หุ้นทอง
"เก็บภาษีกำไรหุ้น" ควรค้านหรือสนับสนุน?


 

จากกระแสข่าวในโลกออนไลน์ช่วง 2 วันก่อน (18-19 มิ.ย.) ว่าจะมีการพิจารณาเก็บภาษีกำไรหุ้น หรือ Capital Gain Tax จนส่งผลต่อนักลงทุนในตลาดหุ้นไทย แห่เทขายหุ้นกันออกมาจนร่วงแรงในวันที่ 18 มิถุนายน ลดลงไปเกือบ 20 จุด
 
 
 
 
แม้วันถัดมาจะคลายความกังวล หลังปลัดกระทรวงการคลังได้ออกมาปฏิเสธข่าวแล้วก็ตาม ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่อ่อนไหวมากต่อตลาดหุ้น เนื่องจากจะกระทบกับกลุ่มนักลงทุน ทั้งนักรายย่อยหรือนักลงทุนบุคคล นักลงทุนสถาบันในประเทศและต่างประเทศ ที่เคยชินกับการลงทุนโดยไม่ต้องเสียภาษีแม้แต่ “บาทเดียว” 


 
 
ทั้งนี้ นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ออกมาสร้างความกระจ่างให้กับนักลงทุน ว่าแนวคิดเรื่องการเก็บภาษีกำไรจากส่วนต่างราคาหุ้น หรือ Capital Gain Tax ได้มีหลายความเห็นที่แตกต่างกันมานานแล้ว และในช่วงนี้ซึ่งถือเป็นช่วงที่กำลังสร้างความเชื่อมั่นต่อการต่อการลงทุนในตลาดหุ้นและหลายภาคส่วนให้กลับมาสู่ภาวะปกติ ส่วนตัวจึงมีแนวคิดว่าให้ชะลอแนวคิดนี้ไว้ก่อน  
 
พร้อมกับให้เหตุผลว่า หากมีการเก็บภาษีกำไรตลาดหุ้นจริง ซึ่งถือว่าเป็นตลาดหุ้นที่มีนักลงทุนรายย่อยสัดส่วนสูงถึงกว่าร้อยละ 50 ของสัดส่วนนักลงทุนทั้งตลาด ซึ่งถือว่ามีความหลากหลายมาก ในส่วนของนักลงทุนบุคคล ไม่ได้จำกัดเฉพาะคนบางกลุ่ม โดยมีตั้งแต่นักศึกษาจบใหม่ที่ไฟแรงต้องการแสดงความสามารถจากวิชาที่เรียนมาในตลาดหุ้น รวมถึงคนทำงาน และไปจนกระทั่งถึงผู้เกษียณอายุ นอกจากนี้ยังจะกระทบต่อออมเพื่อการลงทุนที่หลายภาคส่วนกำลังสนับสนุนอยู่ในขณะนี้ด้วย อาทิเช่น การออมผ่านกองทุนรวมหุ้นระยะยาว(LTF) และกองรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และผู้ที่ออมเป็นรายเดือนผ่านกองทุน หรือหุ้นรายตัว เป็นต้น
 
"คิดว่าหากทางการต้องการเพิ่มรายได้จากภาษี ควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับระบบจัดเก็บภาษี เพิ่มความสามารถในการจัดเก็บภาษีให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นจะดีกว่า โดยอุดช่องโหว่ของผู้มีรายได้สูงมาก แต่ยังไม่ได้เสียภาษี หรืออยู่นอกระบบภาษี หรือเสียภาษีอัตราน้อยมากกว่าที่ควร"นายสถิตย์ระบุ  

 
 
 
ด้าน นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า ตลท.และผู้เกี่ยวข้องกับตลาดทุนยังไม่มีแนวคิดการเก็บภาษีกำไรจากส่วนต่างราคาหุ้น (Capital Gain Tax) ของนักลงทุนรายย่อย เนื่องจากปัจจุบันกฎระเบียบต่าง ๆ ของตลาดหุ้นไทยเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกับตลาดหุ้นในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะตลาดหุ้นมาเลเซียและสิงคโปร์ ก็ยังไม่มีการเก็บภาษีส่วนนี้จากนักลงทุนรายย่อย
           
" ยืนยันว่ากฎระเบียบต่าง ๆ ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังอยู่ในรูปแบบเดียวกับตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน ทั้งมาเลเซียและสิงคโปร์ คือไม่ได้เก็บภาษีจากกำไรหุ้น ส่วนข่าวลือที่ออกมาก็ไม่มั่นใจว่ามาจากทางไหน นักลงทุนควรตรวจสอบข้อมูลที่มาที่ไปให้ดี"นางเกศรากล่าว

อนึ่ง จากข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ ระบุคำจำกัดความของ "นักลงทุนบุคคลหรือนักลงทุนรายย่อย" ว่าเป็นผู้มาเปิดบัญชีลงทุนในหุ้นในนามบุคคล โดยไม่ได้จำกัดว่า ต้องเป็นคนมีเงินมากหรือมีเงินน้อย
 
ส่วนกรณีที่เกรงว่ากระทบต่อความเชื่อมั่น หากดูข้อมูลย้อนหลังของตลาดหลักทรัพย์ฯ จะพบว่า มูลค่าการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันสูงขึ้นมากกว่าช่วงที่ผ่านมา โดยเฉลี่ย ณ ปัจจุบัน มีมูลค่าการซื้อขายที่ระดับ 3-6 หมื่นล้านบาทต่อวัน ขณะที่เฉลี่ยช่วง 4 ปีที่ีผ่านมา มีมูลค่าการซื้อขายเพียง 2-3 หมื่นล้านบาทต่อวัน นอกจากนี้ ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นยังมีความสามารถทำกำไรในอัตราการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนมาที่ราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่สูงขึ้นด้วย
 

LastUpdate 20/06/2557 12:13:51 โดย : Admin
23-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 23, 2024, 11:45 pm