ถ้าจะพูดถึงหน้าขายของกลุ่มสินค้าเครื่องซักผ้า แน่นอนต้องเป็นหน้าฝน เพราะจากสภาพอากาศที่ชื้นแฉะ ส่งผลให้เครื่องซักผ้ามีความจำเป็นและมีบทบาทอย่างมากในช่วงเวลาดังกล่าว เพราะถ้าผ้าไม่แห้งจะมีความอับชื้นและมีกลิ่นเหม็นได้ ด้วยปัจจัยดังกล่าวเหล่าบรรดาผู้ประกอบการเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีกลุ่มสินค้าเครื่องซักผ้า จึงเริ่มตบเท้าออกมาเปิดตัวสินค้าใหม่เข้าทำตลาด เพื่อชิงยอดขายในช่วงหน้าขายนี้
จากความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป มีความนิยมซักผ้าจำนวนมากและถนอมผ้ามากขึ้น ส่งผลให้สินค้าใหม่ที่ผู้ประกอบการออกมาเปิดตัวเข้าทำตลาด จะเน้นไปที่เครื่องซักผ้าขนาดใหญ่ตั้งแต่ 12 กิโลกรัมขึ้นไป ขณะเดียวกันก็มีการใส่เทคโนโลยีการซักที่ถนอมผ้าเป็นอีกหนึ่งฟังก์ชั่น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
นายอาณัติ จ่างตระกูล รองประธานองค์กร ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า จากปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจและการเมืองที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เช่น ตู้เย็น เครื่องซักผ้า และเครื่องปรับอากาศ มีอัตราการเติบโตติดลบไปประมาณ 10-20% เนื่องจากผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่น ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคปรับลดลง
อย่างไรก็ดี จากสถานการณ์โดยรวมจะเริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดี ซัมซุงคาดว่าภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก ด้วยเหตุนี้จึงได้เปิดตัวเครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นใหม่เข้าทำตลาดจำนวน 76 รุ่น แบ่งเป็น เครื่องปรับอากาศ 32 รุ่น ตู้เย็น14 รุ่น เครื่องซักผ้า 23 รุ่น เตาอบไมโครเวฟ 4 รุ่น และเครื่องดูดฝุ่น 3 รุ่น ซึ่งแผนดังกล่าวได้ถูกเลื่อนมาจากต้นปี เพราะความไม่สงบทางการเมือง
หนึ่งในกลุ่มสินค้าที่ซัมซุงยกเป็นไฮไลท์ของการทำตลาดในช่วงเวลานี้ คือ เครื่องซักผ้า ซึ่งสินค้าใหม่ที่ซัมซุงคาดว่าจะเป็นสินค้าทำเงินให้กับกลุ่มสินค้าเครื่องซักผ้าในปีนี้ คือ เครื่องซักผ้าฝาหน้าซัมซุงรุ่น WW9000 ขนาด 10 กิโลกรัม ที่ปฎิวัติวงการเครื่องซักผ้าด้วยการออกแบบที่เรียบหรู โค้งมน มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 5 นิ้ว ช่วยให้การควบคุมสะดวกสบายยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติ ออโต้ ออพติมัล วอช (Auto Optimal Wash) โปรแกรมซักอัฉริยะที่ปรับตั้งรูปแบบการซักอัตโนมัติทั้งปริมาณน้ำ ปริมาณผงซักฟอก ระยะเวลาซัก จำนวนรอบล้างน้ำ และระยะเวลาปั่นหมาดเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงเทคโนโลยี อีโค่ บับเบิ้ล (EcobubbleTM ) ที่ช่วยให้ซักผ้าได้สะอาด ไม่ทิ้งคราบตกค้าง อีกทั้งยังสามารถควบคุมเครื่องซักผ้าผ่านแอพลิเคชันสมาร์ทคอนโทรลในสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย เท่านี้การซักผ้าที่ยุ่งยากก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายๆ วางจำหน่ายในราคา 59,990 บาท
พร้อมกันนี้ ยังได้เตรียมแคมเปญโปรโมชั่นใหญ่ต้อนรับหน้าฝน “ซัมซุง เรนนี่ โปรโมชัน (Samsung Rainy Promotion)” ทัพสินค้าราคาพิเศษพร้อมสิทธิผ่อนชำระโดนใจ ทั้งยังเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่คู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ โดยได้จัดงานแสดงทัพนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านซัมซุงปี 2557 เพื่อให้คู่ค้าได้สัมผัสผลิตภัณฑ์และทดลองใช้ผลิตภัณฑ์จริงก่อนใคร ซึ่งหลังจากออกมาทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ซัมซุงคาดว่าจะมียอดขายเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
นายถกล นิยมไทย ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายการตลาดและบริการ บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าตอนนี้เริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นเช่นเดียวกับตลาดเครื่องซักผ้า เนื่องจากตอนนี้ฝนเริ่มตกมากขึ้น ซึ่งในส่วนของบริษัทเอง ปีนี้มีแผนที่จะเปิดตัวเครื่องซักผ้ารุ่นใหม่เข้ามาทำตลาดจำนวน 10 รุ่น ขนาด 12-16 กิโลกรัม เนื่องจากตลาดมีความต้องการเครื่องซักผ้าขนาดใหญ่มากขึ้น
ในด้านของเทคโนโลยีก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการตัดสินใจซื้อเครื่องซักผ้าของผู้บริโภค ซึ่งในส่วนของเทคโนโลยีที่ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญมากกว่าปีที่ผ่านมา คือ เทคโนโลยีการถนอมผ้า เพราะปัจจุบันเสื้อผ้าที่ผู้บริโภคซื้อมีราคาแพงมากขึ้น จึงทำให้อยากได้เครื่องซักผ้าที่มีเทคโนโลยีถนอมผ้า จะเห็นได้ว่าปีนี้ผู้ประกอบการจะออกมาเปิดตัวสินค้าใหม่ในรูปแบบดังกล่าวเข้ามาทำตลาดมากขึ้น
สำหรับเครื่องซักผ้าที่โตชิบาเปิดตัวมาเป็นไฮไลท์ในการทำตลาดปีนี้ คือ รุ่น S-DD Inverter ทำงานเงียบไร้เสียงรบกวน กับ 3 ขนาดความจุ 12, 14 และ 16 กิโลกรัม ที่มาพร้อมเทคโนโลยีกระแสน้ำวนรอบทิศทางกำหนดทิศทางน้ำช่วยให้ไม่เกิดปัญหาผ้าพันกัน พร้อมขจัดทุกคราบสกปรกที่ฝังลึกทุกใยผ้า เสริมด้วย 9 โปรแกรมการซัก มั่นใจได้เรื่องความสะอาดและช่วยถนอมผ้า
นายถกล กล่าวว่า หลังจากออกมาเปิดตัวเครื่องซักผ้ารุ่นใหม่เข้าทำตลาดในครั้งนี้ คาดว่าจะมีส่วนแบ่งในตลาดเครื่องซักผ้าเพิ่มอีกไม่ต่ำ 3-5% ซึ่งจะส่งผลให้สิ้นปีนี้ มีส่วนแบ่งการตลาดเครื่องซักผ้าเพิ่มเป็น 12% หรือ 10% เป็นอย่างต่ำ ภายหลังจากต้องเสียส่วนแบ่งการตลาดให้กับคู่แข่งไปเมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เพราะประสบกับปัญหาน้ำท่วมทำให้ไม่สามารถผลิตสินค้าได้
ด้าน "แอลจี" ปีนี้ได้ทยอยเปิดตัวเครื่องซักผ้ารุ่นใหม่เข้ามาทำตลาดตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา และในส่วนของไตรมาส 2 และ 3 ซึ่งถือเป็นช่วงหน้าขาย แอลจีมีแผนที่จะเปิดตัวเครื่องซักผ้าใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน จากแนวทางดังกล่าวจะทำให้ทั้งปีนี้ แอลจีจะมีเครื่องซักผ้ารุ่นใหม่เข้ามาทำตลาดทั้งหมด 10 รุ่น
นายอลงกรณ์ ชูจิตร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ที่บริษัททยอยเปิดตัวเข้ามาทำตลาดจะเน้นไปที่ขนาด 11-12 กิโลกรัมขึ้นไป เนื่องจากกำลังเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนที่จะทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้สิ้นปีมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นอีก 1-2% จากปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 31% ขึ้นเป็นผู้นำตลาดเครื่องซักผ้า
เครื่องซักผ้าที่แอลจีเปิดตัวเข้ามาทำตลาดในปีนี้ จะเน้นไปที่นวัตกรรมใหม่ของเครื่องซักผ้าฝาบน ด้วย LG SAPIENCE ระบบ 6 MOTION INVERTER DIRECT DRIVE หรือระบบถังซักเคลื่อนที่ 6 ทิศทางทีคอยปรับการซักตามรูปแบบของผ้า ไม่ว่าจะเป็นผ้าทั่วไป ผ้าขนสัตว์ ผ้าบาง หรือผ้าหนา และด้วยระบบทำน้ำอุ่นช่วยขจัดคราบผงซักฟอกออกได้ง่าย
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้แอลจีมั่นใจว่าจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งย้ำความเป็นผู้นำตลาดเครื่องซักผ้าได้ คือ สถานการณ์ทางการเมืองเริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น เช่นเดียวกับกำลังซื้อของผู้บริโภคโดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัด ซึ่งถือเป็นฐานลูกค้าหลักของเครื่องซักผ้า 2 ถัง ภายหลังจากเกษตรกรชาวนาเริ่มได้รับเงินจากโครงการรับจำนำข้าว
ในส่วนของ "พานาโซนิค" ปีนี้ยังคงให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยี อีโคเนวี่ ซึ่งมี 2 เซ็นเซอร์อัจฉริยะ ช่วยให้ผู้บริโภคประหยัดน้ำและไฟได้มากขึ้น โดยขนาดสินค้าจะมีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ขนาด 9 กิโลกรัม ถึง 16 กิโลกรัม ซึ่งในส่วนของเครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ ปีนี้ พานาโซนิค มีแผนที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดทั้งประมาณ 10-15 รุ่น จากเดิมมีสินค้าเข้าทำตลาดอยู่แล้วประมาณ 5 รุ่น เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค
ด้าน "ไฮเออร์" หลังจากออกมาประกาศกลยุทธ์ "การนำไฮเออร์เข้าถึงและเข้าใจในตัวผู้บริโภค" ด้วยการนำเสนอบริการ “Care +” ให้กับผู้บริโภคเพิ่มการรับประกันสินค้าจาก 3 ปีเป็น 5 ปี ก็ออกมาประกาศเดินหน้าเปิดตัวสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นใหม่ทุกกลุ่มเข้าทำตลาด หนึ่งในนั้นก็เป็นเครื่องซักผ้า ซึ่งปีนี้จะใช้กลยุทธ์การนำเสนอเครื่องซักผ้าอัตโนมัติและสองถังที่มีความจุมากขึ้นเข้าทำตลาด
แม้ว่าภาพรวมตลาดเครื่องซักผ้าช่วงครึ่งปีแรกจะอยู่ในภาวะที่ทรงตัว เนื่องจากได้รับผลกระทบด้านเศรษฐกิจและการเมืองส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอกำลังซื้อ โดยเฉพาะกลุ่มบริโภคในตลาดต่างจังหวัด ทำให้ตลาดเครื่องซักผ้า 2 ถัง และฝาบนขนาดเล็ก มีการหดตัว 5% เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นผู้บริโภคในตลาดต่างจังหวัด
แต่จากสถานการณ์ที่เริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบกับผู้ประกอบการในตลาดเครื่องซักผ้าออกมาเปิดตัวสินค้าใหม่เข้าทำตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการขยายตัว ทำให้ผู้ประกอบการในตลาดเครื่องซักผ้ามั่นใจว่าสิ้นปีนี้ตลาดรวมเครื่องซักผ้าน่าจะมีอัตราการเติบโตได้ที่ประมาณ 10-15% หรือมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 25,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน ในมูลค่าดังกล่าวแบ่งเป็นตลาดเครื่องซักผ้า 2 ถัง 40% ถังเดี่ยว 50% ที่เหลืออีก 10% เป็นเครื่องซักผ้าฝาหน้า
ข่าวเด่น