั้งนี้ บริษัท ไอ.ซี.ซี.ฯ ต้องการให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากแบรนด์อื่นๆ และคิดว่าคอลเลกชันพิเศษที่ร่วมกับดีไซเนอร์ชื่อดังอย่างโคลเซ็ทจะทำให้ลูกค้าชื่นชอบและรู้สึกภูมิใจที่ได้ครอบครอง เพราะคอลเลกชันดังกล่าวมีจำนวนจำกัด (Limited Edition) และวางจำหน่ายในบางสาขาเท่านั้น
นายธรรมรัตน์ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดชุดชั้นในปีนี้ยังเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูงไม่ว่าจะเป็นตลาดระดับแมส หรือพรีเมียม ส่งผลให้ปัจจุบันตลาดรวมชุดชั้นในมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 7,000 ล้านบาท โดยในส่วนของแบรนด์วาโก้ มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ในตลาดมากกว่า 60% ซึ่งจากการแข่งขันที่รุนแรงดังกล่าว ส่งผลให้หลายๆ แบรนด์ในตลาดเริ่มหันมาพัฒนาสินค้าให้มีความหลากหลายและมีการทำการตลาดในรูปแบบต่างๆ ที่มีความชัดเจนมากขึ้น เพื่อชูจุดเด่นของผลิตภัณฑ์และดึงดูดความสนใจจากลูกค้า
หลังจากออกมาประกาศจับมือทำตลาดร่วมกับ “โคลเซ็ท” ด้วยการทำกิจกรรมการตลาดผ่านกลยุทธ์ Collaboration Marketing โดยผนวกจุดแข็งของทั้ง 2 แบรนด์ เพื่อตอบสนองความต้องการไปยังกลุ่มเป้าหมายเดิมของวาโก้ที่มีอยู่ในตลาด บริษัท ไอ.ซี.ซี. ฯ มั่นใจว่าจะสามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ไปยังกลุ่มแฟชั่นนิสต้าที่ชื่นชอบการแต่งตัว มีความกล้าแสดงออก มีไลฟ์สไตล์เป็นของตัวเองได้เป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวเป็นกลุ่มที่มีอำนาจการซื้อ
จากแนวโน้มที่ดีขึ้นดังกล่าว ประกอบกับมีการออกมาเปิดตัวสินค้าใหม่เข้าทำตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับผู้บริโภค บริษัท ไอ.ซี.ซี.ฯ มั่นใจว่าภาพรวมยอดขายของผลิตภัณฑ์วาโก้สิ้นปีนี้น่าจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% แม้ว่าช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาภาพรวมยอดขายจะมีอัตราการเติบโตค่อนข้างชะลอตัว
การออกมาเปิดตัวสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่องของผู้ประกอบการชุดชั้นใน เชื่อว่าน่าจะทำให้ภาพรวมตลาดชุดชั้นในช่วงครึ่งปีหลังมีความคึกคักมากขึ้น ส่วนภาพรวมสิ้นปีตลาดชุดชั้นในจะมีอัตราการเติบโตได้ที่เท่าไหร่ คงต้องรอดูอารมณ์การจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคว่าจะกลับมาเป็นปกติได้ในเร็ววันนี้หรือไม่.
(1).jpg)
ข่าวเด่น