บลจ.กรุงศรี ปลื้มกองทุน LTF-RMF ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นมียอดเงินลงทุนใหม่สูงสุดและผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปีเป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรม สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและความไว้วางใจที่ผู้ลงทุนมอบให้กับบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด เปิดเผยว่า "กองทุน LTF-RMF ภายใต้การบริหารจัดการของ บลจ.กรุงศรี ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยปรับตัวลดลงจะมีจำนวนธุรกรรมและเม็ดเงินที่ลงทุนในกองทุนหุ้น กองทุน LTF และกองทุน RMF ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นเดือน พ.ค. 57 บริษัทมียอดเงินลงทุนใหม่ในกองทุน LTF และ RMF ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของอุตสาหกรรมคิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนใหม่รวมกว่า 1,363 ล้านบาท นอกจากนี้ กองทุนKFLTFDIV และ กองทุนKFDIVRMF ยังสามารถสร้างผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปี สูงสุดในกลุ่มกองทุน LTFและ RMFที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นทั้งหมดในประเทศไทยอีกด้วย”
กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาวปันผล (KFLTFDIV) เป็นกองทุนดาวเด่นที่มีจำนวนผู้ลงทุนและเม็ดเงินลงทุนเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จุดเด่นที่ทำให้ลูกค้าพึงพอใจและมีการบอกต่อกันอย่างกว้างขวาง เนื่องจากกองทุนมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กองทุนมียอดเงินลงทุนใหม่สูงสุดในอุตสาหกรรมในสัดส่วนที่สูงถึง 75% คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1,113 ล้านบาท นอกจากนี้ กองทุน KFLTFDIV ยังสามารถสร้างผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปี สูงสุดในกลุ่มกองทุน LTF โดยมีผลตอบแทนอยู่ที่ 242.36% (ข้อมูล Morningstar 31 พ.ค.57) และกองทุนยังมีประวัติการจ่ายเงินปันผลได้อย่างอย่างสม่ำเสมอในทุกปีที่ผ่านมานับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (พ.ย. 47) จำนวนรวมทั้งสิ้น 9 ครั้ง เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 6.59 บาท
นอกจากนี้ บริษัทยังมียอดเงินใหม่ที่ลงทุนในกองทุน RMF ที่นโยบายลงทุนในหุ้นสูงสุดในอุตสาหกรรม โดยมียอดเงินลงทุนใหม่ในสัดส่วน 40% เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 249 ล้านบาท สำหรับกองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นปันผลเพื่อการเลี้ยงชีพ(KFDIVRMF) ถือเป็นอีกหนึ่งกองทุนที่มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นอย่างสม่ำเสมอ และสามารถสร้างผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปี ได้สูงสุดในกลุ่มกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพทั้งหมดในประเทศไทย โดยมีผลตอบแทนอยู่ที่ 246.62% (ข้อมูล Morningstar 31 พ.ค.57)
สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในกองทุน LTF – RMF ควรพิจารณาลงทุนในกองทุนที่มีนโยบายที่เหมาะสมกับตนเอง และสร้างวินัยโดยการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้ง การลงทุนในกองทุน LTF-RMF ถือเป็นการลงทุนระยะยาวผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลผลการดำเนินงานย้อนหลังกลับไปอย่างน้อย 3 – 5 ปี เนื่องจากกองทุนที่ดีควรมี ผลการดำเนินงานที่ดีอย่างสม่ำเสมอ หากพิจารณาผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของกองทุน LTF จากข้อมูล Morning Star ณ วันที่ 31 พ.ค. 57 จะพบว่ากองทุน LTF ที่มีผลการดำเนินงานสูงสุดย้อนหลัง 5 ปี สามารถสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนได้ถึง 242.36% ส่วนกองทุน LTF ที่มีผลการดำเนินงานต่ำสุดผลตอบแทนมีผลตอบแทนที่ 8.65%
ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของกองทุน RMF จากข้อมูล Morning Star ณ วันที่ 31 พ.ค. 57 พบว่ากองทุน RMF ที่มีผลการดำเนินงานสูงสุดย้อนหลัง 5 ปี สามารถสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนได้ถึง 246.62% ส่วนกองทุนที่มีผลการดำเนินงานต่ำสุดผลตอบแทนอยู่ที่ 1.47% จะเห็นได้ว่ากองทุนที่มีผลการดำเนินงานแตกต่างกันจะสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนได้แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด หากผู้ลงทุนให้ความสำคัญกับการลงทุนเพื่อประหยัดภาษีแต่เพียงอย่างเดียว โดยไม่ให้ความสำคัญกับผลการดำเนินงานของกองทุน ผู้ลงทุนจะสูญเสียโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนไปเป็นเงินจำนวนมาก แม้ว่าผลการดำเนินงานในอดีตไม่อาจเป็นสิ่งยืนยันถึง ผลการดำเนินงานในอนาคต แต่ก็สามารถใช้เป็นข้อมูลประกอบเพื่อดูความสม่ำเสมอของผลการดำเนินงานที่ผ่านมาและใช้คาดการณ์แนวโน้มในอนาคต
“ผู้ลงทุนควรลงทุนในกองทุน LTF – RMF ให้เต็มสิทธิ์ที่ได้รับในช่วงที่ภาครัฐยังให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีดังกล่าว และไม่ควรรอลงทุนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ควรทยอยลงทุนอย่างสม่ำเสมอเพื่อช่วยลดความ ผันผวน และอาจเพิ่มสัดส่วนการลงทุนให้มากขึ้นในช่วงที่ดัชนีมีการปรับตัวลดลงเพื่อช่วยเฉลี่ยต้นทุน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มความสะดวกในการลงทุน ผู้ลงทุนสามารถทำรายการซื้อหน่วยลงทุนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต @cess Online Service ของ บลจ.กรุงศรีได้อีกด้วย” นายฉัตรพี กล่าว
ข่าวเด่น