ทิสโก้ ตอกย้ำตลาดเอเชียเหนือโดดเด่น พร้อมแนะลงทุนเพิ่ม ล่าสุดโชว์ผลงานบริหารกองทริกเกอร์ “หุ้นจีน” ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศเอเชียเหนือเข้าเป้าหมายต่อเนี่อง ใน 2 สัปดาห์เข้าเป้า 2 กองรวด สร้างกำไร 8% ภายใน 3 เดือน
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, Head of Marketing and Wealth Advisory, Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co.,Ltd.) เปิดเผยว่า ในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา บลจ.ทิสโก้ สามารถโชว์ผลงานบริหารกองทุน ทริกเกอร์ฟันด์ “หุ้นจีน” เข้าเป้าหมายถึง 2 กองติดต่อกัน โดยล่าสุด “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ทริกเกอร์ 8% # 14” (TISCO China Trigger 8% Fund # 14) ซึ่งเป็นกองทาร์เก็ตฟันด์ลงทุนในหุ้นจีน มี NAV ณ วันที่ 10 มิ.ย. 57 ที่ผ่านมา NAV เท่ากับ 10.8607 บาทต่อหน่วย ทำให้เลิกโครงการได้ก่อนกำหนดโดยใช้ระยะเวลาเพียง 3 เดือนเท่านั้น ซึ่งนับเป็นกองทุนที่สองที่ถึงเป้าหมาย หลังจากก่อนหน้านี้เพียง 1 สัปดาห์ “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ทริกเกอร์ 8% # 12” ที่มีนโยบายลงทุนเดียวกัน ก็เข้าเป้าหมายในระยะเวลาเพียง 4 เดือน ซึ่งผลงานทั้งหมดตอกย้ำมุมมองการลงทุนที่แม่นยำ และความเชี่ยวชาญในการจับจังหวะลงทุนที่เหมาะสมของทิสโก้ได้เป็นอย่างดี จึงสามารถสร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายถึง 2 กองทุนภายในเวลาเพียง 2 สัปดาห์
“ตลาดหุ้นจีนปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามที่เราคาดไว้ก่อนหน้านี้ว่าเศรษฐกิจจีนสามารถเติบโตได้ในระดับดี โดยแม้จะมีความผันผวนหรือบางช่วงอาจชะลอตัวบ้าง แต่เราก็เชื่อว่าทางการจีนจะออกมาตรการเพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจเติบโต ดังนั้นในช่วงที่ตลาดหุ้นจีนปรับฐานลงมาเราจึงมองว่าเป็นจังหวะเข้าลงทุน หากตลาดคลายความกังวล ดัชนีหุ้นจีนจะดีดกลับ จึงออกกองทริกเกอร์หุ้นจีนในช่วงที่ราคาหุ้นยังถูก ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปตามที่คาดไว้ โดยหลังจากเปิดขายก็สามารถสร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายที่ 8% ภายในเวลา 3 เดือนและ 4 เดือน ทำให้ปิดกองคืนเงินได้ก่อนกำหนด “นายสาห์รัช กล่าว
ในฝั่ง ทิสโก้ เวลธ์ (TISCO Wealth) ซึ่งเป็นหน่วยวางกลยุทธ์การลงทุนของทิสโก้ ยังคงแนะนำให้นักลงทุนกระจายการลงทุนในตลาดหุ้นกลุ่มเอเชียเหนือ ซึ่งประกอบด้วย 4 ประเทศ ได้แก่ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน และเกาหลีใต้ โดยเชื่อว่าตลาดหุ้นเอเชียเหนือจะยังคง Outperform ตลาดหุ้นในประเทศพัฒนาแล้ว เนื่องจาก Valuation ที่ถูกกว่า สัญญาณการเริ่มไหลกลับของเงินลงทุนเข้าสู่ภูมิภาคเอเชีย โดยคาดการณ์ผลกำไรของดัชนี MSCI EM FarEast ของตลาดหุ้นในเอเชีย เริ่มทรงตัวตั้งแต่ช่วงเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา หลังจากที่ถูกปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้ว สะท้อนให้เห็นมุมมองที่ดีขึ้นต่อการเติบโตของเศรษฐกิจเอเชีย หลังจากรายงานตัวเลขการส่งออกในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาเริ่มส่งสัญญาณขยายตัวได้อย่างโดดเด่น เงินทุนไหลเข้าต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมี.ค. สอดคล้องกับข้อมูลการเคลื่อนไหวของเงินทุนที่เริ่มกลับมาไหลเข้าใน Emerging Market ทำให้ Outperform ตลาดหุ้นในสหรัฐฯ และยุโรป ได้ตั้งแต่ช่วงเดือน มี.ค. เป็นต้นมา
ข่าวเด่น